เรือดำน้ำไทยที่กองทัพเรือแสั่งซื้อจากจีน กำลังเจอปัญหาใหญ่ "ไม่มีเครื่องยนต์" เพราะข้อตกลงระบุว่าใช้เครื่องยนต์จากเยอรมนี แต่ปัญหาคือเยอรมนีห้ามส่งออกเครื่องประเภทนี้ให้กับทางการจีน
ข้อตกลงที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน เครื่องยนต์ที่ใช้ในเรือดำน้ำเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ผลิตโดยบริษัท MTU ของเยอรมนี ซึ่งเป็นข้อมูลที่กองทัพเรือระบุไว้ แต่เยอรมนีห้ามส่งออกเครื่องยนต์ให้กับทางจีน ตามมาตรการของสหภาพยุโรป(อียู) ที่ห้ามส่งออกสินค้ายุทโธปกรณ์ในปี 1989 เนื่องจากการปราบปรามผู้ชุมนุมในจตุรัสเทียนอันเหมิน
วันวิชิต เชื่อ ทร.ซื้อเรือดำน้ำจีน หวังให้เพื่อนบ้านกลัว
ที่มา: กองทัพเรือ
ข้อตกลงที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน เครื่องยนต์ที่ใช้ในเรือดำน้ำเป็นเครื่องยนต์ดีเซล ผลิตโดยบริษัท MTU Friedrichshafen GmbH ของเยอรมนี ซึ่งเป็นข้อมูลที่กองทัพเรือระบุไว้ แต่เยอรมนีห้ามส่งออกเครื่องยนต์ให้กับทางจีน ตามมาตรการของสหภาพยุโรป(อียู) ที่ห้ามส่งออกสินค้ายุทโธปกรณ์ในปี 1989 เนื่องจากการปราบปรามผู้ชุมนุมในจตุรัสเทียนอันเหมิน
ปัญหาเรือดำน้ำไทยสร้างความเสื่อมเสียให้กับจีนพอควร เพราะข้อตกลงมูลค่า 410 ล้านดอลลาร์ เป็นหนึ่งในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับจีนในฐานะผู้ส่งออกอาวุธ อีกทั้งการจัดซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้นับเป็นการแสดงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจีนกับไทย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้น จีนได้ขายเรือดำน้ำ 8 ลำ ให้กับปากีสถาน แต่ก็ไม่ได้มีการระบุแน่ชัดว่าเป็นเรือดำน้ำที่ใช้เครื่องยนต์จากเยอรมนีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงจัดหารือดำน้ำให้กับไทย เมื่อเดือนที่ผ่านมา Bangkok Post รายงานว่าผู้ช่วยทูตทหารเยอรมนี Philipp Doert บอกว่าเยอรมนีไม่ส่งออกเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับเรือดำน้ำในครั้งนี้ เพราะว่าเรื่องยุทโธปกรณ์ทางการทหาร ซึ่งจีนไม่ได้มีการหารือกับทางเยอรมนีก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญาการจัดซื้อกับทางการไทยว่าจะใช้เครื่องยนต์ของ MTU
กระทรวงการต่างประเทศของจีนบอกว่าการสั่งห้ามส่งออกครั้งนี้ ไม่สอดคล้องกับสถานะความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ซึ่งจีนและสหภาพยุโรป(อียู) มีความสัมพันธุ์ที่ดีและเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ และหวังว่าทางอียูจะมีการพิจารณาโดยเร็ว
รัฐบาลในยุโรปบางประเทศกำลังผลักดันให้มีการยกเลิกคำสั่งห้ามในปี 2005 แต่ได้รับการคัดค้านจากสหรัฐ ที่ให้เหตุผลว่าจะกระทบต่อความสมดุลทางอำนาจทางการทหารระหว่างจีนและใต้หวัน หากมีการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ แต่ก็มีการตีความแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ให้สามารถส่งออกสินค้าบางประเภทได้
อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศที่กรุงสต็อคโฮล์ม ประเมินว่าเครื่องยนต์ดีเซลจากเยอรมนีรุ่นนี้มีการส่งไปจีน 56 เครื่องยนต์ตั้งแต่ปี 1989 สำหรับเรือดำน้ำโจมตีแบบ Song และจากฐานข้อมูลระบุว่ามีการใช้เครื่องยนต์นี้ 26 เครื่องยนต์ในเรือดำน้ำจู่โจมของจีน
แต่ทางบริษัท MTU บอกว่าได้ยุติการส่งมอบแล้ว แม้ว่าในอดีตเคยส่งขายทางการจีน แต่ในครั้งนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเยอรมนี แต่เมื่อระเบียบเปลี่ยนไป ทางบริษัทได้หยุดส่งมอบให้กับเรือดำน้ำจีนแล้ว
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีเรือดำน้ำที่ไทยสั่งจากจีน ทาง MTU ไม่ได้ชี้แจงใด ๆ รวมทั้งรัฐบาลเยอรมนีก็ไม่ได้แสดงความเห็นกรณีมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย
เรือดำน้ำที่ไทยสั่งซื้อ รุ่น S26T เป็นหนึ่งในเรือคลาส Yuan ของกองทัพเรือจีน เป็นรุ่นต่อมาจากรุ่น Song อย่างไรก็ตาม ในเดือนธ.ค. 2020 รัฐบาลจีนไม่มีการจัดส่งเรือดำน้ำ Yuan ให้กับประเทศไหน
ตั้งแต่รัฐบาลจีนไม่สามารถจัดหาเครื่องยนต์สำหรับเรือดำน้ำให้กับไทยได้ พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่าทางทีมเจรจากำลังดำเนินการเพื่อไม่ให้ไทยเสียประโยชน์ โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจา ขณะที่จีนเสนอใช้เครื่องยนต์อื่น แต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งจะทำให้การส่งมองล่าช้าออกไป
การเจรจาต่อรองถือเป็นความลับที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ปัญหาเครื่องยนต์มาแดงขึ้นมาเมื่อหนังสือพิมพ์ Bangkok Post รายงานว่าเยอรมนีไม่เห็นด้วยที่จีนจะขายเรือดำน้ำให้กับประเทศที่สาม ซึ่งในกรณีคือไทย แต่ผู้ช่วยทูตทหารของเยอรมนีชี้แจงในวันต่อมาว่าปัญหาไม่ใช่อยู่ที่จุดหมายปลายทางของเครื่องยนต์ แต่เป็นเรื่องที่ว่าจุดหมายแรกที่ส่งไปคืออุตสาหกรรมด้านการทหารของจีน
การจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นประเด็นถกเถียงในไทย จากเดิมที่กองทัพเรือต้องการจัดซื้อ 3 ลำ วงเงินเกือบ 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่ชะลอการจัดซื้อ 2 ลำ เนื่องจากมีกระแสวิจารณ์ในเรื่องงบประมาณ ในขณะที่สังคงเผชิญกับการระบาดของโควิด-19
ผู้เชี่ยวชาญ บอกว่าประเทศที่ต้องการยุทโธปกรณ์ที่มีความซับซ้อนควรจะติดสองตลบ หากซื้อจากจีน ถ้าคำสั่งซื้อเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อชิ้นส่วนจากยุโรป ซึ่งมีความเสี่ยงการจัดซื้อล่าช้าออกไปและต้นทุนจะเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นหากใครต้องการสั่งซื้อ จะต้องพิจารณาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วย
ที่มา: The Wall street Journal, กองทัพเรือ