“21 ตุลาคม” วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ชวนดูแลฟันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จย่า และวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลหน่วยงานทันตกรรมหลายภาคส่วนร่วมรณรงค์ดูแลฟันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของประชาชน
“ฟัน” นับว่าเป็นอีกหนึ่งอวัยวะที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เพราะถ้าการบดเคี้ยวมีปัญหาอาจจะทำให้สุขภาพส่วนอื่น ๆ เสียไปด้วยเช่นกัน เช่น การบดเคี้ยวไม่ละเอียดจะเป็นสาเหตุของปัญหาย่อยอาหาร และอาจทำให้เพิ่มระดับของปัญหาตามมาเรื่องของการย่อยอาหาร การดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ให้ร่างกาย ซึ่งสุดท้ายอาจจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
ที่สำคัญการที่สุขภาพฟันไม่ดี มีการติดเชื้อ มีรายงานทางวิชาการมากมายว่าก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
“ฟันผุ” ไม่รีบรักษา เสี่ยงติดเชื้อรุนแรง อันตรายถึงชีวิต
ช่องปากสำคัญ!“หมอมนูญ”ยกเคสแค่"ฟันผุ"เสี่ยงเกิดหนองในช่องเยื่อหุ้มปอด
เช่น การเกิดโรคฟันผุลุกลาม จนลุกลามเกิดเป็นการติดเชื้อในกระแสเลือด หรือหากเหงือกอักเสบ ก็อาจมีผลทำให้การเกิดโรคหัวใจ ลุกลามได้ เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อให้เห็นความสำคัญของการรักษาสุขภาพฟัน จึงมีการกำหนดให้ทุกวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี เป็น “วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ”
ประวัติ “วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ”
ด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จย่า ทรงพระเมตตาอยากให้ประชาชนของพระองค์มีฟันที่แข็งแรง จึงทรงก่อตั้งหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “พอ.สว” เพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร โดยพระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องการบริการทันตกรรมเป็นพิเศษ เคยทรงกำชับไว้ว่า
“ต้องมีทันตแพทย์ไปช่วยชาวบ้านทุกครั้ง เนื่องจากคนไข้ในท้องถิ่นทุรกันดาร เมื่อมีโรคฟันจะต้องทนทุกข์ทรมานและไม่สามารถช่วยตนเองได้ ดังนั้นต้องให้มีทันตแพทย์ไปช่วยโดยด่วน”
ทันตแพทย์จึงเป็นส่วนหนึ่งของทีมอาสาสมัครของหน่วยแพทย์ “พอ.สว” ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา
จนในปี พ.ศ. 2529 มูลนิธิ พอ.สว. ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข คณะทันตแพทยศาสตร์ ทุกมหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร และทันตแพทยสมาคมฯ เริ่มจัด “กิจกรรมรณรงค์ทางทันตสาธารณสุข” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้านวันพระราชสมภพ 21 ตุลาคม โดยระดมทันตบุคลากรอาสาสมัครทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศ ออกให้บริการตรวจรักษาโรคในช่องปากโดยไม่คิดมูลค่าแก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดาร 48 จังหวัด และได้จัดกิจกรรมนี้ต่อเนื่องทุกปี
จนถึงปี พ.ศ. 2532 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ วันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จย่า เป็น “วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ”
กิจกรรมในวันสำคัญ
สำหรับสถานการณ์สุขภาพช่องปากของประชาชนชาวไทย กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า “โรคช่องปากทั้งฝันผุ เหงือกอักเสบ” เป็นโรคที่พบได้บ่อยและพบได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารหวานและการทำความสะอาดไม่ถูกวิธี รวมถึงการไปรับบริการทางทันตกรรมเฉพาะเมื่อปวดฟัน
เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จย่า หน่วยงานรัฐและเอกชนมักจะจัดกิจกรรมในวันดังกล่าว อาทิ การให้ความรู้ หรือการให้บริการทางทันตกรรมฟรี ถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
โดยในปีนี้ กรมอนามัยได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า ฟันดี ชีวีมีสุข” เพื่อให้ประชาชนได้มาร่วมกิจกรรม ดังนี้
- กิจกรรมฝึกตรวจฟันและรอยโรคเสี่ยงมะเร็งช่องปาก
- กิจกรรมฝึกแปรงฟันคุณภาพ
- การใช้นวัตกรรมเฝ้าระวังพฤติกรรมดูแลช่องปาก
- บูธนิทรรศการส่งเสริมทันตสุขภาพ
- บูธนิทรรศการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม
ส่วน กลุ่มงานทันตกรรม สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้เปิดให้ประชาชนเข้ารับบริการทางทันตกรรมได้ฟรี โดยจะเปิดให้ลงทะเบียน 07.00-11.30 น. และให้บริการรักษาในเวลา 08.30-15.00 น.
นอกจากนี้ ฝ่ายทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดให้บริการทางทันตกรรม ได้แก่ ขูดหินปูน อุดฟัน และถอนฟัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแก่ผู้มารับบริการ
ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์