เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำวันที่ 5 ตุลาคม 2564 มีมติครม.ที่สำคัญ ที่ประชุมครม.เห็นชอบจัดหาวัคซีนโควิดแอสตร้าเซเนก้า จากประเทศฮังการี 400,000 โดส และครม.ยังเห็นชอบรับมอบวัคซีนที่บริจาคจาก 2 ประเทศ ได้แก่สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ บริจาควัคซีนไฟเซอร์ 1 แสนโดส ประเทศเยอรมนีบริจาคแอสตร้าเซเนก้า 346,100 โดส
“ออมสิน” ออกมาตรการพักชำระหนี้นาน 3 เดือน ช่วยลูกหนี้ประสบภัยน้ำท่วม
สภากาชาดฉีดวัคซีนแรงงานต่างด้าว-ผู้ลี้ภัย
นายธนกร วังบุญคงชนะ ย้ำว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโควิดจากไอซ์แลนด์และเยอรมนี โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้มีอำนาจลงนามในร่าง Donation Agreement – Delivered Doses ระหว่างไอซ์แลนด์กับไทย พร้อมลงนามในร่าง Tripartite Agreement ระหว่างฮังการี ไทย และบริษัท AstraZeneca และร่าง Bilateral Agreement ระหว่างเยอรมนีกับไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า ไอซ์แลนด์มีความประสงค์ที่จะให้การสนับสนุนบริจาควัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ให้กับไทย โดยจะบริจาควัคซีนไฟเซอร์ 100,000 โดส โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูลรมว.สธ. จะเป็นผู้ลงนามในร่าง Donation Agreement – Delivered Doses ระหว่างไอซ์แลนด์กับไทย ซึ่งจะดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป
พร้อมกันนี้ เยอรมนีจะให้การสนับสนุนบริจาควัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 346,100 โดส โดยให้ รมว.สธ. เป็นผู้ลงนามในร่าง Bilateral Agreement ระหว่างเยอรมนีกับไทย และร่าง Tripartite Agreement ระหว่าง เยอรมนี ไทย และบริษัท AstraZeneca ด้วย
“ไอซ์แลนด์และเยอรมนีคาดว่าจะสามารถส่งมอบวัคซีนได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้สามารถกระจายการฉีดวัคซีนได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ การได้รับสนับสนุนบริจาควัคซีนสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมของประเทศไทย และความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรไมตรีระหว่างสหภาพยุโรปอีกด้วย” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่วต่อว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ AstraZeneca จากฮังการี จำนวน 400,000 โดส พร้อมอนุมัติให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้ลงนามในร่าง Bilateral Agreement ระหว่างฮังการีกับไทย และร่าง Tripartite Agreement ระหว่างฮังการี ไทย และ AstraZeneca
โดนยการจัดซื้อวัคซีนจากฮังการี จะมีการลงนามในร่าง Bilateral Agreement ระหว่างฮังการีและไทย สาระสำคัญของร่างประกอบไปด้วย 1. การขนส่งวัคซีน 2.กรรมสิทธิ์และความเสี่ยง 3.การรักษาความลับ 4. กฎหมายที่ใช้บังคับและการยุติข้อพิพาท และ 5. Indirect taxes/VAT มีการลงนามและร่าง Tripartite Agreement ระหว่างฮังการี ไทย และ AstraZeneca ซึ่งจะใช้ร่างเอกสารแบบเดียวกันที่ไทยจัดซื้อวัคซีน AstraZeneca จากราชอาณาจักรสเปนเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 โดยมีสาระสำคัญ 1. Indirect taxes/VAT 2. การส่งมอบ และ 3.กฎหมายที่ใช้บังคับ
“การจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมเป็นไปตามแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบ 126.2 ล้านโดส มั่นใจว่าปีนี้จะสามารถฉีดวัคซีนให้ได้อย่างร้อยละ 70 ของประชากรกลุ่มเป้าหมายภายในเดือนธันวาคม 2564 โดยในวันพรุ่งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะร่วมงานฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับเด็ก/เยาวชน ที่โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี กรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งสร้างความมั่นใจในการเปิดภาคเรียนที่ 2/2564 อีกด้วย” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ก่อนโควิด-19 ระบาด มณฑลหูเป่ย์สั่งซื้อชุดตรวจ PCR เพิ่มขึ้น 2 เท่า
"เจ" นี้ไม่อยากออกจากบ้านซื้อของเบียดคน แค่คลิกสั่งซื้อออนไลน์ได้เลย