ไทยคงสถานะ "ฝีดาษลิง" เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ยังไม่เข้าข่ายโรคติดต่ออันตราย
ไทยยังคงให้ฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายนิยามโรคติดต่ออันตราย ที่ต้องมีอาการที่รุนแรงหรือผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ภายหลังจากที่คณะกรรมการวิชาการฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้มีการประชุมหารือด้วยระบบคอนเฟอเรนท์ ในรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคฝีดาษลิง ตามแนวทางคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกนั้น
หลังเสร็จสิ้นการประชุม ทีมข่าวได้โทรสอบถาม นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผลสรุปเบื้องต้น จะยังคงให้ฝีดาษลิงเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง
ตอบหลายข้อสงสัย "โรคฝีดาษลิง" รู้รับมือแบบไม่ตื่นตระหนก
สหรัฐฯ กำลังพิจารณา “ฝีดาษลิง” อาจถูกจัดเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายนิยามโรคติดต่ออันตรายที่ต้องมีเรื่องของอาการที่รุนแรง เช่น มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพราะขณะนี้ทั่วโลก ผู้ป่วยโรคนี้ยังเสียชีวิตน้อยมาก
ทั้งนี้ นายแพทย์เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เชื้อไวรัสฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่น่าเป็นกังวลระหว่างประเทศ (PHEIC) ซึ่งเป็นระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุดที่องค์การอนามัยโลกจะออกประกาศได้ หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงแล้วกว่า 16,000 คน ในกว่า 75 ประเทศทั่วโลก ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 5 คน
โดยผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ฝีดาษลิงแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว จึงตัดสินใจว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลในระดับนานาชาติ พร้อมระบุว่า การประกาศดังกล่าวจะช่วยเร่งให้เกิดการพัฒนาวัคซีน และการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัส
WHO เผยข้อเท็จจริง "ฝีดาษวานร" เมื่อติดเชื้อแล้วใช้ยาอะไรรักษา
สธ.ถกผู้เชี่ยวชาญ รับมือ "ฝีดาษลิง" หลังองค์การอนามัยโลก สั่งเฝ้าระวังพิเศษ