"วัชระ"จี้ ผบ.ตร.สอบตร.ไม่ฟ้องน้อง"ธนาธร"ติดสินบน 20 ล้าน
“วัชระ” ร้อง “สิระ” สอบน้องชายธนาธร ปมสินบน 20 ล้าน
สาระสำคัญของเอกสารชี้แจงจำนวน 3 หน้าของนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ อธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกดำเนินคดีกรณีทุจริตและปลอมแปลงเอกสารราชการ สำนักงานทรัพย์สินพระมหาษัตริย์ และสาเหตุการโอนเงินจำนวน 3 ครั้ง
แบ่งเป็น 6 ประเด็น โดยประเด็นแรกนายสกุลธร ยืนยันว่าไม่รู้จัก นายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ เป็นการส่วนตัว และไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ คนใดเลย ก่อนจะมารู้ว่า นายประสิทธิ์ เป็นใคร หลังตำรวจทำคดีนี้แล้ว
ประเด็นที่ 2 นายสกุลธร ยอมรับว่ารู้จักกับ นายสุรกิจ ตั้งวิทูวนิช (จำเลยในคดีปลอมแปลงเอกสาร) ผ่านนายหน้าที่รู้จัก ในปี 2560 แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวหรือสนิทสนมกันมาก่อน โดยตลอดระยะเวลาที่ทำงาน ที่ดินแปลงนี้ มีนายหน้าหลายคน ได้พยายามรวมตัวมาเสนอที่ดินให้ ดังนั้นการเจรจาต่างๆ จึงเป็นสิ่งที่เปิดเผยและมีหลายคนรับรู้
พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มอบเงินให้นายสุรกิจ ไปดำเนินการในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้งนายสุรกิจ ยังเป็นคนที่เพิ่งรู้จักกัน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมอบเงินให้ไปทำการทุจริตหรือมีการเรียกรับเงิน เพื่อดำเนินโครงการนี้
อัยการสูงสุด แจง เหตุสั่งไม่ฟ้อง คดีน้อง“ธนาธร”
ประเด็นที่ 3 นายสกุลธร ย้ำว่าในการปฎิบัติงานจะยึดหลักเรื่องความโปร่งใสและความถูกต้อง โดยมีการระบุไว้ในสัญญาการว่าจ้างอย่างชัดเจน
ประเด็นต่อมา นายสุกลธร ชี้แจงว่าโครงการที่ทำเป็นโครงการลักษณะมิกซ์ยูส (Mixed-use) หรือ โครงการอสังหาที่รวมเอาการใช้งานหลายๆ รูปแบบเข้ามาไว้ด้วยกัน ขนาด 160,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย โรงแรม ศูนย์การค้า สำนักงาน และคอนโดมิเนียม ซึ่งตลอดการทำงานมีการจ้างที่ปรึกษาหลายหน่วยงานและเป็นการทำงานอย่างจริงจัง เพราะเข้าใจว่าหากต้องการผ่านการพิจารณา โครงการต้องมีความโดดเด่นเท่านั้น พร้อมยอมรับว่า มีการจ่ายเงินตามที่มีข่าวออกไปจริง แต่เป็นการชำระค่าจ้างแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด ตามขั้นตอนปกติ เมื่อแผนงานมีความคืบหน้า ซึ่งทุกครั้งที่จ่ายเงินได้มีการเก็บหลักฐานไว้เสมอ ไม่ได้มีเจตนาหลบหลีกการตรวจสอบ ก่อนพบว่ามีการทำเอกสารราชการปลอม มาขอเบิกเงินค่าจ้างจนทำให้เกิดความเสียหาย
ต่อมาในวันที่ 16 พ.ย. 2560 ได้รับหนังสือจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เชิญให้เข้าไปเสนอแผนพัฒนาโครงการในวันที่ 23 พ.ย. 2560 ก่อนได้รับโทรศัพท์จากนายหน้าว่าขอยกเลิกการประชุมล่วงหน้า 1 วัน ก่อนถึงวันประชุม ทำให้รู้สึกผิดปกติ เป็นที่มาของการส่งหนังสือถึงสำนักงานทรัพย์สินฯ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการเช่าที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่ง สำนักงานทรัพย์สินฯ แจ้งว่าไม่มีนโยบายหาผู้เช่ารายใหม่ จึงได้ยกเลิกสัญญาและส่งหนังสือทวงหนี้ 2 ครั้ง พร้อมกับชี้แจงสำนักงานทรัพย์สินฯ ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย
ต่อมา สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ตรวจสอบจนทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารจนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
ประเด็นสุดท้าย นายสกุลธร ย้ำว่า ขอยืนยันความบริสุทธิ์ และตนเป็นผู้เสียหายซึ่งได้ชี้แจง ไปแล้วในสำนวนสอบสวนตั้งแต่แรก ส่วนเงินค่านายหน้า เป็นการตกลงตามธุรกิจ และจะชำระเงิน เมื่อได้จดสิทธิ์การเช่าที่สำนักงานที่ดิน
อัยการแจงปมคดี“น้องชายธนาธร”ชี้สำนวนยังอยู่ในมือตำรวจ
หลังนายสกุลธร เผยแพร่เอกสารชี้แจง นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้ยื่นหนังสือขอให้ตำรวจและอัยการตรวจสอบสาเหตุการไม่สั่งฟ้องนายสกุลธร ได้ตั้งข้อสังเกตต่อคำชี้แจงนายสกุลธร หลายประเด็น เช่น ประเด็นการเสนอเงิน 500 ล้านบาท ให้แก่นายหน้าเพื่อให้ได้สิทธิเช่าที่ โดยไม่ผ่านการประมูลลักษณะนี้เรียกว่าอะไร
พร้อมมองว่าการชี้แจงผ่านเอกสารของนายสกุลธร ไม่มีความน่าเชื่อถือเพราะตลอดการชี้แจงในเอกสาร ใช้คำว่าข้าพเจ้า แทน ชื่อของนายสกุลธร เกือบทั้งหมด อีกทั้งยังไม่มีการลงลายเซ็นหรือตราประทับของบริษัท จึงกังวลว่าในอนาคตอาจมีการอ้างว่าเป็นเอกสารเท็จได้ และเสนอว่าหากนายสกุลธร มีความบริสุทธิ์ใจจริง ควรตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อเปิดโอกาสให้มีการซักถามในประเด็นอื่นๆ เพิ่มเติมได้
ด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในผู้ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตว่านายสกุลธร อาจมีส่วนพัวพันกับการจ่ายสินบนครั้งนี้ เป็นคนแรกๆ มองว่าเป็นเรื่องดีที่นายสกุลธร ออกมาชี้แจง เพื่อจะได้ทราบข้อมูลของทุกฝ่าย พร้อมแนะนำว่าหากต้องการให้เกิดความเชื่อถือมากกว่านี้นายสกุลธร ควรเปิดนำหลักฐาน สัญญาจ้างนายหน้าจัดหาที่ดิน หลักฐานการโอนเงิน ทั้ง 3 ครั้ง รวมมูลค่า 20 ล้านบาท หลักฐานดำเนินการฟ้องร้องผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กรณีถูกหลอก และแสดงหลักฐานเอกสาร ที่ส่งไปสอบถาม สำนักงานทรัพย์สินฯ เรื่องเช่าที่ดิน เพื่อให้เกิดความชัดเจน
นอกจากนี้ นายสมชายยังระบุว่า ตำรวจควรเร่งดำเนินการตรวจสอบและชี้แจงว่าสรุปแล้วนายสกุลธร มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตครั้งนี้หรือไม่ เพื่อให้คดีได้ข้อยุติและคลายข้อสงสัยของสังคม