“มะเร็งรังไข่” โรคอันตรายของผู้หญิง มีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 60%
ทำความรู้จัก “มะเร็งรังไข่” โรคอันตรายของผู้หญิง ที่มีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 60% แนะตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะคนกำลังก้าวเข้าสู่วัย 30 ปี เพราะยิ่งเจอเร็วมีโอกาสหายสูง
หากผู้หญิงคนไหนกำลังเจอปัญหาท้องอยู่ดีๆ ก็โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอให้รีบไปพบแพทย์ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งรังไข่ได้
โดย “พิมพ์-พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร” ได้ออกมาเล่าประสบการณ์การเป็นโรคมะเร็งรังไข่ว่า เดิมเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง ไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปีเลย จนอยู่ดีๆ ท้องก็ป่องออกมาแบบฉับพลันภายใน 1 อาทิตย์ แถมยังท้องแข็งด้วย พอไปตรวจสุขภาพคุณหมอก็ให้ผ่าตัดเลย
แต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ พอนำชิ้นเนื้องอกในท้องไปตรวจ ปรากฏว่าก้อนเนื้อนั้นกำลังจะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง แต่เพราะเซลล์ที่กำลังจะเติบโตเป็นมะเร็ง ถึงแม้จะยังไม่ได้กลายเป็นเซลล์มะเร็ง และแพทย์ผ่าตัดเอาออกไปแล้ว ก็ยังต้องทำคีโม่
ตอนนั้นตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นกับตัวเอง พอคุยกับคุณหมอจนเข้าใจดีแล้ว ว่านั่นคือวิธีที่รักษาได้ดีที่สุด ก็เข้าสู่กระบวนการรักษา โชคดีที่ตัวเองไม่ได้รับผลข้างเคียงใดๆ จากการทำคีโม่ บวกกับมีกำลังใจที่ดี ก็รักษาตัวมาจนหายดีในที่สุด
พอเวลาผ่านไปเหมือนจะโอเค มาหาหมอ ให้หมอดูอาการอยู่ตลอด แต่สุดท้ายก็ยังมีปัญหาเรื่องมดลูกอีก คือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นติดๆ กันมายาวมาก บางเดือนก็มาตลอดทั้งเดือนจนตัวซีด หรือบางเดือนก็ไม่มาเลย หรือมาแล้วก็มีลิ่มเลือดออกมาเยอะมาก จนคุณหมอแนะนำว่าให้ผ่าเอามดลูกออก ตอนนี้ก็หายเป็นปกติแล้ว
แม้ตอนนี้จะไม่มีประจำเดือน หรือฮอร์โมนแล้ว แต่ก็ยังสามารถใช้ชีวิตปกติได้ มีบ้างที่มีอารมณ์หงุดหงิด หรือเรารู้สึกร้อนวูบวาบ แต่ก็หากิจกรรมอื่นๆ มาทำให้ผ่อนคลายลง เช่น ทำงานบ้าน หรือ เลี้ยงเจ้าไข่เจียว สุนัขแสนรักของเธอเอง ทำให้ในทุกๆ วันตอนนี้ก็มีความสุขดี
ดังนั้นแล้วโรคมะเร็งรังไข่ เป็นอย่างไร สามารถป้องกันได้ไหม และจะป้องกันตัวเองอย่างไรบ้าง ผู้ช่วยศาสตราจารย์แพทย์หญิง ดวงมณี ธนัพประภัศร์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านมะเร็งนรีเวช โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ได้ออกมาให้ข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
รู้จัก “โรคมะเร็งรังไข่”
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้หญิงเป็นมะเร็งรังไข่ประมาณ 2,000-3,000 คนต่อปี ถือเป็นโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่อันตราย เพราะมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 60% และความเสี่ยงของโรคนี้ มาจากพันธุกรรมถึง 10% ดังนั้นคนที่มีประวัติครอบครัว อย่างญาติ พี่น้อง เป็นมะเร็งรังไข่ หากมีอาการผิดปกติทางช่องท้องจะต้องรีบมาพบแพทย์ นอกจากนี้ยังรวมถึงคนที่สูบบุหรี่ด้วยที่มีความเสี่ยงสูง
4 ระยะของมะเร็งรังไข่
โรคมะเร็งรังไข่ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ
ระยะที่ 1 มะเร็งที่อยู่เฉพาะรังไข่ ไม่กระจายมาที่ช่องท้องน้อย
ระยะที่ 2 มะเร็งกระจายมาที่ปีกมดลูกและอวัยวะในช่องท้องน้อย ในอุ้งเชิงกราน
ระยะที่ 3 มะเร็งกระจายในช่องท้อง ผิวช่องท้อง ไขมันในช่องท้อง ผิวลำไส้เล็ก ต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกราน และในต่อมน้ำเหลืองรอบเส้นเลือดใหญ่ในท้อง
ระยะที่ 4 มะเร็งกระจายไปในอวัยวะไกล เช่น ปอด ช่องหัวใจ ต่อมน้ำเหลืองที่คอ เนื้อตับ และสมอง
การรักษาโรค
การรักษาหลักๆ จะต้องผ่าตัดมดลูก และผ่าตัดรังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง ทำให้เราไม่สามารถมีลูกได้ แต่มะเร็งมดลูกบางชนิดก็สามารถเก็บมดลูกและรังไข่ไว้ได้ในกรณีที่ยังมีอายุน้อยและยังต้องการมีบุตร
อย่างไรก็ตามถ้าต้องผ่าตัดออกทั้งหมด แล้วเราไม่มีประจำเดือน และไม่มีฮอร์โมนเพศอีก แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอะไรหรือไม่ เพราะเราสามารถเลือกรับฮอร์โมนหรือยาเสริมทดแทนได้
ส่วนใครที่ไม่อยากรับ เพราะกังวลเรื่องผลข้างเคียง ก็อาจต้องเผชิญกับอาการร้อนวูบวาบ หรือมีอาการหงุดหงิดง่ายขึ้นกว่าปกติได้ แต่เราก็สามารถหากิจกรรมอื่นๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ตรงนี้ลงได้ เช่น ดูแลบ้าน เลี้ยงหมา เป็นต้น
วิธีการดูแลรักษาหลังการผ่าตัด
หลังการผ่าตัด จะมีการให้ยาเคมีบำบัด ปัจจุบันถือเป็นยาที่ดีมาก เราจะให้ทุก 3 สัปดาห์ ประมาณ 6 ครั้ง แต่ผลข้างเคียงของยานี้คืออาจทำให้มีความเสี่ยงภาวะติดเชื้อ หรือมีเม็ดเลือดขาวต่ำได้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำต่อไปก็คือ การดูแลเรื่องของจิตใจ จะต้องมีกำลังใจที่ดี และการดูแลสุขภาพอนามัยให้แข็งแรง
มะเร็งรังไข่ ถือเป็นโรคอันตรายสำหรับผู้หญิง เพราะถ้าเป็นแล้วมีความเสี่ยงเสียชีวิตค่อนข้างสูง แต่โรคนี้ใช่ว่าจะป้องกันไม่ได้ เพราะสามารถป้องกันได้ต้องแต่เนิ่นๆ ด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีอาการผิดปกติทางช่องท้องใดๆ ก็ควรมาตรวจ เพราะมะเร็งรังไข่เองก็ไม่เลือกอายุเช่นเดียวกัน แนะนำว่าผู้หญิงที่เข้าสู่วัย 30 ปี ควรจะเช็กได้แล้ว เพียงเท่านี้เซลล์มะเร็งร้ายก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้อีก!