ส.ส.ก้าวไกล โผล่เวที 'ทัพเรือ' แจงซื้อ 'เรือดำน้ำ' ถามเหตุใดไม่คำนึงวิกฤตเศรษฐกิจ
ส.ส.พปชร. เถียง "ยุทธพงศ์" แทน ทร. ยัน มีเอกสารจัดซื้อเรือดำน้ำ
ความเห็นของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าวพีพีทีวี ระบุว่า ไทยไม่มีความจำเป็นที่ต้องจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องข้อพิพาททางทะเลในระดับที่รุนแรง จึงมองว่า ควรต้องการเรือดำน้ำของกองทัพเรือ เกิดขึ้นจากค่านิยมเดิมๆ ที่มองว่า การมีอาวุธยุทธโธปกรณ์ทันสมัยจะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเกรงกลัว
นอกจากนี้ ยังวิเคราะห์ว่า การที่กองทัพเรือ เลือกจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ส่วนหนึ่งเพื่อแสดงให้เพื่อนบ้านเห็นว่า ไทย-จีนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมถึงพยายามรักษาดุลอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน
กองทัพเรือ แจงยิบจัดซื้อเรือดำน้ำแบบจีทูจี อย่าโยงการเมือง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วันวิชิต เล่าย้อนว่า ช่วงปี 2481 ไทยเคยมีเรือดำน้ำแล้ว 4 ลำ เป็นเรือที่จัดซื้อจากประเทศญี่ปุ่น แต่ใช้งานได้เพียง 14 ปี ก็ต้องปลดระวาง เนื่องจากไม่มีอะไหล่ในการซ่อมแซม เพราะ ช่วงนั้น ประเทศญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับ ภาพเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2481 เรือดำน้ำ 4 ลำที่จัดซื้อ มีชื่อว่า เรือหลวงสินสมุทร เรือหลวงพลายชุมพล เรือหลวงมัจฉาณุ และเรือหลวงวิรุณ ราคาที่จัดซื้อตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ ลำละ 820,000 บาท
ในมุมมองของผู้ช่วยศาสตราจารย์วันวิชิต วิเคราะห์ว่า การตัดสินใจกองทัพเรือ ควรถอนเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำออกจากการพิจารณางบประมาณครั้งนี้ เพราะ หากไม่ถอนออกเรื่องนี้อาจกลายเป็นชนวนที่กลุ่มนักศึกษาที่กำลังเคลื่อนไหวทางการเมืองหยิบยกไปใช้โจมตีกองทัพและรัฐบาล ย้ำว่า การตัดสินใจนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของกองทัพ เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดในทางการเมือง
เมื่อถามว่า ควรถอนเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ ชั่วคราวหรือยกเลิกไปเลย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วันวิชิต ระบุว่า หากดูตามข้อมูลก่อนหน้านี้จะพบว่า การมีเรือดำน้ำ นอกจากเพื่อแสดงแสนยานุภาพแล้ว ยังเพื่อใช้สำรวจทรัพยากรทางทะเลนำไปสู่การขยายอาณาเขต แต่ในกรณีนี้สภาพพื้นที่ของประเทศไทย ไม่ได้เอื้อต่อการสำรวจใดใด เพราะทั้งอ่าวไทยและอันดามันพื้นที่ไม่สามารถขยายอาณาเขตไปได้มากกว่านี้แล้ว