ไขข้อสงสัยควรฉีดกระตุ้นตอนนี้ หรือรอวัคซีนโควิดรุ่นใหม่
ไขข้อสงสัยควรฉีดกระตุ้นตอนนี้ หรือรอวัคซีนโควิดรุ่นใหม่ หลัง FDA อนุมัติใช้วัคซีนรุ่นใหม่ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ ที่คาดว่าจะได้เริ่มใช้จริง ก.ย.นี้
ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงทรง ๆ ตัว และยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่าย ๆ เพราะความสามารถของไวรัสที่สามารถกลายพันธุ์ได้อยู่ตลอด
“วัคซีนรุ่นใหม่” ที่พัฒนาขึ้นมาจากไวรัสจำเพาะโอมิครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดไปทั่วโลกอยู่ขณะนี้ จึงกลายเป็นความหวังใหม่ ที่หลายคนเชื่อว่าจะทำให้วิกฤตการณ์นี้คลี่คลายลงหรือสามารถอยู่ร่วมกันกับโควิด-19 ได้
วัคซีน "โมเดอร์นา" ฟรีมาแล้ว ฉีดกระตุ้นเข็ม 3-4-5 วันนี้ถึง 19 ก.ย.
“อนุทิน” ย้ำตั้งแต่ 1 ก.ย. ซื้อยาต้านโควิดต้องมีใบสั่งแพทย์
แต่ความหวังก็ใกล้คืบคลานความเป็นจริงเข้ามาเรื่อย ๆ หลังไม่นานมานี้ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ของ “โมเดอร์นา” และ “ไฟเซอร์” แล้ว และคาดว่าจะสามารถผลิตออกมาให้ได้เริ่มใช้กันจริงในวันแรงงานสหรัฐฯ (จันทร์แรกของเดือนกันยายน)
ซึ่งวัคซีนทั้งสองตัวนั้น เป็นเวอร์ชันอัปเดต ชนิด “ไบวาเลนต์ (Bivalent)” สามารถกำหนดเป้าหมายต่อต้านเชื้อได้ทั้งโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์โอมิครอน
อย.สหรัฐอนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ของไฟเซอร์-โมเดอร์นา
อย่างไรก็ตาม สถาบันวัคซีนวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยประสิทธิผลวัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ว่า ผลการวิจัยเฟส 3 ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์ พบว่าการกระตุ้นเข็มที่ 4 ด้วยวัคซีนรุ่นใหม่ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1 ได้ สูงกว่าวัคซีนสูตรเดิม 1.75 เท่า ขณะที่เมื่อเจอโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 แม้จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ลดลง แต่ยังสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่ง ส่วนการลดความรุนแรงโรคและการเสียชีวิตยังมีประสิทธิภาพดี
ต้องรอต่อไป! วัคซีนโควิดรุ่นใหม่ พัฒนาตามไวรัสไม่ทัน
ดังนั้นแล้วเราควรฉีดกระตุ้นอีกหรือไม่ และหากจะฉีดวัคซีนเราควรจะเลือกฉีดจากวัคซีนโควิด-19 รุ่นเดิม ที่มีอยู่ในมือตอนนี้ หรือรอวัคซีนโควิดรุ่นใหม่ ทีมข่าวนิวมีเดียพีพีทีวีได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาดังนี้
ความจำเป็นของวัคซีนเข็มกระตุ้น
งานของวัคซีน คือ การสอนระบบภูมิคุ้มกันของเราถึงวิธีการป้องกันตัวเองอย่างรวดเร็วจากเชื้อโรค ในกรณีนี้คือโคโรนาไวรัส 2019 หรือ SARS-CoV-2 แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจำทางภูมิคุ้มกันจะลดลงตามธรรมชาติและต้องการการทบทวนใหม่ จึงเป็นที่มาให้เราต้อง “ฉีดเข็มกระตุ้น” นั่นเอง
“เราจะเห็นว่าวัคซีนรุ่นเดิม มีประสิทธิภาพต่อโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม ช่วยป้องกันการเจ็บป่วยและความรุนแรงของโรคได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไวรัสโควิด-19 พัฒนาขึ้น ความแข็งแกร่งของวัคซีนที่มีอยู่เดิมก็น้อยลง การมีวัคซีนชนิดไบวาเลนต์ที่สามารถป้องกันได้ทั้งโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ หวังว่าจะช่วยให้ป้องกันได้มากขึ้น” Kawsar Talaat รองศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาที่โรงเรียนสาธารณสุขจอห์นฮอปกินส์บลูมเบิร์ก กล่าวถึงประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19
วัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันได้มากน้อยขนาดไหน
วัคซีนสามารถลดความรุนแรงของโรค การเข้ารักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้เป็นอย่างดี แต่ภูมิคุ้มกันส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่ทำให้แต่ละคนมีอาการเจ็บป่วยมากหรือน้อยแตกต่างกัน
การตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของเราต่อโควิด-19 ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ประวัติการฉีดวัคซีน อายุ การมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติหลังจากหายป่วยโควิด-19 และ ภาวะอื่น ๆ ที่มีอยู่ก่อน เช่น โรคหอบหืด เบาหวาน โรคอ้วน หรือ ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
เป้าหมายของการฉีดวัคซีน คือ การลดความรุนแรงของโรค แต่การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ยังช่วยลดการติดเชื้อ และทำให้การแพร่ระบาดลดลงอีกด้วย
โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2565 บริษัทไฟเซอร์ได้นำเสนอข้อมูลการทดลองวัคซีนรุ่นใหม่ในหนูทดลองต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนของ FDA แสดงให้เห็นว่าเมื่อหนูติดเชื้อไวรัส BA.4/BA.5 ได้รับวัคซีนกระตุ้นจากวัคซีนรุ่นใหม่เป็นเข็มที่ 3 หนูเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันต่อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น BA.1, BA.2, BA.2.12.1, BA.4 และ BA.5 เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ได้รับวัคซีนรุ่นเดิม
ใครจำเป็นต้องฉีดวัคซีนกระตุ้น
การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นขึ้นอยู่กับสุขภาพของเรา ยกตัวอย่าง หากเราอายุเกิน 75 ปี มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือต้องทานยาที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งมีอาการป่วยที่ร้ายแรง อย่างโรคหัวใจหรือโรคปอดรุนแรง กรณีแบบนี้คุณควรได้รับวัคซีนกระตุ้น
ส่วนคนที่มีสุขภาพที่ดี และมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด-19/มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติหลังหายป่วยโควิด-19 แล้ว ก็ควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนรุ่นเดิม หรือวัคซีนรุ่นใหม่
“หลายคนพูดว่า “ฉันเคยติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ฉีดวัคซีนแล้ว ทำไมจะต้องฉีดวัคซีนกระตุ้นอีก” แต่สิ่งที่เราพบคือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันแบบไฮบริด ทั้งภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและหลังหายป่วยโควิด-19 จะป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้ดีกว่า คนที่มีภูมิคุ้มกันอย่างใดอย่างเดียว” Talaat ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาวัคซีนที่โรงพยาบาลเด็กฟิลาเดลเฟียและที่ปรึกษาด้านวัคซีนของ FDA กล่าว
ควรฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนที่มีอยู่ หรือรอวัคซีนรุ่นใหม่
สำหรับการมีรายงานข่าวเปิดเผยข้อมูลว่าวัคซีนรุ่นใหม่จะเริ่มผลิตออกมาให้ประชาชนได้ใช้จริงกันในช่วงเดือนกันยายนนี้ แต่ตรงนี้ก็ไม่มีใครสามารถรับประกันได้
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาวัคซีนที่โรงพยาบาลเด็กฟิลาเดลเฟียและที่ปรึกษาด้านวัคซีนของ FDA แนะนำว่ากลุ่มที่ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น ควรเป็นกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องในระดับปานกลางหรือรุนแรงเกิน 12 ปี ควรได้รับเร็วที่สุด ดังนั้นแนะนำว่าให้ฉีดวัคซีนรุ่นเดิมไปก่อน ไม่ควรรอวัคซีนรุ่นใหม่ ซึ่งยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะได้ใช้จริงเมื่อไร
ส่วนใครที่เคยฉีดวัคซีนมาก่อนแล้ว และเพิ่งหายป่วยโควิด ต้องรออย่างน้อย 3 เดือน ถึงจะรับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะฉีดวัคซีนรุ่นเดิม หรือจะรอวัคซีนรุ่นใหม่ แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าต้องให้อยู่ในช่วง 2-5 เดือนหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มก่อนหน้า หรือหายป่วยโควิด-19