โควิด-19 รอบสัปดาห์ ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 90 คน ตาย 6 ราย
ข้อมูลโควิด-19 ประจำสัปดาห์ที่ 3 ไทยมีตัวเลขลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ติดเชื้อเฉลี่ยเหลือวันละ 90 คน และตาย 6 ราย รวมถึงยอดผู้ป่วยอาการหนักต่ำกว่า 500 คน
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ ระบุว่า ข้อมูลของสัปดาห์ที่ 3 ปี 2566 ระหว่างวันที่ 15 มกราคม – 21 มกราคม 2566 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สะสม 627 คน เฉลี่ยวันละ 90 คน รวมสะสม 2,593 คน (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566)
ขณะที่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 44 คน เฉลี่ยวันละ 6 คน รวมสะสม 167 คน (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2566) มีผู้ป่วยปอดอักเสบ 277 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 178 คน
อินเดียมอง จะยุติโควิดในจีน ต้องวางการเมือง-นำเข้าวัคซีน ตปท.
“เวชศาสตร์ป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ” วิธีป้องกันโรคเฉพาะบุคคล
ส่วนจำนวนผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ณ วันที่ ฉีดวัคซีนสะสม 144,570,456 โดส แบ่งเป็น วัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 57,189,704 โดส คิดเป็น 82.22% เข็มที่ 2 จำนวน 53,673,080 โดส คิดเป็น 77.17% และตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไป จำนวน 33,707,672 โดส
เปิดตัวเลข-มุมมอง นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยกับโควิด
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 รัฐบาลจีนยกเลิกมาตรการกักตัวสำหรับนักเดินทางเข้าประเทศ ทำให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศมากขึ้น โดยหนึ่งในเป้าหมายการเดินทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ คือ ประเทศไทย
ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาภายในประเทศแล้วประมาณ 3,000 คน และคาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ ในไตรมาสแรกเดือน มกราคม – มีนาคม 2566 ประมาณ 300,000 คน อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจกังวลว่าจะมีการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ และจะทำให้เกิดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ขึ้นอีกไหม เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในจีนยังมีตัวเลขที่สูง
หากมาดูกันที่ตัวเลข สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศไทย ผ่านมาแล้วเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 นับตั้งแต่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาภายในประเทศ ยังพบว่า ตัวเลขลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566 ทั้งอัตราเฉลี่ยผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายวัน รวมถึงยอดผู้ป่วยอาการหนัก อย่างผู้ป่วยปอดอักเสบ และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจด้วย
โควิด-19 รอบสัปดาห์ ติดเชื้อเฉลี่ย วันละ 138 คน เสียชีวิตวันละ 9 คน
โควิด-19 รอบสัปดาห์ ติดเชื้อเฉลี่ย วันละ 142 คน เสียชีวิตวันละ 8 คน
ส่วนจะเกิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นได้หรือไม่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เคยออกมาเปิดเผยแล้วว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ ที่ระบาดในจีน พบว่า 97% เป็นสายพันธุ์ BA.5.2 และสายพันธุ์ BF.7 ซึ่งไม่ได้เป็นสายพันธุ์ใหม่ และไม่ได้มีการแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ในประเทศไทย จึงไม่น่ากังวล
ขณะเดียวกัน นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ เปิดเผยด้วยว่า เชื้อไวรัสโควิดมีการกลายพันธ์ต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอดของตัวมัน สามารถเกิดขึ้นในประเทศไหนก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน เราควรปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวจีน ยินดีต้อนรับเขาเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ
ถึงเวลาเราควรเลิกกลัวไวรัสโควิด เราต้องอยู่ร่วมกับโควิดอย่างมีสติ เตรียมตัวคนไทยเองให้ดี เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันโควิด ในอนาคตคงต้องฉีดวัคซีนหลายๆ สายพันธุ์ทุกปีเหมือนไข้หวัดใหญ่ สร้างสุขนิสัยที่ดี สวมหน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตัวเองป่วยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ
เราต้องยอมรับว่า ถึงเราจะทำทุกอย่างก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ เพราะเชื้อไวรัสโควิดแพร่กระจายทางอากาศได้ง่ายกว่าไวรัสทุกชนิดในโลก ติดเชื้อหลักๆ ทางการหายใจ และหลบหลีกภูมิคุ้มกันไม่ว่าเกิดจากการได้รับวัคซีน หรือจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ เมื่อติดเชื้อก็รักษากันไป ข้อดีของการติดเชื้อคือ เกิดภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ทำให้มีภูมิคุ้มกันลูกผสม hybrid immunity ป้องกันโควิดได้ดียิ่งขึ้น
จีนเผยประชากรติดโควิดแล้ว 80% คาดไม่เกิดการระบาดระลอกใหม่หลังตรุษจีน
ชาวจีนแห่ขอพรสุขภาพดี รับตรุษจีน 2566 หลังสถานการณ์โควิด19 ยังน่าเป็นห่วง