อินเดียประกาศระงับการส่งออกวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซนเนกาทั้งหมดชั่วคราว หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศพุ่งขึ้นสูง ซึ่งหมายความว่า อุปสงค์ความต้องการวัคซีนภายในประเทศสูงตามไปด้วย จึงต้องสำรองวัคซีนโควิด-19 ไว้ให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกวัคซีนโควิด-19 จนถึงสิ้นเดือนเมษายน ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ 190 ประเทศภายใต้โครงการ “Covax” มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบ ซึ่งโครงการดังกล่าวนำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้แน่ใจว่า จะมีการแบ่งปันวัคซีนอย่างเป็นธรรมระหว่างทุกประเทศ
การตัดสินใจครั้งนี้ของอินเดียคาดว่าเกิดจากสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศล่าสุดที่เลวร้ายลง โดยเฉพาะเมื่อวาน (24 มี.ค.) วันเดียวอินเดียมีผู้ติดเชื้อรายวันทุบสถิติที่ 47,262 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 275 ราย รวมแล้วปัจจุบันอินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 11.78 ล้านราย และเสียชีวิตรวมกว่า 160,000 ราย
ที่ผ่านมาอินเดียได้ส่งออกวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกว่า 60 ล้านโดสไปยัง 76 ประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกา
โดยผู้ผลิตวัคซีนที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย สถาบันเซรุ่มอินเดีย (SII) ได้ชะลอการจัดส่งวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาไปยังหลายประเทศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รวมถึงอังกฤษและบราซิล
ทางอังกฤษบอกว่า เพิ่งรับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซเนกาเพียงครึ่งหนึ่งของที่สั่งจองไว้ 10 ล้านโดสจาก SII ซึ่งอาจนำไปการชะลอการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนบางส่วน
การตัดสินใจของอินเดียดูจะทำให้เรื่องราวเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ยุ่งเหยิงมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา SII ถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในประเด็นเกี่ยวกับลำดับการจัดสรรวัคซีน ตลอดจนปัญหาเกี่ยวกับการผลิต
ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า ไม่มีการส่งออกวัคซีนโควิด-19 จากอินเดียตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว (18 มี.ค.)
เรียบเรียงจาก BBC / The Guardian
ภาพจาก AFP