นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุถึง กรณีที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาพบในวันนี้ หลังถูกออกหมายเรียก ว่า ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะปัจจุบันถูกหมายเรียกแต่ยังไม่ได้แจ้งจับซึ่งท่านก็ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ระหว่างนี้ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมไป และก็ต้องให้ความยุติธรรมกับท่านด้วย พร้อมยอมรับว่าวันนี้ตนได้พบกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์และทักทายว่า แต่งตัวผิดหูผิดตาหล่อจนจำแทบไม่ได้
เมื่อถามว่าจะต้องให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่าไม่ ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าผบ.ตร. ควรทำอย่างไร เพราะท่านรู้กระบวนการกฎหมายส่วนที่ประชาชนอาจจะกังวล ตนมองว่าขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และฝ่ายตำรวจก็ไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวถูกตั้งคำถามการมาพบนักการเมืองระดับสูงอาจเป็นการขอให้ช่วยเหลือใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่าตนหรือ พร้อมพูดย้ำหลายครั้งว่า ไม่มี พร้อมยืนยันว่าไม่มีการพูดถึงคดีของใครทั้งสิ้น รวมถึงพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ก็รู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร เพราะเรื่องพวกนี้ตนไม่ยุ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย พร้อมกล่าวย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนในเร็วๆนี้จะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการตำรวจ หรือ ก.ตร หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่าไม่มีการเรียกประชุมกตรนัดพิเศษนอกจากมีข้อมูลใหม่ เนื่องจากขยับไปเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมแล้ว ซึ่งในเดือนนี้จะมีวันไหนตนไม่แน่ใจ แต่จะมีการประชุม 1 ครั้ง ก่อนสิ้นเดือนมีนาคมนี้
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จะต้องมีการกำชับผบ.ตร. หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เวลาตนเชิญผบ. ตร. หรือ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ. ตร. เน้นเรื่องเนื้องานเป็นหลัก และล่าสุดที่พบกับพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ ก็มีการพูดคุยถึงการแก้หนี้ ที่ขณะนี้มีลูกหนี้เข้ากระบวนการน้อย โดยสั่งการให้กำชับผู้กำกับการทุกสถานี ทำงานร่วมกับมหาดไทยและนายอำเภอ เพื่อให้คนเข้าสู่กระบวนการมากขึ้น พร้อมย้ำว่าอย่าให้มีอำนาจมืดเข้ามาข่มขู่ลูกหนี้ได้ รวมถึงมีการหารือในประเด็นยาเสพติดด้วย ก่อนกล่าวย้ำทิ้งท้ายว่าหากไม่ใช่เรื่องของประชาชนตนไม่ยุ่ง ฉะนั้นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ และเมื่อถึงจุดที่กฎหมายบอกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องหยุด แต่ณขณะนี้ค่อนข้างมั่นใจว่ายังไม่ถึงจุดนั้น
เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การตอบโต้ระหว่างนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ผ่านหน้าจอสื่อมวลชน นายกรัฐมนตรีมองว่า ตอนนี้ก็เบาลงไปแล้ว แต่ถ้าให้ตนแนะนำ ให้ทำงานกันไปเถอะ เพราะอย่างที่บอกตนไม่ฟังว่ามีการตอบโต้หรือให้ข่าว แต่สิ่งสำคัญที่สุด ประชาชนอยากให้ตำรวจไปทำหน้าที่ตรงนี้มากกว่า ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตดได้กำชับไปแล้ว ว่าต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดทุกเรื่อง เพราะทุกข์สุขของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า จะต้องมีการกำชับเรื่องการปราบปรามการพนันออนไลน์หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พูดถึงมากเนื่องจากการพนันออนไลน์อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน และเวลาที่ตนเดินทางไป ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปปลาว และได้พบกับนายกรัฐมนตรีของลาว ในการประชุมอาเซียนออสเตรเลีย ก็มีการพูดคุยเยอะมากโดยจะต้องมีการทำงานร่วม กันระหว่างผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP การเมือง
- วิดีโอยอดนิยม
