ข่าวดังข้ามปี 2566 : สธ.ยุค “หมอชลน่าน” กับนโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาท
เกือบ 4 เดือนที่กระทรวงสาธารณสุขเปลี่ยนการบริหารมาอยู่ภายใต้ หมอชลน่าน ที่ประกาศนโยบาย Quick Win ยกระดับบัตรทอง 30 บาททันที่ที่เข้าทำงาน!
กระทรวงสาธารณสุข นับเป็นกระทรวงเกรด A ของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย มีหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพอนามัย การป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคภัย การฟื้นฟูสมรรถภาพของประชาชน ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตของคนไทยและเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ อย่างที่เราได้มีบทเรียนและได้เห็นหลังจากการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด19 ในปี 2562 ที่ระส่ำไปทั้งโลก ที่สาธารณสุขของไทยและทั่วโลกต้องระดมทุกสรรพกำลังเพื่อหยุดการแพร่ระบาดนี้
ข่าวดังข้ามปี 2566 : ย้อนรอยกัมมันตรังสีซีเซียม-137 เสี่ยงมะเร็งหาย!
“สิทธิบัตรทอง” 16 อาการ รับยาฟรี "ร้านยาคุณภาพของฉัน" ใกล้บ้าน | เรื่องนี้ม้วนเดียวจบ

แม้จะผ่านไปเกือบ 4 ปีถึงโควิดจะยังอยู่กับเราและพัฒนาจนมีหลายสายพันธุ์ แต่ก็อยู่ร่วมกันได้บนพื้นฐานของการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะใน ครม.เศรษฐา1 ที่ถูกคาดหวังภายใต้การทำงานของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือ "หมอไหล่" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นโชคดีของ สธ. ชุดนี้ที่ไม่ต้องรบรากับโควิด19 แต่ก็ต้องเจอโจทย์ใหญ่ในการดูแลคนไทยให้ได้รับสิทธิการรักษาขั้นพื้นฐานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการยกระดับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือที่เรารู้จักกันว่าสิทธิบัตรทอง 30 บาท และการรักษามะเร็งครบวงจรตามเจตนารมณ์
โดยทันทีที่รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา หลังประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่นาน หมอชลน่าน ได้ประกาศนโยบายเร่งด่วน Quick Win ที่ต้องดำเนินการให้เห็นผลสำเร็จเป็นรูปธรรมใน 100 วัน และครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาที่เห็นได้ชัดเจนคือความสำเร็จในของนโยบายมะเร็งครบวงจร ที่กำหนดฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทยอายุ 11-20 ปี เกินเป้าหมาย 1 ล้านโดส

นอกจากนี้ สธ. ยังเปิดเผยว่า ได้เดินหน้าเร่ง บรรจุพยาบาลและชำนาญการพิเศษของพยาบาลวิชาชีพ และยังเห็นชอบให้แพทย์ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ลาศึกษาใน 13 หลักสูตร ได้รับยกเว้นการลาและได้รับการเลื่อนเงินเดือนระหว่างลา อีกทั้งยัง จัดตั้งทีม Sky Doctor ครบทั้ง 13 เขตสุขภาพตามเป้าหมาย ขณะที่ในปีหน้า 2567 เตรียมเดินหน้าโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ที่จะมีการเปิดตัวนำร่อง 4 จังหวัด( แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรีและนราธิวาส) พร้อมแล้ว 100% ที่จะเปิดให้บริการครบวงจรในวันที่ 10 มกราคม 2567 นี้
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการทำงานอื่นๆ ที่สธ.ภายใต้การขับเคลื่อนของหมอชลน่าน อาทิ โรงพยาบาลอัจฉริยะต้นแบบ (Smart Hospital) โรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาลและปริมณฑล ประเด็นสุขภาพจิต/ยาเสพติด มีการจัดตั้งมินิธัญญารักษ์ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดได้ครบทั้ง 76 จังหวัด และอีกมากมายที่สธ.ได้ดำเนินการทำงานต่อยอด
4 วิธีการตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาล “บัตรทอง” ด้วยตนเอง

นโยบายบัตรทอง 30 บาทยกระดับอะไรได้บ้าง?
- ใช้บัตรประชาชนใบเดียวในการรับบริการได้ทุกที่
- รักษามะเร็งครบวงจร เริ่มตั้งแต่การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มเด็ก การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม หากตรวจพบผู้ป่วยก็จะถูกส่งต่อเข้าสู่การรักษา พร้อมประวัติข้อมูลต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อกันให้ผู้ป่วยได้รับบริการเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เข้าถึงบริการในเขตเมือง โดยเฉพาะ กทม. แม้จะมีโรงพยาบาลในพื้นที่หลายแห่ง แต่ในบางพื้นที่ก็เข้าถึงบริการได้ยาก ดังนั้นจึงจะมีการเพิ่มหน่วยบริการ
- สถานชีวาภิบาล ดูแลระยะสุดท้าย เดิมทีจะดูแลกันในโรงพยาบาล แต่พบว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ประสงค์อยากกลับไปอยู่ที่บ้าน ซึ่งการดูแลระยะท้ายจะต้องดูแลโดยมีหลักวิชาการ ทั้งด้านแพทยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ดังนั้นการขับเคลื่อนนโยบายนี้จะเป็นการร่วมมือกันทั้งหน่วยงานทางสังคม เช่น วัดในชุมชน ร่วมกับโรงพยาบาล
- การดูแลเรื่องสุขภาพจิต เป็นวาระสำคัญที่จะขับเคลื่อนลงไปถึงในระดับชุมชน
อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงช่วงต้นของกระทรวงสาธารณสุข ครม.เศรษฐา1 เท่านั้น ต้องรอดูและติดตามผลงานของ สธ.ชุดนี้ต่อไปว่าจะตอบโจทย์ประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน เพราะถึงไม่มีภัยร้ายอย่างการระบาดโควิด19 ที่หนักเท่า 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังต้องรองรับภัยสุขภาพอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกภายใต้การเมืองที่ไม่นิ่งและเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนัก
ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข,สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
อนุมัติงบ สปสช. 2567 วงเงิน2.17แสนล้านบาท ครอบคลุมผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศ
ข่าวดังข้ามปี 2566 : โศกนาฏกรรม “เรือดำน้ำไททัน” ระเบิดขณะชม “ไททานิก”