ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมให้พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2566 ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัณพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.
โดยมีบรรดากองเชียร์ของแต่ละพรรคการเมืองมารอให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ขณะเดียวกันมีการดูแลรักษาความปลอดภัย บริเวณโดยรอบอย่างเข้มงวด จากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนหลายกองร้อย
มั่นใจกระแส “ก้าวไกล” เข้าฝักได้มากกว่า 30 ส.ส
พรรคก้าวไกลเดินทางโดยรถเมล์ EV นำโดย นายพิธี ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาพร้อมกับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประมาณ 40 คน พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เปรียบเสมือนวันสมัครงานของว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
สำหรับหน้าตาบัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล มีส่วนผสมจากทั้คนที่เคยเป็น ส.ส.และคนที่มีประสบการณ์จากการทำงานหลากหลายด้าน ไม่มีนายทุน โดยเรียงลำดับควาสำคัญจาก 2 ปัจจัย คุณค่าของพรรคก้าวไกล และ คามท้าทายและโอกาสของประขชาชน ทำให้การเมืองดี ปากท้องดีได้ ประเทศมีอนาคตได้ จะต้องมีอะไรบ้าง
นายพิธา มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้เก้าอี้ ส.ส.มากกว่า 30 เสียง และการลงพื้นที่ปราศรัย และพบปะประชาชนก็ยิ่งได้รับการตอบรับมากขึ้น
ตอนนี้พรรคก้าวไกลเข้าฝัก เชื่อว่าอีกเดือนครึ่งที่เหลืออยู่จะยิ่งได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะถึงวันที่ 14 พ.ค.
ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า การจัดวางบัญชีรายชื่อของพรรคได้กำหนดจากการผลักดันการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก ไม่มีระบบเส้นสายภายในพรรค
“ชูวิทย์” โผล่ถาม “ก้าวไกล” ร่วมรัฐบาล 2 ป.หรือไม่
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 06.58 น. ระหว่างที่ PPTV สัมภาษณ์ พรรคก้าวไกล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ พร้อมกล่าวว่า ส่วนตัวไม่สนับสนุนให้มีการซื้อเสียง ส.ส. ส่วนพรรคก้าวไกลเชื่อว่า งูเห่าไปหมดแล้ว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ขอให้พรรคก้าวไกลรับปากสั้นๆ ง่ายๆ พร้อมถามว่าจะไปรวมกับพรรคการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ ทำให้ นายชัยธวัช กล่าวว่า “ถ้าจำเป็นต้องร่วมรัฐบาลกับ 2 ลุง ไม่ว่าลุงใดลุงหนึ่ง ก้าวไกลพร้อมเป็นฝ่ายค้าน มีประโยชน์กับประชาชนมากกว่า”
“ประชาธิปัตย์” มั่นใจแกนนำตั้งรัฐบาล
เมื่อเวลา 06.57 น. พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เปิดเผยถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งว่า จะทำให้มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แม้พรรคจะไม่หวือหวาเหมือนจรวด แต่เหมือนเครื่องบิน เพราะเครื่องบิน บินขึ้น ไม่ได้บินลง ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะได้คะแนนเสียงจากประชาชนมากขึ้นเป็ฯลำดับ
“ฐานเสียงประชาธิปัตย์เดิมที่เมื่อครั้งที่แล้วยังมั่นคงกับเรา ก็ขอให้ช่วยกันกลับมาเลือกประชาธิปัตย์แล้วก็ถือโอกาสนี้ขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนประชาธิปัตย์มาอย่างยาวนาน เรามั่นใจว่าถ้าเราจับมือกันเราจะพาสถาบันทางการเมืองไปสู่อนาคตที่ดีกว่าได้และยั่งยืน”
“เพื่อไทย” ปักหมุดบัญชีรายชื่อ 50 ที่นั่ง
พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีเเก้ว หัวหน้าหน้าพรรค , น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครอบครัวพรรคเพื่อไทย และ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย รวมถึง นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงนายชัยเกษม นิติสิริ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยออกเดินทางจากพรรคด้วยรถบัส EV 2 คัน
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวถึง บัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะมีการประชุมอีกครั้ง ก่อนที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 เม.ย. ส่วนจะใช่นายชัยเกษม นิติศิริ อดีต รมว.ยุติธรรมหรือไม่ ขอให้รอลุ้นกันอีกครั้ง
ทั้งนี้ จากการสำรวจกระแสพรรค พรรคคาดหวังว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อไว้ 50 ที่นั่ง
"อุ๊งอิ๊งค์" นำทัพ "เพื่อไทย" สู่แลนด์สไลด์ ย้ำจับมือ "พลังประชารัฐ" มีโอกาส แต่จะเกิดขึ้นหรือเปล่าไม่รู้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครอบครัวพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเลือกตั้ง 66 ฟังเสียงคนไทย ทางสถานีโทรทัศน์พีพีทีวี โดยเผยว่า ขณะนี้ตั้งครรภ์ประมาณ 8 เดือนครึ่งแล้ว ส่วนจะคลอดประมาณต้นเดือนพฤษภาคม ส่วนได้ตั้งชื่อลูกไว้หรือยังของอุบไว้ก่อน
เมื่อถามว่าการปราศรัยหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้มีคิวหาเสียง ถึงวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะดูร่างกายไปเรื่อยๆ รวมถึงจะมีหาเสียงผ่าน Zoom หรือ วิดีโอคอบลปราศรัยควบคู่ไปด้วย
เมื่อถามว่า ได้ประเมินตัวเองหรือไม่ ในเรื่องของการลงพื้นที่หาเสียง ปราศรัยเก่งขึ้น เข้าหาพี่น้องประชาชนได้มากขึ้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวพูดวนน้อยลง ปกติเวลาตื่นเต้นเราจะพูดวนน้อยลง แต่เวลาตื่นเต้นน้อยลงเราก็จะพูดตรงจุด ยิ่งช่วงนี้ตั้งครรภ์ด้วย พูดไปก็จะมีอาการเหนื่อยควบคู่ไปด้วย บางครั้งเลยพูดช้าลง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากไม่เกิดปรากฎการณ์แลนด์สไลด์ ตามที่หวังไว้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ประมาท เพราะเราต้องตอกย้ำพี่น้องประชาชน ว่าเราจะทำอะไรให้บ้าง นั้น คือเป้าหมายของเรา เป็นสิ่งที่เราต้องทำ แล้วโพลที่ขึ้นเป็นกำลังใจให้เราแน่นอน
"อย่าที่บอกเราไม่ประมาท เราทำทุกวันให้เต็มที่เหมือนเดิม ตอนนี้เหลือประมาณ 40 วัน เราก็เต็มที่ ต้องดูร่างกายแต่ละคน ให้สุขภาพแข็งแรง เพื่อสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนด้วย"
ส่วนนโยบายที่สำคัญที่สุด หากวันนี้จะเลือกเพื่อไทย มีอะไรบ้าง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจัดทำนโยบายค่าแรง 600 บาท ที่เราจะทำ ซึ่งเราทำอย่างแน่นอน และทุกอย่างจะดีเรื่อยๆ
รวมถึงนโยบายที่ต้องย้ำที่อีกครั้ง คือ ดิจิตอลวอลเลต เมื่อเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล สามารถทำได้เลย ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ทั้งประเทศ ลงไปสู่เศรษฐกิจชุมชน
"คนที่อายุ 16 ปี จะได้ใช้ เรื่องตัวเลขขออุบไว้ก่อน พรุ่งนี้รู้เลย เรายืดที่อยู่ตามบัตรประชาชน และให้ใช้เงินที่อยู่ในบัตร ในพื้นที่ 4 กิโลเมตร และให้ใช้ ให้หมดภายใน 6 เดือน จึงกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่นั้นๆ"
เมื่อถามว่าคล้ายๆ แอพเป๋าตังหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ยืนยัน ไม่เหมือนแอพเป๋าตัง เพราะดิจิตอลวอลเลต มีลิมิตเวลา เพราะทุกนโยบายจำเป็นต้องใช้งบประมาณ ว่าเราทำอะไรไปบ้าง แล้วเราค่อยมาดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ว่างบประมาณที่เบิกใช้ไปมีประสิทธิภาพหรือไม่ ไม่ใช่ว่าเบิกงบไปแต่ไม่ได้อะไรเลย
ส่วนนโยบาย 30 บาท เราจะเพิ่มเงินให้ โดยการใช้บัตรประชาชนใบเดียว สามารถใช้ได้ทั่วประเทศ และเรายังมีนโยบายฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกฟรีให้กับผู้หญิง
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร จะได้กลับมาเมื่อไทยหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ยืนยัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวไม่ผูกกัน แต่วิธีการกลับมาของนายทักษิณ ให้เป็นคนเลือก เป็นคนวางแพลนเอง ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยมีอย่างเดียว คือ การเอานโยบายที่เสนอไว้ พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่อย่างเดียว คือ เอานโยบายที่เคยเสนอสู่ประชาชน ทำให้สำเร็จได้ ซึ่งพรรคเราอยู่ได้ เพราะเราทำได้จริง
ส่วนในความเป็นห่วงของครอบครัว นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่าทุกคนเป็นห่วง คุณพ่อคุณแม่ พี่น้องรวมถึงสามี แม้ท้อง 8 เดือน วันนี้ยังสามารถหาเสียงได้อยู่ และยังไหวอยู่
ส่วนที่หลายคนมองว่า การเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะต้องลงสมัครเป็น ส.ส. เรื่องนี้มองว่า พรรคเพื่อไทยเคยเสนอ อยู่แล้วในการที่นายกรัฐมนตรี จะต้องเป็น ส.ส. แต่วันนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ให้เราไม่ต้องเป็น ส.ส.ได้ หากวันนี้เราจะต้องต่อสู้ในระบอบของประยุทธ์ เราต้องสู้ในเกมกติกาของเค้า
"วันนี้เมื่อถามว่า ห่างกับประชาชนหรือไม่ ถือว่าไม่ห่างเลย เพราะทุกวันนี้ยังบอกกับทุกคนเลยว่า ตนเองยังหาเสียงปราศรัยอยู่เลย จะคลอดอยู่ปลายเดือนต้นเดือนหน้าก็ยังหาเสียงอยู่เลย พรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน"
เมื่อถามว่าหากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 3 คน แต่จะมีเพียง 1 คน ที่จะได้เป็นนายกฯ ส่วนที่เหลือจะยังทำงานอยู่หรือไม่ เพราะไม่ได้เป็น ส.ส. นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า ยังคงช่วยกันทำงานอย่างแน่นอน เพราะเราได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเราจะช่วยงานกันตลอด ไม่มีใครถอยไปอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยออกมา บอกว่า ตนเองลง ส.ส.จะได้ตอบคำถามว่า มาจากประชาชน ไม่อยากโกหกประชาชน นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า "ก็ให้เป็นเรื่องของท่านไป"
เมื่อถามว่า รู้สึกบ้างไหมว่าเพื่อไทยไปไหน ใครจะได้เป็นนายกฯ นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยผ่านอะไรมาเยอะ เราโดนยุบพรรค 2 ครั้ง เราโดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองไม่รู้กี่คน หากเราเสนอ 1 คน แล้วหากเกิดอะไรขึ้นอีก นายกฯ ก็ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย แล้วนโยบายที่ดีของพรรคเพื่อไทย จะถึงประชาชนได้อย่างไร วันนี้เราเลือกแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คนไม่ได้เพื่อตนเอง แต่เราเลือก 3 คน เพื่อพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสจับมือกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นางสาวแพรทองธาร กล่าวว่า ทุกอย่างมีโอกาส แต่! จะเกิดขึ้นหรือเปล่านั่นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่นั้น นางสาวแพรทองธาร ย้ำว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ แต่! ว่าแน่นอน สิ่งที่เราจะเริ่มทำก่อน เราจะเริ่มทำนโยบายก่อน และที่ผ่านมานโยบายของพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐก็ไม่เคยตรงกันเลย
"ธนกร" เชื่อว่าคนไทย รัก พล.อ.ประยุทธ์
นายธนกร วังบุญคงชนะ เชื่อว่าวันนี้คนไทยทุกคน รักพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ไม่รักไม่เป็นไร แต่พล.อ.ประยุทธ์ คือ นายกฯ ของคนไทยทุกคน เชื่อว่าก็มีบางคนไม่รัก แต่มีคนที่รักมากกว่า วันนี้ส่วนตัวชอบนายกฯ แบบนี้ เพราะงานเยอะ มีหงุดหงิดบ้างตามประสานคนทั่วไป แสดงออกมาให้เห็นไปเลย จึงชอบแบบนี้ ส่วนที่หลายคนวิจารณ์ว่า 8 ปี ไม่มีอะไรเลย วันนี้อยากให้ย้อนกลับไปดูว่ารัฐบาลประยุทธ์ ทำอะไรไว้บ้าง อยากให้ดูที่ผ่านงานมากกว่า
"ประยุทธ์" ชี้ หลังเลือกตั้งประเทศไทยต้องไปต่อ ยันพร้อมเดินตามทุกกติกา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยทั้งชาติ กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักที่เดินทางมาทำข่าวการสมัครส.สบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมือง เมื่อถามว่ามุ่งมั่นที่จะใช้มือไหน ในการจับสลากหมายเลขของพรรค พล.อ.ประยุทธ์ หันมาถาม นายพีระพันธ์ สาลีรัตน์ทวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าตกลงให้ใครจับสลาก พร้อมกับบอกว่า ต้องดูระเบียบก่อน มือไหนก็เหมือนกัน แต่ถ้าจะทำความดีต้องใช้สองมือ
ส่วนการจับขั้วทางการเมืองหลังเลือกตั้งต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันของพรรค เพราะประเทศไทยต้องต่อ ส่วนการจับสลากหมายเลข วันนี้ก็เป็นกระบวนการหนึ่งในระบบการเลือกตั้ง ซึ่งต้องทำให้ถูกต้อง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า วันนี้ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเพราะตื่นเช้าทุกวันอยู่แล้ว และยังกล่าวด้วยว่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น เพราะผ่านมาหลายเรื่องแล้วไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง วันนี้พร้อมปฏิบัติตามทุกกติกา พร้อมขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ส่วนตั้งเป้าจะได้ ส.ส. กี่ที่นั่ง ขอให้ไปถามประชาชน
"ชวน" ให้กำลังใจจับฉลากบัญชีรายชื่อ เชื่อในความสามารถ ขอพรรคการเมืองอย่าใช้นโยบายสร้างหนี้เอาใจประชาชน
นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตประธานสภา กล่าวภายหลังเดินทางมาให้กำลังใจสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในวันจับฉลากส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมระบุว่า ไม่ได้คิดเรื่องจำนวนส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ที่จะได้ นอกจากนี้ไม่ได้มีเรื่องหนักใจเรื่องการกอบกู้พรรคเพราะมีหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลอยู่ และไม่ได้มีเลขในใจว่าจะได้เบอร์อะไร
นายชวน ย้ำว่า ขอพรรคการเมืองอย่านำเสนอนโยบายที่สร้างหนี้ให้กับประชาชนอย่าหาเสียงเอาใจชาวบ้านจนสร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ปฏิบัติกันมาตลอด
ส่วนปรากฏการณ์ย้ายขั้วและจับขั้วทางการเมืองขณะนี้ นายชวน มองว่า เป็นปกติสำหรับการเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าไม่ค่อยปกติ เพราะสำหรับคนที่ทำงานอยู่เดิมมาแล้ว 4 ปี ก็มีฐานที่แข็งแรง เมื่อออกไปและมีคนใหม่เข้ามาแล้วมาเริ่มต้นเพียง 1 เดือนก็จะเหนื่อยหน่อย ซึ่งถือว่าเป็นความจริงที่ว่า คนที่เคยอยู่เดิมแล้วได้ทุกอย่างจากพรรครวมถึงเงิน และออกไปปุบปับแล้วหาคนใหม่เข้ามาแทน ซึ่งคนใหม่ที่เข้ามา 1-2 เดือนถือเป็นเรื่องยากที่จะไปต่อสู้คนที่อยู่มาแต่เดิมได้ เพราะได้สร้างความนิยมไว้แล้ว เพราะฉะนั้นต้องอาศัยชื่อเสียงของพรรคเป็นส่วนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่เมื่อมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็ถือว่าเป็นพรรคที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง มีหัวหน้าพรรคมา 8 คนแล้ว แต่ยังคงทำงานอย่างซื่อสัตย์ไม่เคยมีคดีโกงซักหนึ่งข้อหา อย่างน้อยคนก็รู้ว่า เป็นพรรคที่ประชาชนเชื่อถือได้
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาช่วยพรรคหาเสียงในการเลือกตั้งปี 2566
นายชวน ระบุว่า พยายามช่วยมาโดยตลอด แต่เมื่อท่านตั้งใจว่าจะไม่ลงสมัครในครั้งนี้ แต่ตั้งใจออกมาช่วยตั้งแต่แรกก็ถือว่าเป็นประโยชน์
นอกจากนี้ นายชวน ฝากถึงคนที่ให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในขณะนี้ ยอมรับว่า คนอาจรู้จักนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคน้อยหน่อย แต่ท่านเป็น ส.ส.มา 11 สมัย ซึ่งในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ลาออก ผู้ที่อาวุโสสุดคือนายจุรินทร์ ซึ่งถือเป็นคนเก่งคนหนึ่ง พื้นฐานเป็นคนสอบได้ที่ 1 มาตั้งแต่เด็ก และเคยเป็นเลขาของตน จึงพอทราบว่าเป็นคนที่เก่งคนหนึ่ง พร้อมระบุว่า แม้ว่าโพลหลายสำนักจะอยู่ในลำดับท้ายๆ แต่ตนก็ขอให้กำลังใจในการทำงานของนายจุรินทร์