ท่องเที่ยวบำบัด.. กับ 5 จุดหมายปลายทาง ที่จะทำให้คุณ “สูดโอโซน” ได้อย่างเต็มปอด - พักผ่อนดีต่อใจ
.
ชีวิตประจำวันอันแสนเคร่งเครียดจากภารกิจต่างๆ ทำให้หลายคนแทบไม่ได้ลุกเดินไปไหนมาไหน กิจวัตรประจำวันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เช้ามืดอาบน้ำแต่งตัว รีบเร่งออกเดินทางหรือขับรถไปออฟฟิศและนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน จนป่วยเป็นออฟฟิศซินโดรมโรคยอดฮิตของมนุษย์เงินเดือน แต่ที่แย่ไปกว่านั้นและถือเป็นฝันร้ายของทุกคนก็คือ “ภาวะน้ำหนักเกิน” หรืออาจร้ายแรงถึงขึ้น “อ้วนลงพุง” ช่างเป็นชะตากรรมอันแสนโหดร้ายเสียเหลือเกิน !?
หยุดเลย! หากคิดจะรีเฟรชร่างกายด้วยการไป "สูดโอโซน"
“ภาวะหลับใน” หาสาเหตุได้จากการตรวจสุขภาพการนอน
ชีวิตวนวูปแบบนี้นี่แหละ ที่เป็นตัวบังคับให้เราต้องสร้างความสมดุลให้กับชีวิต ด้วยการออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบหมวดหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นตรวจเช็คสุขภาพร่างกายอย่างน้อยปีละครั้ง แต่นอกเหนือไปจากกิจกรรมเหล่านี้ เชื่อไหมว่า... “การท่องเที่ยว” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม ที่ช่วยให้สุขภาพของคนเราดีขึ้นได้ !
ไม่ใช่แค่สุขภาพกายเพียงอย่างเดียว ทว่ายังรวมไปถึงสุขภาพจิตที่อยู่ภายในด้วย ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญดูแลและเอาใจใส่ ไม่น้อยไปกว่าความแข็งแรงของร่ายกายเลยทีเดียว
เหตุผลที่ทำให้การท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพร่างกายของคนเรา ก็เพราะการออกเดินทางทำให้เราได้ขยับเขยื้อนร่างกาย แถมยังได้สัมผัสกับธรรมชาติและสูดอากาศอันแสนบริสุทธิ์ ที่สำคัญยังช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายจิตใจ จากความเคร่งเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
บทความนี้เราจะพาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ไม่เพียงสวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปผืนป่าเขียวขจี แต่ยังเต็มไปด้วยอากาศอันแสนบริสุทธิ์ไร้มลพิษ ประหนึ่งเป็นเครื่องฟอกปอดให้กับพวกเรา จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย..
1. คุ้งบางกระเจ้า - พื้นที่สีเขียวรูปทรงกระเพาะหมูที่โอบล้มไปด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดกว่า 1,200 ไร่ ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้นานาพันธ์ุ ด้วยโลเคชั่นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก กทม. ในเขตพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปอดของกรุงเทพฯ” ในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ชาวกรุงและนักท่องเที่ยว ต่างพากันไปสัมผัสธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมทำกิจกรรมต่างๆ ตามความชื่นชอบ โดยเฉพาะการชิม ช้อป ชิล ณ ตลาดน้ำวัดบางน้ำผึ้ง ส่วนใครที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานที่นี่คือหนึ่งในเส้นทางที่ห้ามพลาด ด้วยเส้นทางที่ลัดเลาะผ่านสวนและคลองต่างๆ ทำให้นักปั่นไม่ต้องปะทะกับแสงแดดจ้ามากจนเกินไป หรือใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศก็มีที่พักใกล้ชิดธรรมชาติ และวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เลือกเช็คอินตามความชอบและงบประมาณของแต่ละคน
2. เขาใหญ่ - เขยิบห่างจากเมืองกรุงออกมาอีกนิด เขาใหญ่คือจุดหมายปลายทางสุดคลาสสิค ที่มีพื้นป่าอุดมบูรณ์และเต็มไปด้วยโอโซนให้เราได้ฟอกปอด ด้วยความไกลในระยะทาง 200 กม. นิดๆ จึงขับรถไปกันได้แบบชิลๆ ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ในปี 2548 เขาใหญ่จึงได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” จากองค์การยูเนสโก พร้อมได้รับการบันทึกสถิติไว้ว่า เป็นแหล่งที่มีอากาศบริสุทธ์ 1 ใน 7 ของโลกเลยทีเดียว และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ไม่ควรพลาด อาทิ “น้ำตกเหวสุวัต” ไม่ว่าใครเมื่อมีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ เป็นต้องขอแชะภาพมุมลอดปากถ้ำโฟกัสมายังตัวน้ำตกเก็บไว้เป็นที่ระลึก อยู่ไม่ไกลกันคือ “น้ำตกเหวนรก” น้ำตกขนาดใหญ่ ที่เห็นวิวมุมกว้างของน้ำตกจากหน้าผาลงมาด้านล่าง และอีกหนึ่งที่คือ “ผาเดียวดาย” แม้ชื่อฟังจะดูโดดเดี่ยวแต่รับรองว่าวิวสวยสุดๆ
3. ภูชี้ดาว - ยอดดอยมาแรงใน จ.เชียงราย ที่ตอนนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ที่ไม่ว่าใครๆ ก็อยากไปเที่ยวชมวิวทะเลหมอก สัมผัสอากาศหนาว และสูดโอโซนให้เต็มปอด โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวปลายปีและต้นปีแบบนี้ ความงดงามบนยอดดอยจะยิ่งสร้างความประทับใจ และตราตรึงใจจนยากจะลืมเลือน ด้วยจุดเด่นการมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา โดยไม่มีต้นไม้หรืออะไรมาขวางกั้น มีเพียงแนวรั้วไม้ไผ่กันเขตแดนป้องกันอันตราย ยิ่งวันไหนอากาศดีๆ จะมองเห็นภูชี้ฟ้า ยอดดอยรุ่นพี่ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดนี้อีกด้วย
4. แม่กำปอง - ขึ้นเหนือมายัง จ.เชียงใหม่ ที่นี่มีหลากหลายที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ให้เลือกไปพักผ่อนหย่อนใจได้ตามไลฟ์สไตล์ แต่หนึ่งในสถานที่ที่ครั้งหนึ่งควรไปหยุดความเคลื่อนไหว และลองใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ดูบ้างก็คือ “แม่กำปอง” ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.แม่ออน หมู่บ้านเล็กๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขาและมีลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน โลเคชั่นในฝันที่คนเมืองใหญ่อยากไปลองใช้ชีวิตสักครั้งหนึ่ง ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากการท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ แล้ว คือการได้พักโฮมสเตย์ริมธาร พร้อมตื่นขึ้นมาสัมผัสไอเย็นและจิบกาแฟสดรสอร่อยหอมกรุ่นยามเช้า
5. คีรีวง - เปลี่ยนบรรยากาศมาที่ภาคใต้ ที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ที่แห่งนี้ได้รับการขนานนามให้เป็น “หมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย” ด้วยความที่มีอากาศเย็นสบายทั้งปี หลายที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ต่างประทับใจกับความงดงาม ของเทือกเขาที่ตัดกับลำธารที่ไหลล้อมรอบหมู่บ้าน และติดใจรสชาติอาหารพื้นบ้านทางใต้ที่อร่อยครบรส และด้วยมนต์เสน่ห์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบนี้ ทำให้การได้มาท่องเที่ยว ณ หมู่บ้านคีรีวง เป็นอีกหนึ่งมิสชั่นที่ห้ามพลาดเด็ดขาด !
เมื่อรู้ว่าการออกเดินทางท่องเที่ยว ทั้งดีต่อกายและใจของเราขนาดนี้ หยุดยาวครั้งต่อไปลองชวนเดอะแก๊งค์เก็บกระเป๋าตะลุยจุดหมายทั้ง 5 ไปสัมผัสธรรมชาติและสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันเถอะพวกเรา~