วันที่ 2 ธันวาคม ที่ศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 ท่าน ขึ้นบังลังก์ อ่านคำวินิฉัย และ มีมติเอกฉันท์ 9 เสียง พิจารณากรณี การอาศัยบ้านพักทหาร ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เปิดเหตุผลศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย "ประยุทธ์" ได้ไปต่อ อยู่บ้านพักทหารได้ แต่คนอื่นทำแบบนี้ไม่ได้!!
"ประยุทธ์" ไม่กังวล "พักบ้านหลวง" ทำกระเด็นหลุดเก้าอี้
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย 1.นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2. นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ 3.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ 4.นายปัญญา อุดชาชน 5. นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 6.นายวิรุฬห์ แสงเทียน 7.นายจิรนิติ หะวานนท์ 8.นายนภดล เทพพิทักษ์ และ 9.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
โดย นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัย ดังนี้
- ที่มา ต้นเรื่อง
“ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่การกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 55 คน เข้าชื่อร้องต่อผู้ร้องขอให้ส่งคำร้องไปยัง ศาลรัฐธรมนูญเพื่อพิจารณาวินิฉัยตามรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวอ้างว่า “ผู้ถูกร้องใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์” ซึ่งเป็นบ้านพักของทางราชการทหาร เป็นที่พักอาศัยของผู้ถูกร้องและครอบครัว โดยไม่เสียค่าเช่า ค่ากระแสไฟฟ้า และค่าน้ำประปาให้กับทางราชการทหาร จึงเป็นการอยู่อาศัยโดยไม่มีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์และยังเป็นการกระทำ
ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรมอย่างร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรม อันเป็นเหตุให้ความป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) และ (5) ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82"
- ผลการพิจารณา
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า บ้านพักอาศัยของผู้ถูกร้องเปลี่ยนสถานะเป็นบ้านพักรับรอง ตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก พ.ศ. 2548 ซึ่งกำหนดให้อดีตผู้บังคับบัญขาชั้นสูงของกองทัพบกซึ่งทำคุณประโยชน์ให้กับกองทัพบกและประเทศขาติและเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชการทหารบกมาแล้ว มีสิทธิเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบกและกองทัพบกสามารถพิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปา ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นต่อการพักอาศัยตามความจำเป็นและเหมาะสมในการใช้งาน เมื่อผู้ถูกร้องเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบก จึงเป็นผู้มีสิทธิข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบกและมีสิทธิได้รับการสนับสนุนค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปาตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น แม้เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นพลเรือนก็ย่อมไม่มีสิทธิพักอาศัยในบ้านพักรับรองนั้น ประกอบกับการให้สิทธิดังกล่าวให้แก่ผู้มีคุณสมบัติตามระเบียบนั้นเป็นธุรกิจการงานปกติ โดยถือเป็นสิทธิของบุคคลอันเนื่องมาจากการดำรงตำแหน่งอดีตผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก
จึงมีมติเอกฉันท์ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170วรรคหนึ่ง (4)ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3)
และผู้ถูกร้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังอธิบายเหตุผล ว่า หลัง 1 ต.ค. 2557 พล.อ.ประยุทธ์ เข้าพักอาศัย ในบ้านพัก อดีต ผบ.ทบ. ทำคุณประโยชน์ ซึ่ง กองทัพมีสิทธิพิจารณาอนุญาตเฉพาะราย และระเบียบนี้มาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ รับตำแหน่ง ผบ.ทบ. และ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้สิทธิเฉพาะเจาะจงกับ "พล.อ.ประยุทธ์" อีกทั้ง ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำประเทศ ทำคุณประโยชน์ รัฐพึงจัดการดูแลความปลอดภัยอย่างเหมาะสม