คกก.โรคติดต่อฯปรับมาตรการคุมโควิด เข้าไทยไม่ต้องโชว์ผล ATK-วัคซีน
คกก.โรคติดต่อฯเคาะปรับมาตรการควบคุมโรค รองรับไทยปรับโควิดเข้าสู่ “โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง” 1 ต.ค.นี้ เข้าประเทศไม่ต้องแสดงผล ATK-วัคซีน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการควบคุมโรคโควิดรองรับการเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และหากมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น อาจประกาศพื้นที่โรคระบาดตามความจำเป็น โดยปรับมาตรการดังนี้
- กรณีเข้าประเทศให้ยกเลิกการแสดงเอกสารการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจ ATK
- ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ยกเลิกการสุ่มตรวจสอบบันทึกการฉีดวัคซีนโควิด
สภาพอากาศวันนี้! ทั่วไทยยังเจอฝนตกหนัก 51 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
"ดอร์ทมุนด์" จ่อตั้งค่าตัว "จู๊ด" 150 ล้านยูโร
- ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ไม่ต้องกักตัว แต่ให้ปฏิบัติตัวตามแนวการป้องกันคือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และตรวจ ATK อย่างเคร่งครัด 5 วัน และหน่วยงานต่างๆ ใช้หลักโควิด ฟรี เซตติ้ง เริ่ม 1 ตุลาคมนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบแผนบริหารจัดการวัคซีนและการให้วัคซีนโควิดในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี คาดเริ่มให้บริการได้กลางตุลาคม 2565 ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก โดยไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการไปโรงเรียน แต่แนะนำให้เด็กทุกคนเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัว
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคโควิดมีแนวโน้มดีขึ้นทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยกำลังรักษา ผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิตมีลดลงต่อเนื่อง ประชาชนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานจากการฉีดวัดซีนโควิด ครอบคลุมมากกว่า 82% และบางส่วนมีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามขอให้กลุ่มเสี่ยงผู้มีอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วยกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ (กลุ่ม 608) มารับวัคซีนให้ครบ เพื่อให้มีความพร้อมเข้าสู่การดำเนินชีวิตที่เป็นปกติมากที่สุด
เปิดประโยชน์ “ฝรั่ง” 33 ข้อ ลบความเชื่อกินเมล็ดแล้วเป็นไส้ติ่ง
“LAAB”ยาเสริมภูมิสู้โควิดกลุ่มเสี่ยง ผลข้างเคียงต่ำ-ต้าน BA.4/BA.5 ได้