ภาพซองบรรจุเงินสด ที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ตรวจยึดได้ ภายในห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งผู้ต้องหาซุกซ่อนไว้ทั้งในลิ้นชัก ตู้เก็บของ และภายในห้องพักซึ่งเป็นห้องนอนในกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
โดยซองเหล่านี้มีลักษณะเป็นซองเอกสารสีน้ำตาลและซองสีขาว หน้าซองจะเขียนด้วยลายมือถึง “ท่านอธิบดี” และ “รายหน่วยงาน” ในสังกัดกรมอุทยานฯ ที่เป็นเจ้าของเงินทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ
แบ่ง เป็นสำนักงาน เช่นในจังหวัดชลบุรี ปัตตานี นครสวรรค์ และอีกหลายจังหวัด พร้อมกับจำนวนเงิน และงวดที่ต้องส่งคืองวดตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม ซึ่งก็คือเดือนนี้ โดยพบว่าจำนวนเงินในแต่ละซองแตกต่างกัน ตั้งแต่ 200,000 บาท หรือมากที่สุด 1,600,000 บาท แบ่งเป็น 2 เดือน เดือนละ 800,000 บาท เป็นของ หน่วยงานซึ่งอยู่ในจังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือ
ทีมข่าว PPTV ได้ข้อมูลเชิงลึกจากชุดสืบสวน ว่าซองที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการเรียกรับผลประโยชน์ของอธิบดีที่จะเรียกเงินเก็บรายเดือน จากหน่วยงานต่างๆที่อยู่ในสังกัด โดยแต่ละหน่วยงานต้องส่งเงินเป็นประจำ ไม่สามารถขาดได้เพราะมีการทำบัญชีเอาไว้ แต่จำนวนก็จะไม่เท่ากัน โดยแต่ละหน่วยงานต้องส่งเท่าไหร่ผู้กำหนดคือ “อธิบดี” โดยดูจากจำนวนของผลประโยชน์ที่น่าจะเรียกรับได้ในพื้นที่ บวกกับจำนวน ของงบประมาณที่ กรมจัดสรรให้เพื่อใช้ในงานราชการ
จากนั้นก็จะคิดเป็นเปอร์เซนต์เงินที่ต้องเก็บส่งให้กับอธิบดีในแต่ละเดือน เช่น 15% หรือ 30% ซึ่งตำรวจปปป.ได้เบาะแสว่า ถ้าใครไม่ส่งส่วยตามกำหนดก็จะอยู่ไม่ได้
เช่นเดียวกับในวันที่ล่อซื้อและมีการจับกุมวันนี้ (27 ธ.ค. 2565) ก็เป็นการเข้ามาประชุมและนำเงินรายเดือนมาส่ง หนึ่งในนั้นคือเงินของข้าราชการที่นำหลักฐานเข้าร้องเรียนเนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรม
การตรวจค้นวันนี้ยังนอกจากเงินที่อยู่ภายในซอง ยังพบเงินอีกส่วนหนึ่งอยู่ในกระเป๋าเป้สีลายพรางซึ่งเป็นกระเป๋าของกรมอุทยาน ด้านในมีเงินสดอยู่ประมาณสองล้านบาทกระเป๋าถูกซุกซ่อนไว้ภายในห้องทำงานโดยวางอยู่กับพื้น
ส่วนซองที่ได้รับล่าสุดจำนวน 98,000 บาท ชุดสืบสวนให้รายละเอียดว่า อธิบดีกรมอุทยานฯบอกว่า ไม่รู้ว่าภายในซองเป็นเงินสด รับมาแล้วก็เก็บไว้เฉยๆใต้โต๊ะทำงาน ขณะที่ตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายเอกสารเงินในทั้งหมด จึงนำมาแสดงแต่อธิบดีก็พยายามบ่ายเบี่ยงและขอปรึกษาฝ่ายกฎหมาย
สำหรับเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทที่ตรวจยึดได้ในห้องทำงานของอธิบดี ข้อมูลจากชุดสืบสวนเชื่อว่านี่เป็นเพียงเงินส่วนหนึ่งที่ถูกนำส่งในช่วงปลายปี ยังไม่นับรวมกับเงินที่มีการเรียกรับตั้งแต่อธิบดีท่านนี้เข้ารับราชการมาเป็นเวลาประมาณหนึ่งปี ขณะนี้ตำรวจจึงอยู่ระหว่างการขยายผลและสอบสวน
ส่วนพฤติการณ์ของอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชคนนี้ มีรายงานเบื้องต้นจากตำรวจชุดสืบว่า เริ่มเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง โดยงานแรกที่เริ่มต้น คือ การสั่งย้ายข้าราชการระดับผู้อำนวยการ 16 สำนักจนเกิดความชุลมุน เพื่อเปิดทางให้ข้าราชการเหล่านี้มาวิ่งเต้นและจ่ายเงินเป็นผลประโยชน์ให้ แลกกับการมาถูกโยกย้ายและได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่ต้องการ