จากกรณีโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) ได้เผยแพร่ หนังสือตอบผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติของรัฐบาลเรื่องการยุบพรรคก้าวไกล และโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น
ล่าสุด นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า เป็นการนำเสนอที่สรุปรวบแบบไม่ตรงกับเนื้อหา และไม่ตรงกับความเป็นจริง เป็นพาดหัวตามภาพประกอบเพื่อชี้นำ และสร้างความเข้าใจผิดจากข้อเท็จจริงในองค์รวมของเนื้อหาในหนังสือจากคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา
ซึ่งหนังสือของไทย ที่เป็นการตอบคำถามตามข้อร้องเรียนของกลไกพิเศษ เกี่ยวกับกระบวนการที่ผ่านมาแล้ว ได้แก่ คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2567 และการยื่นคำร้องของ กกต. ต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล โดยคำชี้แจงที่ส่งไป เป็นข้อเท็จจริง และสถานะของคดี ณ วันที่ตอบข้อร้องเรียน รวมถึงกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายรัศม์ ยังยืนยันว่า รัฐบาลไทย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟ้องยุบพรรคก้าวไกล และไม่สามารถแทรกแซงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญได้ ทั้งนี้ หนังสือของไทยฉบับนี้ ได้ระบุเกี่ยวกับกำหนดการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.2567 โดยไม่มีการคาดเดา หรือ Prejudge เท่านั้น ซึ่งภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินแล้ว กลไกพิเศษ ยังสามารถส่งข้อร้องเรียน หรือข้อซักถามเพิ่มเติมได้
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้เห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมือง เพราะที่ผ่านมา มีการยุบพรรคการเมืองหลายครั้ง ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักษาชาติ ฯลฯ ซึ่งการยุบพรรคที่ยึดโยงกับประชาชน ทำให้เสียงของประชาชนไม่ถูกสะท้อนตามความเป็นจริง แต่ทั้งนี้ อำนาจการยุบพรรคการเมืองโดยศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ประชาชนไทยให้การรับรองผ่านการออกเสียงประชามติ ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ก้าวล่วงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ผ้าคลุมรถกันความร้อน และ 4 ไอเทมที่ช่วยทำให้รถดูสวยใหม่ตลอดเวลา