เตรียมล้างท้อง ก่อนเทศกาลกินเจ รวมวิธีปฎิบัติอย่างไรให้ได้บุญคู่สุขภาพ
ใกล้เข้ามาแล้วกับเทศกาลถือศีลกินผัก หรือที่เรียกว่า เทศกาลกินเจ งานนี้แต่ละคนต้องเตรียมตัวอย่างไรและเริ่มกินวันไหนไปดูกัน
เทศกาลกินเจ 2565 หากนับตามปฏิทินจันทรคติจีน ก็จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 จนไปสิ้นสุดในวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกๆ ปี โดยปีนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 รวมทั้งสิ้นเป็นระยะเวลา 9 วัน 9 คืน โดยคำว่า “เจ” (齋) เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลตามบริบททางพระพุทธศาสนานิกายมหายาน หมายถึง “สักการะบูชาด้วยความบริสุทธิ์” ที่จะมีการรักษาศีล 8 ข้อ และไม่บริโภคเนื้อสัตว์ เพื่อเป็นการไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต
ปีนี้คนไทยกินเจน้อยลงเหตุผลอันดับ 1 "อาหารแพงขึ้น"
เปิดประโยชน์ “ฝรั่ง” 33 ข้อ ลบความเชื่อกินเมล็ดแล้วเป็นไส้ติ่ง
โดยหลักการของ "กินเจ" ไม่ใช่เพียงแต่งดบริโภคเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษาศีลทั้งกาย วาจา ใจ อีกด้วย
ก่อนจะเริ่มรับประทานเจ ทุกคนควร “ล้างท้อง” ที่หมายถึงการเตรียมร่างกาย ให้พร้อมกับการที่จะไม่ได้กินเนื้อสัตว์ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยส่วนมากจะนิยมงดเว้นเนื้อสัตว์ ผัก และอาหารต้องห้ามทุกชนิดก่อนกินเจจริงประมาณ 1-2 วัน เพื่อชะล้างเนื้อสัตว์ หรืออาหารคาวต่าง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกให้หมดสิ้น เมื่อถึงวันถือศีลกินเจ ร่างกายจะได้สะอาด พร้อมถือศีลตามประเพณี
โดยการกินเจ ยังมีประโยชน์กับร่างกาย
- ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกให้หมด ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน สารอาหารที่มีคุณค่าในพืชผักสดผลไม้ช่วยให้การขับถ่าย และการย่อยเป็นปกติ
- เมื่อรับประทานเป็นประจำ โลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลง ทำให้อายุยืนยาว ผิวพรรณสดชื่น ผ่องใส นัยน์ตาแจ่มใส ไม่พร่ามัว ร่างกายแข็งแรง รู้สึกเบาสบาย ไม่อึดอัด มีสุขภาพอนามัยดี
- อวัยวะหลักสำคัญภายในและอวัยวะประกอบทั้ง 5 แข็งแรง ทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์มีสมรรถภาพสูง (อวัยวะหลักภายในทั้ง 5 ได้แก่ หัวใจ, ไต, ม้าม, ตับ, ปอด) (อวัยวะประกอบทั้ง 5 ได้แก่ ลำไส้เล็ก, ลำไส้ใหญ่, กระเพาะปัสสาวะ, กระเพาะอาหาร, ถุงน้ำดี)
- ร่างกายต้านทานต่อสารพิษต่าง ๆ ได้สูงกว่าคนปกติธรรมดา อาทิ สารเคมี, ยากำจัดศัตรูพืช, ยาฆ่าแมลง, ก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม เครื่องจักรกล และสารอาหารในพืชผักช่วยให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายทนต่อการทำลายจากรังสีต่างๆ เช่น กัมมันตภาพรังสีที่เกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ และในสงคราม
โดยข้อห้ามระหว่างกินเจ
- ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง ประกอบด้วย หัวหอม ต้นหอม ใบหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย กระเทียม ใบยาสูบ (บุหรี่ ยาเส้น ของเสพติดมึนเมา) เนื่องจาก ร่างกายจะถูกกระตุ้นจากรสของอาหารนั้นๆ
- ห้ามกินเนื้อสัตว์ หรืออาหารที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบ หรือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ ไข่ เลือด อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์
- ห้ามกินอาหารที่มีรสจัด ทั้งเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดก็ตาม เพราะอาหารที่มีรสจัดจะไปกระตุ้นต่อมต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานมากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นผลให้จิตใจไม่สงบ
- ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ ข้อนี้แหละที่ทำให้คนถือศีลกินเจต้องไปอยู่รวมกันในสถานที่ที่มีคนกินเจรวมตัวกันอยู่ อย่างเช่นโรงทาน ศาลเจ้าต่างๆ ที่จัดงาน เพราะคนที่ทำหน้าที่ทำอาหารนั้นจะถือศีลด้วย
- ถ้วยชามที่ใช้ใส่อาหารจะต้องไม่ปนกัน ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือเบียดเบียนชีวิตใคร ต้องแต่งกายด้วยชุดขาว ห้ามพูดคำหยาบ โกหก ยุยง ส่อเสียด หรือพูดจาไม่เป็นสาระ
- ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา ในช่วงที่ถือศีลกินเจตลอด 9 วัน
- ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง ในสถานที่อย่างศาลเจ้า โรงเจ โรงทาน หรือสถานที่ที่จัดงานถือศีลกินเจ จะมีการจุดตะเกียง 9 ดวงเอาไว้ตลอดวันตลอดคืน จึงต้องมีคนเฝ้าไม่ให้ตะเกียงนั้นดับ
เปิดความลับของ “กล้วยสุก” วิจัยชี้มีแอลกอฮอล์ตามธรรมชาติ
แม้การรักษาศีลกินผักตลอดทั้ง 9 วันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ แต่อยากให้คุณลองค่อยปรับ ปีแรกอาจตั้งเป้าในการกิน เพียงแค่ 3 วันแล้วปีต่อๆไปค่อยขยับขึ้น หลังจากนั้นคุณก็จะสามารถรับประทานเจได้อย่างสบายใจ แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีร้านขายอาหารเจค่อนข้างเยอะ อร่อย โดยสังเกตได้จาก “ธงเจสีเหลือง” ก็มีความหมายซ่อนอยู่เช่นกัน โดยสีเหลืองคือ “สีแห่งผู้ทรงศีล” เมื่อประกอบกับคำว่า “เจ” ที่เขียนด้วยอักษรสีแดง รวมกันแล้วมีความหมายสื่อถึงการเตือนสติผู้ที่กินเจ ให้งดบริโภคเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต และปฏิบัติตัวอยู่ในศีลในธรรมตามร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อทั่วไป ที่ถือว่าง่ายและสะดวกอีกด้วย
“ข้าวโพด”ธัญพืชอิ่มนาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด-บำรุงสายตา
ประโยชน์ "น้ำเต้าหู้" ของดีหาซื้อง่าย ช่วยลดน้ำหนักป้องกันกระดูกพรุน