วันนี้ 10 มี.ค. 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่ต่างจังหวัดครั้งแรก เพื่อพบปะรับฟังปัญหาของชาวนา โดยเดินทางไปพร้อมกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา
ช่วงหนึ่งมีการตั้งวงพูดคุย โดยสมาชิกพรรคเพื่อไทยพร้อมนายเศรษฐานั่งบนรถกระแทะ ที่ใช้ขนปุ๋ย ส่วนชาวนานั่งบนรถอีแต๋น โดยปัญหาที่ชาวนาพูดให้นายเศรษฐาฟังมากที่สุดคือ ปัญหาราคาข้าว ราคาปุ๋ย
เลือกตั้ง 2566 : “เพื่อไทย” ประกาศ “อุ๊งอิ๊งค์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ
เลือกตั้ง 2566 : เพื่อไทย ตั้งเป้า 310 ส.ส. รัฐบาลพรรคเดียว
อีกทั้งยังเกิดภัยธรรมชาติน้ำท่วมและน้ำแล้งทุกปีการผลิตแบบไม่รู้จบ โดยชาวนากลุ่มนี้เสนอกับนายเศรษฐาว่าราคาข้าวเปลือไม่ควรต่ำกว่าตันละ 1 หมื่นบาท พร้อมถามนายเศรษฐว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่สามารถทำได้ พรรคเพื่อไทยมั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะทำได้
นายเศรษฐา ตอบว่า 8ปีที่ผ่านมาตัวเองคงพูดไม่ได้ แต่รับรู้ถึงความคับแค้น และความอัดอั้นตันใจของชาวนาที่สะสมมาตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ว่า ชาวนาไม่มีความสุข ราคาพืชผลตกต่ำ ฯลฯซึ่งหากถามว่า พรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้หรือไม่ ก็ต้องบอกว่า ตนมั่นใจว่าเราสามารถทำได้ เราแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี
ส่วนเรื่องน้ำท่วม-น้ำแล้ง นายเศรษฐารับปากว่าดูเป็นนโยบายให้ แต่ต้องดูยุทธศาสตร์โดยรวม ซึ่งต้องขอไปศึกษาก่อนแต่หลัการหากตรงนี้เดือดร้อนมากเราก็ต้องมีวิธีการที่จะบรรเทาความเดือดร้อนในส่วนนี้
นอกจากนี้ นายเศรษฐายังกล่าวถึงเรื่องราคาข้าว ว่ามั่นใจว่าสามารถเพิ่มราคาข้าวได้ แต่อีกด้านนึงที่จะต้องทำ คือ การลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มผลิตผลไปด้วย ตรงนี้กำลังดูเรื่องการสร้างผลผลิตในท้องถิ่นมาใช้แทนปุ๋ยเคมี โดยช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยเคยประสบอุบัติเหตุเรื่องจำนำข้าว จะทำให้มีนโยบายต่างจากเดิมหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า รอบนี้เรามุ่งที่รายได้สุทธิที่จะเข้ากระเป๋าของชาวนา แต่จำนำข้าวเป็นเรื่องที่มุ่งไปที่ราคาพืชผล นโยบายของเราวันนี้คือนโยบายภาพรวมที่จะทำให้ชาวนามีเงินในกระเป๋าสูงกว่าเดิม 3 เท่า
นอกจากนี้นายเศรษฐายังระบุว่า วันที่ 17 มี.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะประกาศนโยบายชุดใหม่ และจะเป็นนโยบายชุดใหญ่ที่เชื่อว่าจะสร้างเสียงฮือฮือ เพราะจะเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหราฬ
ก่อนกลับนายเศรษฐายังได้ร่วมรับประทานอาหารกับชาวบ้าน มีชาวบ้านถามว่าอาหารอร่อยมั้ย นายเศรษฐาพร้อมยกนิ้วโป้งพร้อมยิ้ม ก่อนจะกล่าวว่า “ผมกินเป็นอย่างเดียวนะครับ ทำไม่เป็น ไม่เหมือนพลเอกประวิตร พลเอกประวิตรทำอาหารเก่ง” ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า นายเศรษฐาเคยกินหรอ นายเศรษฐาตอบว่ามีเพื่อนเคยกินอาหารฝีมือท่าน แล้วเคยคุยกันว่า พล.อ.ประวิตร ทำอาหารอร่อยจริง