กรมควบคุมโรครายงานยอด ATK สะสมรายสัปดาห์ เฉียด 1.5 แสน
กรมควบคุมโรครายงานยอด ATK สะสม 7 วัน (3-9 ก.ค.65) เฉียด 1.5 แสน สอดคล้องกับแพทย์และประกาศของปลัด สธ.ที่สั่งให้เตรียมพร้อมรับมือการระบาดระลอกใหม่
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ล่าสุด พบยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่าย (ATK) สะสม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-9 กรกฎาคม 2565 อยู่ที่ 149,537 ราย
และจากกราฟผู้ติดเชื้อปอดอักเสบ และผู้ใส่ท่อช่วยหายใจ ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2565 จนถึง 11 กรกฎาคม 2565 มีผู้ป่วยปอดอักเสบจาก 638 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 786 ราย และ ใส่ท่อช่วยหายใจจาก 290 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 349 ราย
ประชาชนแห่! ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ป้องกันโควิด BA.4-BA.5
‘BA.5’ปรับตัวใช้กลไกเดิมเหมือน‘เดลต้า’ ติดเซลล์ปอดง่าย-แพร่มากกว่าเดิม 100 เท่า
โควิดวันนี้ (11ก.ค.65) ดับเพิ่ม 24 ราย ปอดอักเสบไม่ลด เฉียด 800 ราย
สอดคล้องกับที่ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณะสุขทุกเขต ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 สั่งให้เตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดระลอกใหม่
ขณะเดียวกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ชมรมแพทย์ชนบท ยกข้อมูลจาก ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า ถึงเวลาที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้บริการเอกชน เมื่ออัตราจ่ายชดเชยค่าบริการที่เข้าโรงพยาบาลรัฐเปลี่ยนไป และการระบาดเพิ่มมากขึ้น
โรงพยาบาลเอกชน เปิดแพคเกจ ‘ประเมินอาการ’ รวมทั้ง ‘ซื้อยาเอง’ แล้ว
“ระวังตัวกันนะ โรงพยาบาลเอกชนก็เต็ม ยาต้านไวรัส โรงพยาบาลหลายแห่งให้ซื้อเอง เพราะเหมือนต้องรับผิดชอบตนเองแล้ว (ข้อมูลตามคำบอกเล่าจากคนที่ติดและหาโรงพยาบาลรักษา) และโรงพยาบาลเอกชน ก็เริ่มให้มีการประเมินความรุนแรงของโรค ตามแพ็กเกจ
จุดประสงค์ ที่มาเล่าคือ ถ้าติด อาจไม่ง่าย ไม่เบา อย่างที่คิดเสมอไป ทั้งความหนักหนาของโรค วันที่หนึ่ง สองอาจนิด ๆ และมากขึ้น จนต้องหาโรงพยาบาล
ระวังตัวกันบ้าง หาฟ้าทะลายโจรติดตัว อย่างน้อยหยิบฉวยได้ทันที เมื่อมีอาการไม่สบาย อย่ารอให้ 2 ขีดขึ้น อาจรอหลายวันกว่าจะขึ้น”
กรมวิทย์ฯ พบ BA.4/BA.5 เพิ่มขึ้น แพร่เร็วกว่าแต่ความรุนแรงยังไม่ชัด
เตือน! อย่าเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์รักษารากผม ตัดต่อภาพผู้บริหารสธ.
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขในช่วงหลังการระบาดใหญ่ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึงเดือนธันวาคม ระบุเอาไว้ด้วยว่า มีโอกาสจะเกิดการระบาดเป็นระลอกเล็ก ๆ มาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ ภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนลดลงหลังรับวัคซีนเกิน 6 เดือน ใส่หน้ากากอนามัยกันน้อยลง ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ในสถานที่เสี่ยง หรือ กิจกรรมเสี่ยง การระบาดเป็นคลัสเตอร์ในสถานที่เสี่ยงกิจกรรมเสี่ยง
โดยฉากทัศน์สถานการณ์ผู้ป่วยโควิดใหม่รายสัปดาห์ จะพุ่งสูงสุดในเดือนกันยายน ถ้ามีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ประชาชนหย่อนมาตรการ สวมหน้ากากอนามัยต่ำกว่า 50 เปอร์เซนต์ จะพบผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์เกือบ 80,000 คน ตามเส้นปะสีแดง แต่ถ้าหากเคร่งมาตรการ ให้ความร่วมมือใส่หน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซนต์ ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น 608 ผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์ไม่เกิน 40,000 คน ตามเส้นปะสีเขียว ก่อนจะค่อย ๆ ไต่ระดับลงในเดือนพฤศจิกายน
ส่วนผู้เสียชีวิต จะพีคในเดือนพฤศจิกายน มีโอกาสสะสมรายสัปดาห์ 400 คน ถ้าหย่อนมาตรการ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรายสัปดาห์ จะลดลดครึ่งหนึ่งประมาณ 200 คน หากเคร่งมาตรการ
คลายล็อกแล้ว! อย่าชะล่าใจ โควิดยังอยู่ หมอแนะใส่แมสก์ - ฉีดเข็มกระตุ้น
คึกคัก ประชาชนแห่ฉีดวัคซีน ที่สถานีกลางบางซื่อ กันป่วยหนักและเสียชีวิต