1 ต.ค.65 สปสช.ยกเลิกแจก ATK ตามร้านยา แต่ยังรักษาโควิดฟรีตามสิทธิ
หลังเตรียมเปลี่ยนผ่านโควิดสู่โรคติดต่อเฝ้าระวัง สปสช.ยืนยันว่าผู้ป่วยยังคงรักษาโควิดฟรีตามสิทธิ แต่จะยุติการแจก ATK ตามร้านยาแล้ว ตั้งแต่ 1 ต.ค.นี้
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปที่โควิด-19 จะเป็นโรคติดต่อต้องเฝ้าระวัง ขอยืนยันว่า ประชาชนยังสามารถรับบริการรักษาโควิด-19 ได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายในสิทธิการรักษาของตน ทั้งสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง สิทธิประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งแต่ละกองทุนจะดำเนินการจ่ายค่ารักษาให้ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนบางส่วนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดที่ป่วยแล้วอาการไม่รุนแรง คล้ายไข้หวัดใหญ่
โควิดวันนี้ (28ก.ย.65) ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 800 ราย กำลังรักษา 4 พันกว่าราย
5 ภาคี เปิดตัวสเปรย์พ่นจมูกแอนติบอดี้โควิด-19 คนไทยได้ใช้ 1 ต.ค.นี้
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
สำหรับผู้ป่วยโควิดยังรักษาฟรีได้ตามสิทธิของแต่ละกองทุน โดยหากติดเชื้อสามารถไปรับยาแบบผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ เรื่องจ่ายค่าวัคซีนโควิดก็จะเป็นสิทธิของแต่ละกองทุน ส่วนที่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องการแจก ATK ที่สามารถขอได้ที่แอปฯเป๋าตังและมารับได้ที่ร้านขายยา โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจะยุติการแจก ATK แต่หากมีความจำเป็นและแพทย์วินิจฉัยสั่งให้ตรวจหาเชื้อ ATK หรือ RT-PCR ก็สามารถตรวจได้ฟรีเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม กรณีหากเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตยังเข้าเกณฑ์ UCEP Plus หรือหากมีข้อสงสัยให้สอบถามมาที่สปสช.1330
ทพ.อรรถพร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังคงการให้บริการรักษาโรคโควิดทางระบบออนไลน์ หรือ Telemedicine ผ่าน 4 แอปพลิเคชัน ซึ่งจะมีบริการส่งยาฟรีถึงบ้าน ประกอบด้วย 1.แอป Clicknic 2.แอป Totale Telemed 3.แอป MorDee และ 4.แอป Good Doctor ทั้งนี้ หากตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดเลือกลงทะเบียนผ่านแอปฯเหล่านี้ได้
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า สำหรับการจ่ายค่าความเสียหายจากการฉีดวัคซีนในส่วนของ สปสช.นั้น จะใช้มาตรา 41 ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ในการจ่ายชดเชยเบื้องต้นแทน ทั้งนี้ค่าบริการกรณีเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เปลี่ยนเป็นค่าบริการผู้ป่วยนอกและค่าบริการผู้ป่วยในตามระบบปกติ ยา IVIG จ่ายตามระบบ VMI
ส่วนกรณีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้ง อสม. หากติดเชื้อโควิด ยังสามารถยื่นเรื่องจ่ายชดเชยมาตรา 41 กรณีความเสียหายทางการแพทย์จากการให้บริการสาธารณสุขได้ แต่งบประมาณจะเปลี่ยนไป โดยใช้งบกองทุนบัตรทอง แต่รายละเอียดต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเกิดจากการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขจริงๆ ซึ่งก็จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณาอยู่
อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ป่วยในจากเดิมที่จ่าย On Top จากระบบ DRG ได้แก่ ค่าห้องตามระดับความรุนแรงของโรค ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกระบวนการ/อุปกรณ์เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ และค่ายารักษาโควิด เปลี่ยนเป็นจ่ายตามระบบ DRG จากกองทุนผู้ป่วยในระดับเขต ยกเลิกการจ่าย On Top ค่าห้องและค่าอุปกรณ์ป้องกัน ส่วนยารักษาโรคโควิด ยังสามารถเบิกจากกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ขณะที่ค่ายานพาหนะส่งต่อตามระยะทาง จากเดิมที่รวมค่าทำความสะอาดอุปกรณ์ PPE จ่ายตามจริง ไม่เกิน 500 บาท เปลี่ยนเป็นจ่ายเฉพาะค่าส่งต่อตามระยะทางกรมทางหลวงตามเดิม ยกเลิกการจ่ายค่า PPE และค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพาหนะ
ค่าบริการฟอกเลือดผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง จากเดิมจ่ายค่าฟอกเลือดครั้งละ 1,500 บาท ค่าชุด PPE จ่ายตามจริงไม่เกิน 1,000 บาทต่อครั้ง และค่ายานพาหนะส่งต่อรวมค่าทำความสะอาดจ่ายตามจริงไม่เกิน 500 บาท เปลี่ยนเป็นจ่ายเฉพาะค่าฟอกเลือดครั้งละ 1,500 บาท ยกเลิกการจ่ายค่า PPE และค่ารถส่งต่อกรณีผู้ป่วยนอก
สธ.ปิดศูนย์ EOC โควิด ยันยาเพียงพอ ปรับเกณฑ์ UCEP Plus เฉพาะกลุ่มสีแดง