จากกรณีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดงานวันปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2567 โดยมี รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยคณะทายาท ผู้บริหารหน่วยงานราชการ ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมวางพานพุ่มและมอบโล่รางวัล “ปรีดี พนมยงค์” ประจําปี 2567 และมอบรางวัลทุนการศึกษา
ขณะเดียวกันภายในงาน ยังได้มีการจัดเสวนาทางวิชาการหัวข้อ “เก่าไปใหม่มา: สว.ชุดใหม่ อนาคตประชาธิปไตย อนาคตประเทศไทย”
โดย ศ.ดร.ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อดีตคณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ สว. ชุดปัจจุบันที่รับเงินเดือนจากราษฎร ทำให้ประชาชนผู้เสียภาษีที่มีฐานะเป็นผู้ว่าจ้างต้องเกิดการตั้งคำถามว่าเราจ้างเขาไปทำไม เมื่อเทียบกับผลงานที่ต้องบอกว่าน้อยเกินไป และที่สำคัญยังมีวีรกรรมที่ไปกีดกั้นไม่ให้หัวหน้าพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเสียงส่วนใหญ่ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่กลับไปเป็นตรายางที่รับรองความชอบธรรมให้กับนายกรัฐมนตรีก่อนหน้านี้ถึง 2 คน ที่ไม่ได้มาด้วยความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย
“มันทำให้เกิดข้อสงสัยว่า สว. ที่ถูกตั้งขึ้นมาโดยมองว่ามีคุณวุฒิเหนือกว่าคนทั่วไป แต่เขากลับตัดสินใจตรงข้ามกับการเลือกตั้ง ที่เป็นความชอบธรรมอันถูกต้องของระบอบประชาธิปไตย หากจะประเมินก็ต้องจบด้วยการให้คะแนน F” ศ.ดร.ธเนศ กล่าว
ด้าน รศ.ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า หากจะให้คะแนน สว. ชุดปัจจุบัน ต้องบอกว่าให้เต็มสิบในแง่ของการพิทักษ์รักษาระเบียบอำนาจเดิมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งในแง่นี้ สว.ถือเป็นลูกจ้างที่ซื่อสัตย์มากต่อเจ้านายที่แต่งตั้งตนเองเข้ามา และหากมองว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 คือพินัยกรรมของคณะรัฐประหาร คสช. สว. ก็ได้ทำหน้าที่พิทักษ์รักษาพินัยกรรมฉบับนี้ไว้ได้อย่างดีมาก แต่หากมองในแง่ของการส่งเสริมประชาธิปไตย และการทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุล ก็จะต้องให้คะแนนเป็นศูนย์ โดยหากพิจารณาจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่เราเคยมี สว. แต่งตั้งมาแล้วหลายชุด ต้องถือว่า สว. ชุดนี้ที่แต่งตั้งโดย คสช. มีบทบาทในการขัดขวางและกร่อนเซาะประชาธิปไตยมากที่สุดในประวัติศาสตร์
“สว. ยุคก่อนไม่ได้มีบทบาทไปเปลี่ยนดุลอำนาจหรือไปขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชนได้ หากมองเทียบกันแล้ว สว. ชุดนี้จึงมีบทบาทสำคัญกว่าทุกชุดที่ผ่านมาในอดีต เพราะมีอำนาจในการเลือกนายกฯ มีอำนาจในการรับรองคนที่มาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ แต่ สว. กลับมาทำหน้าที่รับบทบาทการสืบทอดอำนาจให้กับคณะรัฐประหาร ในยุคที่บ้านเมืองพัฒนาไปไกลมากแล้ว และประชาชนก็ตื่นตัวไปไกลมากแล้ว แต่ก็ต้องขอบคุณ สว. ที่ทำให้เราเกิดการถกเถียงกันจริงจังมากขึ้น ว่าทำไมเราต้องมี สว. อีก ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนระบบไปเป็นสภาเดี่ยวเลยหรือไม่” รศ.ดร.ประจักษ์ กล่าว
ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า หากพิจารณาบทบาทของ สว. หน้าที่แรกคือการผ่านกฎหมาย จากสถิติพบว่าจากการพิจารณากฎหมาย 68 ฉบับ สว. ชุดนี้เห็นด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร (สส.) รวม 37 ฉบับ แต่กฎหมายฉบับสำคัญที่สุดอย่างรัฐธรรมนูญ มีการส่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณารวม 26 ฉบับ แต่ สว. มีการให้ผ่านอยู่ฉบับเดียวและที่เหลือถูกปัดตก จะเห็นได้ว่าเป็นการขัดขวางไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีหลายฉบับที่พยายามจะแก้ไขเพื่อลดอำนาจ สว. ในการโหวตนายกรัฐมนตรี และทุกฉบับก็ถูกปัดตกหมด หรือกล่าวได้ว่า สว. ปฏิเสธที่จะปิดสวิตช์ตัวเอง นอกจากนั้นหน้าที่ของ สว. ในการให้ความเห็นชอบผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ พบว่า สว. มีการใช้อำนาจนี้อย่างน่าสงสัย มีการปฏิเสธที่จะให้การรับรองหลายบุคคลที่ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าเป็นการกีดกันผู้ที่มีแนวคิดทิศทางไม่สอดคล้องกับตนเองหรือไม่ รวมถึงหน้าที่สำคัญที่สุดอีกอย่างคือการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งคิดว่าตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เห็นการปฏิรูปในมิติใดๆ ที่ออกดอกออกผลเลย แต่สิ่งเดียวที่เห็นได้ชัดเจนคือการสืบทอดการปกครองของ คสช.
“อยากขอบคุณ สว. ชุดนี้ ที่เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่าการรัฐประหารและการออกแบบ สว. โดยคณะรัฐประหารมันล้มเหลวอย่างไร และทำให้สังคมให้ความสำคัญกับการมีตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้ง และที่สำคัญที่สุดคือเราควรมีฉันทามติกันแล้วว่ารัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาให้ สว. มีที่มาเช่นนี้ควรจะต้องถูกแก้ไขอย่างรวดเร็ว” ศ.ดร.สิริพรรณกล่าว
ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้โดยรวมระบบปัจจุบันจะให้อำนาจ สว. มากกว่าที่เคยมีมาในอดีต แต่ก็ไม่เท่ากับช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่เราอยู่กันมา 5 ปี ในช่วง 2557-2562 ซึ่งเป็นระบบเลวร้ายที่สุดเท่าที่ประเทศไหนจะมีได้ คือให้ผู้ยึดอำนาจ เข้ามามีอำนาจเหนืออธิปไตยทั้ง 3 โดย คสช. สามารถมีอำนาจที่จะทำอะไรได้ทั้งหมด และหลังจากนั้นเราก็เข้ามาอยู่ภายใต้ระบบที่ สว. มีอำนาจมากมายมหาศาล ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร ซึ่ง สว. ชุดปัจจุบันถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ตามที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีอำนาจเหนือกว่าผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นระบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างยิ่ง และในระหว่างนี้ก็ขอว่า ช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการต่อไป มันไม่มีกติกาเหมือนรัฐบาลรักษาการ ฉะนั้นอะไรที่ไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ต้องทำจะดีกว่า
ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ กล่าวว่า สว. 250 คนชุดนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากตามวัตถุประสงค์และเหตุผลของการมีอยู่ คือเป้าหมายในการแช่แข็งประเทศไทย รักษาระบบการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และเป้าหมายในการสืบทอดอำนาจของกลุ่มคนที่มีความเชื่อมโยงกับคณะรัฐประหารและเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย โดยเราได้เห็นถึงผลงานสำคัญหลักๆ อยู่ 3 อย่างที่ สว.ใช้แช่แข็งประชาธิปไตยในประเทศไทย คือ 1.บทบาทในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี สว. ชุดนี้เข้ามาแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลถึง 2 ครั้ง คือการเลือกตั้งในปี 2562 และปี 2566 เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่จะรักษาระบบการเมืองที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรียกได้ว่า สว. 250 คน ก็คือพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน เพราะเป็นกลุ่มที่มีบทบาทในการกำหนดว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล
2.อำนาจในการยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งถือเป็นพินัยกรรมของ คสช. ที่รักษาไว้ซึ่งระบบการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะจากการเสนอพิจารณารวม 26 ร่าง กลับผ่านให้แค่ร่างเดียว และที่น่าตกใจคือมีถึง 18 ร่าง ที่ได้เสียงเกิน 2 ใน 3 ของ ส.ส. หรือเรียกว่าเป็นฉันทามติร่วมกันระหว่างฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลแล้วระดับหนึ่ง แต่กลับไม่ได้เสียงจาก สว. ที่เพียงพอต่อการแก้ไข และ 3.อำนาจในการรับรองตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่เราจะเห็นการใช้อำนาจเข้ามาปฏิเสธบุคลากรหลายคน และถูกตั้งคำถามว่าเกี่ยวข้องกับทัศนคติทางการเมืองที่ไม่เป็นไปตามแนวทางของฝ่ายอนุรักษ์นิยม
“ทั้ง 3 กลไกอำนาจนี้ถือเป็นสิ่งที่ สว. ใช้ได้ประสบความสำเร็จในการรักษาระบบความไม่เป็นประชาธิปไตย จึงอยากฝากข้อความไว้ว่าเวลาของท่านหมดแล้ว อย่าพยายามทวนเข็มนาฬิกา อย่าไปพยายามตีความอำนาจตามบทเฉพาะกาลที่ยังมีอยู่ หรือตีรวนให้กระบวนการคัดเลือก สว. ชุดใหม่มีความล่าช้า เพื่อทำให้ สว. ชุดนี้รักษาการต่อไปได้ รวมถึงอะไรก็ตามที่ยังคงมีอำนาจเชิงกฎหมายอยู่ ให้ตระหนักไว้เสมอว่าอย่าพยายามไปตัดสินใจอะไรที่ไปผูกมัดอนาคตของประเทศ ในช่วงรักษาการตอนนี้” นายพริษฐ์กล่าว
น้ำตาท่วม! ประชุมผู้ปกครอง ครูขอพ่อแม่อย่ายัดเยียดความฝันตัวเองให้ลูก
ทำความเข้าใจ "พายุแม่เหล็กโลก" ก่อนไทยเจอรุนแรงระดับ 7 หรือ G 3 มีผลอย่างไร ?