แพทย์ เผยอาการป่วย "ทักษิณ" ยังน่าเป็นห่วง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

คืบหน้าอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจเปิดเผยว่าผลการเอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ ยังน่าเป็นห่วง มีอาการไอและหอบ แต่ยังมีสติพูดคุยได้ และยังคงต้องรักษาตัวต่อเนื่องที่โรงพยาบาลตำรวจ

วันที่ 25 ส.ค. 2566 พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ยันยันว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ หลังจากถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์

 พล.ต.ท.โสภณรัชต์ เผยว่าเมื่อวานนี้แพทย์ได้ตรวจเคลื่อนหัวใจไฟฟ้า และวันนี้ได้ตรวจเอคโค่หัวใจ ซึ่งได้รายงานไปที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว ภาพรวมอาการตอนนี้ยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะผลการเอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ แต่ไม่ถึงกับทรุด ความดันยังทรงตัว รวมถึงยังมีอาการไอ และหอบร่วมด้วย แต่ยังมีสติ สื่อสารกับแพทย์ได้ 

แพทย์ใหญ่ ยันรักษา “ทักษิณ” ตามสิทธิไม่เลือกปฏิบัติ ห้องพักแอร์เสียใช้พัดลม 2 ตัว

คปท.ร้อง! กระทรวงยุติธรรม ปฏิบัติกับ "ทักษิณ" เสมือนกับนักโทษคนอื่น

ส่วนขอสงสัยที่ว่าทำไมนายทักษิณ ถึงพักอยู่ในห้องรับรอง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ อธิบายว่า ตั้งแต่ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19  ได้ปรับเปลี่ยนห้องให้เป็นเหมือนกึ่งไอซียู สามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งวันที่มีการส่งตัวนายทักษิณมา เป็นเพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ร้องขอ และส่งตัวมาแบบด่วน ไม่มีเวลาเตรียมตัว เมื่อห้องไหนที่ว่างอยู่ ก็ต้องนำมาพักที่ห้องดังกล่าวก่อน  แล้วจึงย้ายเครื่องมือแพทย์ แล้วปรับเปลี่ยนเป็นห้องกึ่งไอซียู 

ส่วนเรื่องแอร์เสีย ขณะนี้ซ่อมเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ซ่อมแค่ห้องเดียว แต่ซ่อมทั้งชั้น และไม่อยากให้มองเรื่องของวิวห้องพัก เนื่องจากวิวห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลตำรวจทุกห้องนั้น อยู่ห้องไหนวิวก็สวย แต่ขอให้มองเรื่องคุณภาพชีวิต การดูแลรักษาผู้ป่วยมากกว่า

พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ยังยืนว่า โรงพยาบาลตำรวจ เป็นโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ จะไม่มีการย้ายผู้ป่วยไปไหนเด็กขาด หากจะย้ายก็จะเป็นการส่งกลับไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์เท่านั้น ส่วนถ้าเคสไหนรักษายาก เกินศักยภาพของโรงพยาบาลตำรวจ ก็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น ไม่มีการส่งไปโรงพยาบาลเอกชน

สำหรับเรื่องการเยี่ยมคนไข้ โรงพยาบาลตำรวจไม่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเท่านั้น และแพทย์ไม่มีสิทธิ์จะพาใครเข้าไปเยี่ยม

ส่วนที่มีการขอให้แพทย์ภายนอกเข้ามาตรวจสอบ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ บอกว่า เป็นเรื่องของจริยธรรมทางการแพทย์ และจรรยาบรรณทางการแพทย์ ที่จะไม่ละลาบละล้วงหากไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้ ก็ไม่มีสิทธิเข้าไปดู เช่นเดียวกับการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลการรักษาคนไข้ ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะถือเป็นความลับของผู้ป่วย หากเจ้าตัว และญาติ ไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถเปิดเผยได้

 

Bottom-VNL2025 Bottom-VNL2025

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ