นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส. พรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินยุบพรรคก้าวไกล โดยนายพิธา กล่าวว่าที่มายืนอยู่หน้าเวทีวันนี้ขออำลาประชาชน ก่อนที่จะมีเสียงโห่ร้องจากด้านล่างบอกว่าไม่ให้ไป นายพิธา จึงพูดต่อว่าเขาบอกลาในฐานะนักการเมือง ในฐานะ สส.และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ของประเทศไทย แต่ถ้าประชาชนยังต้องการเขาก็จะกลับมาสู้ต่อในฐานะประชาชนไปพร้อมกับประชาชน และถึงแม้เขาจะถูกตัดสิทธิ แต่ตัดใจเขา (นายพิธา) จากประชาชนและประเทศไทยไม่ได้
และหวังว่าเขา (ฝ่ายตรงข้าม) จะตัดใจผมออกจากประชาชนไม่ได้เช่นเดียวกัน ก่อนที่ประชาชนที่อยู่ด้านล่างจะเปล่งเสียงทำนองว่าให้สู้ต่อรักนายพิธา มาก หลังจากนั้นนายพิธา ได้หยุดนิ่งพร้อมกับร้องไห้และนิ่งไปสักพักนึง ก่อนจะกลับมาพูดว่า เป็นน้ำตาแห่งความดีใจ ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ
นายพิธา ปราศรัยต่อว่าการถูกยุบพรรคในวันนี้ขอให้ประชาชนช่วยกันบอกเขา (เขาในที่นี้หมายถึงฝ่ายตรงข้าม) ไปว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้ ตาย 10 เกิดแสน เขาอยากได้อะไร เราจะไม่มีวันให้เขาได้สิ่งที่ต้องการนั้นก็คือให้เราหยุด แต่ถ้าพี่น้องประชาชนหยุดและเปิดโอกาสให้เขาหยุดความต้องการเราได้ ก็ต้องหยุด แต่ถ้าพี่น้องประชาชนยังให้ใจ เขาก็ทำอะไรไม่ได้ พร้อมกับย้ำอีกว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีสิทธิเข้าไปในรัฐสภา เข้าไปในทำเนียบรัฐบาล แต่ถ้าประชาชนยังให้อยู่ในใจ ประเทศไทยเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมแน่นอน และเรื่องที่สำคัญอยากจะกล่าวอีกเรื่องก็คือขอให้ประชาชนอย่าชินชากับเรื่องการถูกยุบพรรคเด็ดขาด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขา (ตัวนายพิธา) มีได้มอบให้ประชาชนหมดแล้ว ฉนั้นอย่าชินชากับเรื่องยุบพรรคเด็ดขาด พวกเราจะต้องชนะจนกว่าฝ่ายนั้นจะยอม
ปี 2570 ต้องให้ได้จำนวน สส. 270 เสียงจึงจะชนะ แต่ถ้าจะให้ดีไปถึง 300 เสียงก็ดี สุดท้ายนายพิธา ทิ้งท้ายว่าพรรคก้าวไกลจะเป็นพรรคสุดท้ายที่ถูกยุบ ต่อจากนี้ไปจะไม่มีการยุบพรรคในประวัติศาสตร์ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
ผลเทควันโดโอลิมปิก 2024 "เทนนิส" พาณิภัค คว้าทองโอลิมปิกสมัย 2