จากกรณีนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เสนอชื่อนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น จึงเป็นโอกาสเหมาะที่เราจะมาทำความรู้จัก กับผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรรายนี้
นายวิทยา แก้วภราดัย ถือเป็นนักการเมืองมากประสบการณ์ ที่โลดแล่นบนเส้นทางการเมืองไทยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะรัฐมนตรี และในฐานะสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
โดย นายวิทยา ปัจจุบัน อายุ 68 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขานิติศาสตรบัณฑิต จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเรียนปี 4 วิทยาเป็นหนึ่งในนิสิตที่เข้าร่วมการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ขาในเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน 2 เดือน และต้องพักฟื้นที่บ้านอีก 7-8 เดือนจึงสามารถเดินได้เป็นปกติ และกลับเข้าเรียนต่อจนสำเร็จการศึกษาในที่สุด
"ปดิพัทธ์" ก้าวไกล - "วิทยา" รทสช. ชิงรองประธานสภาคนที่ 1
"วันนอร์" แสดงวิสัยทัศน์ หลังมีมติเลือกนั่งประธานสภา
“พิธา” แจงเลือก “วันนอร์” นั่งประธานสภา ยัน “สุราก้าวหน้า-สมรสเท่าเทียม” ไม่ถูกขัดขวาง
นายวิทยา ประกอบอาชีพเป็นทนายความก่อนเข้าสู่วงการเมือง ก่อนจะเข้าสู้ส้นทางการเมืองโดย ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ปี 2531, 2535/2, 2538, 2539, 2544, 2548, 2550, 2554 และยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปี พ.ศ. 2537-2538 เป็นประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ปี พ.ศ. 2538-2539
ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 นายวิทยา ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีการทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข จากนั้นไปรับตำแหน่งประธานวิปรัฐบาล
จากนั้นในช่วงปี พ.ศ. 2556–2557 นายวิทยาเป็นหนึ่งใน 9 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค และเข้าเป็นหนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) โดยมีบทบาทเป็นแกนนำผู้ชุมนุม และเป็นหนึ่งในคนที่ศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา
ในปี 2565 นายวิทยาได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และได้เข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก่อนที่จะลงสมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด รทสช. และได้รับเลือกเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก่นอจะถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ก่อนที่จะแพ้เสียงโหวตในสภา