64% ของพนักงานทั่วโลกอยากลาออก เมื่อต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา
ผลการศึกษาจากสถาบันวิจัย ADP พบ 64% ของพนักงานทั่วโลกอยากลาออก เมื่อบริษัทให้กลับไปทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา โดยเป็นกลุ่มวัย 18-24 ปีมากที่สุด
กว่า 2 ปีหลังจากเกิดการระบาดของโควิด ที่ทำให้พนักงานหลายล้านคนต้องทำงานที่บ้าน และในตอนนี้ผู้บริหารทั่วประเทศกำลังทำทุกอย่างเพื่อที่จะโน้มน้าวพนักงานให้กลับมาทำงานที่ออฟฟิศ
ตัวเลขใหม่จากบริษัท Kastle ซึ่งเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยในออฟฟิศต่าง ๆ ที่จะติดตามการรูดคียการ์ดเข้าทำงานในอาคารพาณิชย์กลายพันแห่งในสหรัฐอเมริกา พบว่า ออฟฟิศใน 10 เมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า และบริษัทต่าง ๆ เช่น Apple และ Google เริ่มกำหนดให้พนักงานส่วนใหญ่กลับมาทำงานแบบไฮบริด
WHO ยกไทยเป็นประเทศต้นแบบรับมือโควิด เตรียมแถลงในเวทีโลกปลาย พ.ค.นี้
จับตาโควิด Ba.4 และ Ba.5 ทำปอดอักเสบ หนีภูมิ "ติดเชื้อ - วัคซีน" ได้
หรือการทำงานแบบผสมผสานระหว่างทำงานที่ออฟฟิศและจากที่ไหนก็ได้ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
แต่บริษัทต่าง ๆ ที่เรียกร้องให้คนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศ อาจเห็นพนักงานจำนวนมากขึ้นขอลาออกจากงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะตามผลการสำรวจของสถาบันวิจัย ADP พบว่า การให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศอาจทำให้คนรุ่นใหม่อยากลาออก
นอกจากนี้ยังมีรายงาน “People at Work : A Global Workforce View” พบด้วยว่า พนักงานมากกว่า 32,000 คน จากสหรัฐฯ อินเดีย เนเธอร์แลนด์ และประเทศอื่น ๆ สองในสามของแรงงานทั่วโลก คิดเป็น 64% ระบุว่า พวกเขาได้ลาออกแล้ว หรือจะพิจารณาหางานใหม่ หากนายจ้างต้องการให้พวกเขากลับมาทำงานเต็มเวลาในออฟฟิศ
“เมื่อสองสามปีก่อน คนส่วนใหญ่แทบจะไม่มีความคิดที่จะทำงานในรูปแบบไฮบริด แต่ตอนนี้ก็ชัดเจนว่าการทำงานแบบผสมผสาน และความต้องการความยืดหยุ่น หลังจากทำงานที่บ้านเป็นเวลา 2 ปี จะไม่หายไป และก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP ระบุ
แต่เมื่อพูดถึงความยืดหยุ่นในการทำงาน คนส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของสถานที่น้อยลง และให้ความสำคัญมากขึ้นว่าพวกเขาจะทำงานเมื่อใดและอย่างไร
"ไม่ใช่แค่คนที่ต้องการทำงานที่บ้านเท่านั้น เพราะบางคนอาจประสบปัญหากับสัญญาณ Wifi ที่ขาด ๆ หาย ๆ แต่ผู้คนเคยชินกับการมีอิสระในการทำงานมากขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการรับลูกจากสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือไปพบแพทย์โยไม่ต้องขอเวลาพัก”หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP ระบุ
การต่อต้านการกลับมาทำงานเต็มเวลามีมากขึ้นในหมู่พนักงานที่อายุยังน้อย โดยประมาณ 71% ของเด็กอายุ 18-24 ปี กล่าวว่า พวกเขาจะพิจารณาหางานใหม่หากบริษัทของพวกเขายืนกรานจะให้กลับมาทำงานที่ออฟฟิศเต็มเวลา ขณะที่กลุ่มอายุ 35-44 ปี อยากจะลาออกคิดเป็น 61% และกลุ่มอายุ 45-54 ปี คิดเป็น 56% เท่านั้น
โดย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP กล่าวอีกว่า หากไม่มีการอธิบายให้กับพนักงานรุ่นใหม่ว่าทำไมพวกเขาถึงควรมาทำงานที่ออฟฟิศ ก็อาจจะทำให้หลายคนตัดสินใจลาออกในท้ายที่สุด เพราะการทำงานนอกสถานที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้น และน่ากลัวน้อยกว่าสำหรับพนักงานรุ่นเยาว์ เนื่องจากพวกเขาเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้ฝังอยู่ในโครงสร้างทางสังคม หลักสูตรของโรงเรียน และงานอดิเรกของพวกเขา
นั่นเป็นเหตุผลที่บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องก้าวไปไกลกว่าการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันและโต๊ะปิงปองเพื่อให้คนหนุ่มสาวกลับมาที่ออฟฟิศ และผู้จัดการจำเป็นต้องมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมในสำนักงานที่มีส่วนร่วม ซึ่งพนักงานสามารถรับคำปรึกษาที่มีคุณค่าจากผู้สูงวัยและมีส่วนร่วมในกิจกรรมความผูกพันในทีมกับเพื่อนร่วมงาน
“มีความจำเป็นใหม่สำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่จะต้องพัฒนาเนื่องจากตลาดแรงงานที่คับแคบนี้ พนักงานต้องรู้สึกว่าตัวเองได้ประโยชน์จากการตื่นเช้าและการเดินทางไปทำงาน ซึ่งจะต้องคุ้มค่าจริง ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะจากไป” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP ระบุ