เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2565 ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทรักธรรม พร้อมเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคที่อยู่ในตำแหน่งระหว่างเดือน ก.ย.2561 – ม.ค.2562 และห้ามจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ กำหนดระยะเวลา 10 ปี
สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ยุบพรรคไทรักธรรม เนื่องจากพบว่ามีพฤติกรรมจูงใจประชาชนด้วยผลประโยชน์ให้ไปสมัครสมาชิกพรรค และพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายอาศัยช่องว่างเรียกรับเงินจากกองทุนพัฒนาการเมือง
กกต.ยื่นยุบ"ไทรักธรรม"ปมจูงใจสมัครสมาชิก
“3ป.”ยกทีมดินเนอร์ พรรคร่วม-พรรคเล็ก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ กกต.ได้มีมติดำเนินคดีอาญาไปแล้ว นอกจากนั้นยังพบพิรุธการตั้งสาขากว่า 100 แห่งที่ถือมากกว่าทุกพรรคการเมือง ซึ่งภายหลังได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการเมือง ก็พบว่า พรรคไทรักธรรมได้มีหนังสือแจ้งขอเลิกสาขาพรรค 79 แห่งอีกด้วย ซึ่ง กกต.เห็นว่าอาจเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์
โดยวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทรักธรรม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสอง ประกอบมาตรา 30
ขณะเดียวกันยังมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคผู้ถูกร้องที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในระหว่างเดือน ก.ย.2561 – ม.ค.2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรค มีกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค
และมีมติโดยเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 วินิจฉัยห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงแหน่งกรรมการบริหารพรรคไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีกภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมูญมีคำสั่งยุบพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ต้องพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทันที