ช่วงบ่ายวันนี้ กระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการวิชาการฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข จะมีการประชุมหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคตามแนวทางคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก หลังองค์การอนามัยโลก ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ และเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.65) ที่กระทรวงสาธารณสุขก็มีการประชุมหารือด่วนในเรื่องนี้มาแล้ว
ตอบหลายข้อสงสัย "โรคฝีดาษลิง" รู้รับมือแบบไม่ตื่นตระหนก
นายกฯ สั่ง สธ. เตรียมรับมือหลัง WHO ยก “ฝีดาษลิง” เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
นายอนุทิน ย้ำว่า ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ทั้งวัคซีน และการรักษา มีความพร้อม โดยโรคนี้เป็นโรคไม่รุนแรง โรงพยาบาลทุกแห่งสามารถให้การดูแลได้ เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่ผู้ป่วยหายเอง และการใช้การรักษาตามอาการ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องความดันลบ
ส่วนผู้ป่วยไนจีเรีย ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะจนขณะนี้ ยังไม่พบ ผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยคนนี้เพิ่มเติม
ขณะที่ผลตรวจ กลุ่มเสี่ยงของผู้ป่วยฝีดาษลิงชาวไนจีเรีย ซึ่งมี 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่ง คือ ผู้สัมผัสใกล้ชิด หรือเสี่ยงสูง กลุ่มนี้ล่าสุด เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคไปค้นหาผู้ใกล้ชิดเพิ่มอีก 6 แห่ง รวมกลุ่มนี้มีผู้เสี่ยงสูงทั้งหมด 19 คน ส่งตัวอย่างตรวจแล้ว มีผลลบ 2 คน อีก 17 คน ยังรอผล ส่วนอีกกลุ่มเป็นคนเที่ยวสถานบันเทิง 142 คน ในจำนวนนี้มี 5 คนที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ แต่ไม่พบผื่น ผลตรวจเบื้องต้นฝีดาษลิงเป็นลบ
ทั้งนี้ ยังให้ทั้งหมดกักตัว 21 วัน และมีแพทย์โทรสอบถามอาการ 7 วัน 14 วัน และ 21 วัน ก่อนส่งผลตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับโรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่ติดต่อกันไม่ง่าย การติดต่อต้องเกิดจากการสัมผัสใกล้ชิด โดยผ่านการสัมผัสทางผิวหนังกับผู้ติดเชื้อโดยตรง จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง น้ำหนอง ตุ่มหนอง การป้องกันฝีดาษวานรทำได้โดยสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย เลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา จมูก และปาก ระวังสัตว์กัดหรือข่วน ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยฝีดาษลิง และฝากถึงนักท่องเที่ยวและประชาชนว่า ยังคงสามารถเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตได้ตามปกติ
ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ก่อนหน้านี้โพสต์เฟซบุ๊ก บอก ฝีดาษลิง ไม่สามารถเทียบกับ HIV ได้ เพราะการแพร่ใช้วิธีต่างกัน เช่น ถุงยางอนามัยป้องกัน HIV ได้ แต่ถุงยางอนามัย ป้องกันฝีดาษลิงไม่ได้
ส่วนการลดโอกาสการแพร่เชื้อ ล่าสุด ดร.อนันต์ ได้โพสต์ ข้อมูลงานวิจัยของต่างประเทศ ที่บอกว่า การตรวจหาไวรัสฝีดาษลิง อาจใช้ตัวอย่างจากการ Swab คอ เหมือนที่เก็บตัวอย่างตรวจโควิดได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ผื่น หรือ ตุ่มขึ้นที่ผิวหนังแล้วค่อยเก็บตัวอย่างไปทำ PCR ตรวจ ซึ่งตัวอย่างที่คอนี้ สามารถให้ผลบวกก่อนที่จะมีอาการทางผิวหนังได้
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบรายงานสถานการณ์ฝีดาษลิงในประเทศไทยยังปลอดภัย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม โดยเน้นย้ำกระทรวงสาธารณสุข และทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมต่อเนื่อง ตลอดจนกำชับให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเฝ้าระมัดระวังผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ พร้อมกำชับประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention อย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แล้วยังจะสามารถทำให้ป้องกันโรคฝีดาษลิงได้อีกทางหนึ่งด้วย
ย้อนเส้นทาง “หนุ่มไนจีเรีย” ป่วยฝีดาษลิง หลบหนีออกภูเก็ต โผล่กัมพูชา
อนามัยโลก ประกาศ “ฝีดาษลิง” เป็นภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศ