พท.ยื่นอภิปราย 15 มิ.ย. คาใจ ทอ.จัดซื้อบินรบ F-35 ลำละ 2,700 ล้านบาท

เครื่องสเตลธ์ F-35 ญี่ปุ่น ร่วงทะเลแปซิฟิก ล่าสุดพบซากแล้ว แต่หานักบินไม่พบ

เครื่องบินรบ “F-35C” พร้อมประจำการกองทัพเรือสหรัฐฯ

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณปี 2566 มีการกู้เงินจนเต็มเพดาน แต่งบพัฒนาประเทศแทบจะไม่มี และขณะที่ประชาชนเดือดร้อนรัฐบาลบอกไม่มีเงิน แต่กลับจะนำงบประมาณไปซื้อเครื่องบินรบ F-35 รุ่นใหม่ล่าสุด 8 ลำ แต่จะจัดซื้อในปีงบประมาณ 66 จำนวน 2 ลำ ราคาลำละ 78 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2,700 ล้านบาท/ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินเปล่าไม่มีอาวุธ

ทั้งนี้จึงขอถามไปยังนายกรัฐมนตรีว่าจะซื้อมาทำไม มีเหตุผลความจำเป็นอย่างไร ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชน และเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ ดังนั้น การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติว่าจะไม่รับหลักการของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ พร้อมดักคอเอาไว้ว่า อภิปรายครั้งนี้หนักแน่ นายกฯ อย่ายุบสภาหนีไปก่อนแล้วกันครับ

เราลองมาทำความรู้จักสเป็กเครื่องบินรบ เอฟ-35 สเตลธ์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่มีความอ่อนไหวสูงของสหรัฐ โดยรัฐบาลสหรัฐจะขายให้เฉพาะพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดเท่านั้น  ส่วนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกนั้น มีเพียงออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ที่มีเครื่องบินรบรุ่นดังกล่าว

นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการทหาร กองทัพอากาศ ได้ให้ข้อมูลที่เปิดเผยว่า ในปี 2565 กองทัพอากาศมีเครื่องบินพร้อมรบ 85 เครื่อง และเมื่อถึงปี 2575 จะเหลือเครื่องบินพร้อมรบ 29 เครื่อง (เครื่องบินเก่ามีอายุใช้งาน 40 ปี หมดอายุใช้งานพร้อมกัน 10-20 เครื่องพร้อมกัน)

หากจัดซื้อเครื่องบินฝูงหนึ่งในปีงบประมาณ 2566 ต้องช้ระยะเวลาประมาณ 5 ปี จะได้รับเครื่องบิน 4 เครื่อง และต้องใช้เวลาฝึกนักบินให้พร้อมรบประมาณ 10 ปี หากไม่ดำเนินการใด ๆ ตามแผนภาพรวมการพัฒนากองทัพอากาศในทุกมิติ หรือไวท์เปเปอร์ ที่ส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กองทัพอากาศจะไม่มีศักยภาพในการพร้อมรบ โดยเฉพาะภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนื

ส่วนจะเป็นเอฟ-35 สเตลธ์ หรือไม่นั้น กองทัพอากาศไม่บอกตรงๆ แต่บอกว่า ขณะนี้ต้องการเครื่องบินรบขับไล่ที่มีคุณภาพมากกว่าประมาณ โดยเครื่องบินสำหรับอนาคตในยุคที่ 5 เพียง 1 ลำ จะทดแทนเครื่องบินที่ทยอยปลดประจำการได้ถึง 3 ลำ ด้วยเทคโนโลยีลดการตรวจจับเรดาห์ และการช่วยต่อข้อมูลปฏิบัติการร่วมกับกำลังภาคพื้นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ