วันที่ 2 ส.ค. 2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ไม่มีอะไรที่พิธา ชัยธวัช และพรรคก้าวไกลต้องเสียใจ ไม่มีอะไรที่ พิธา ชัยธวัช และพรรคก้าวไกล ต้องเสียหน้า ไม่มีอะไรที่ พิธา ชัยธวัช และพรรคก้าวไกลต้องท้อแท้ สิ้นหวัง และไม่มีอะไรที่พิธา ชัยธวัช และพรรคก้าวไกล ต้องคลางแคลงสงสัยว่าตนคิดผิด
พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียใจที่มองสถานการณ์ระยะสั้น พวกเขาต่างหากที่ต้องเสียหน้า ตอบใครไม่ได้แม้กระทั่งตอบใจตนเอง ต้องแก้ปัญหาในสิ่งที่พูดไปแบบ “วัวพันหลัก”
เพื่อไทย ตั้งรัฐบาลไม่มี “ก้าวไกล” เสนอชื่อ “เศรษฐา”นายกคนที่ 30 เปิดตัวพรรคร่วมใหม่ 3 ส.ค.นี้
ย้อนรอยดีลรัก “ก้าวไกล-เพื่อไทย” จากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดจบ!
พวกเขาต่างหากที่ต้องท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่รู้ว่าในอนาคตจะชนะก้าวไกลได้ด้วยวิธีไหน จะยุบ จะตัดสิทธิ อย่างไร ก็ฆ่า “ความคิด” ไม่ตาย
สังคมเปลี่ยน ความคิดจิตใจคนเปลี่ยน นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องขยับตาม ถ้าไม่นำมวลชน อย่างน้อยก็ต้องเคียงข้างกับความคิดที่เปลี่ยนแปลงไป หนทางพิสูจน์ม้า และเวลาพิสูจน์คนใครถอยและใครทน พิสูจน์ได้เมื่อภัยมา ดีเสียอีก… ที่การเมืองไทยได้ขีดเส้นใหม่แบ่งใหม่ชัดเจน ต่อไป
ไม่ใช่สงครามสีเสื้อ ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างพรรคแต่คือ การต่อสู้ระหว่าง อดีต vs อนาคต อดีตแบบทศวรรษ 2520 ขยับทีละคืบไปสู่ทศวรรษ 40 กับ อนาคตแบบใหม่ที่ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศร่วมกันกำหนดเข็มนาฬิกาเดินหน้า ต่อให้ใครหยุดเข็มนาฬิกาไม่ให้เดิน อย่างไรมันก็จะเดินต่อไป
ขอจงยืนตรงอย่างทระนงองอาจ เดินหน้าสู้ต่อภัยทั้งปวง ต่อสู้ตามแนวทางของตน ระลึกถึงแววตา เสียงร้อง อ้อมกอด น้ำตา ของประชาชนที่ฝากความหวังให้กับพรรคก้าวไกล ตระหนักถึงภาระที่ประชาชนส่งมอบให้พรรคก้าวไกลนับแต่ 14 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ การเมืองไทยได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สู้ จนกว่า… อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน