วันที่ 28 ส.ค. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดใจกับพีพีทีวีว่า ขอรอดูหลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆตรวจสอบพฤติกรรมของรัฐมนตรีแต่ละคนว่า มีคนใดบ้างที่เข้าข่ายผิดจริยธรรม หากมีเหตุก็เตรียมสอยให้พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีแน่นอน
หลังจากคณะรัฐมนตรีเริ่มทำงานแล้ว ตัวเองจะร้องเรียนทุกสัปดาห์ ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี แล้วเดี๋ยวมาดูกันว่า ใครจะตรวจสอบละเอียดกว่ากัน แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ตัวเองนั้นตรวจสอบละเอียดกว่า
นายเรืองไกร ยังบอกอีกว่า จากการตรวจสอบน.ส.แพทองธาร พบว่า ที่รวบรวมไว้มีหลายเรื่อง และ เรื่องราวที่ต้องตรวจสอบนั้นมีจำนวนมาก ซึ่งถือว่า รอยแผลนั้นเยอะกว่านายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ตั้งแต่เรื่องราวที่ร้องตรวจสอบไปก่อนหน้านี้ เช่น สถานะเจ้าหน้าที่ในกรรมการซอร์ฟพาวเวอร์ และหลักประกันสุขภาพ หรือ กรณีล่าสุดการลาออกจากกรรมการบริษัท ก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งตัวเองได้ยื่นให้กกต.ตรวจสอบว่า ความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.แพทองธาร สิ้นสุดลงหรือไม่ เพราะแม้จะมีพระบรมราชโองการวันที่ 18 ส.ค. แต่มีการประกาศ ณ วันที่ 16 ส.ค. ซึ่งวันที่ 16 ส.ค. ความเป็นกรรมการบริษัท ของน.ส.แพทองธาร ยังอยู่ ก็ถือว่า เป็นเหตุสงสัยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบ
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ขับพรรคพลังประชารัฐ พ้นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นเหตุให้ต้องตรวจสอบพรรคเพื่อไทยมากขึ้นหรือไม่ นายเรืองไกร ตอบว่า มากขึ้นสำหรับทุกคนอยู่แล้ว ไม่ได้จ้องจะร้องใครเป็นพิเศษ แต่ต้องยอมรับว่า น.ส.แพทองธาร มีประเด็นเยอะ ยืนยันว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะออกมาร้องเรียนแทนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะทุกครั้งที่เขียนคำร้องเรียนทำที่บ้านคนเดียว ทั้งพล.อ.ประวิตร และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ไม่เคยมีใครรู้ จะรู้ก็ต่อเมื่อเห็นจากข่าวแล้ว
นายเรืองไกร ยังย้ำว่า เดินหน้าตรวจสอบในฐานะประชาชนคนหนึ่ง และที่ผ่านมาก็ตรวจสอบทุกคนเท่าเทียม ก่อนจะไล่รายชื่อ ตั้งแต่พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บุคคลเหล่านี้ ตัวเองร้องเรียนมาแล้วทั้งหมด
เมื่อถามย้ำว่า ไม่ให้โอกาสให้น.ส.แพทองธาร ทำงานก่อน นายเรืองไกร ระบุว่า กฎหมายไม่เคยเขียนไว้ว่า จะต้องให้โอกาสใคร เพราะหากข้อเท็จจริงมีมูลก็สามารถร้องเรียนได้ ส่วนที่มีคนเห็นต่างว่า การร้องเรียนทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไม่ได้ ก็มองว่า ไม่เกี่ยวกัน และประเทศเดินหน้าต่อได้อยู่แล้ว จะมาบอกว่า ทุกอย่างหยุดชะงักนั้นไม่ใช่ และทุกวันนี้ประชาชนไม่ได้มองว่า จะทำประโยชน์ให้บ้านเมือง แต่เป็นการแก่งแย่งชิงอำนาจกันเอง เพื่อผลประโยชน์ พร้อมย้อนถามว่า วันนี้ใครเป็นคนเสียบเก้าอี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ขอให้ไปคิดดูแล้วกัน
ทั้งนี้ช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้น.ส.แพทองธารเป็นลูกไก่ ในกำมือใช่ไหม นายเรืองไกร ตอบว่า อยู่ใน 2 มือเลย เดียวหลุด
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP การเมือง
- วิดีโอยอดนิยม
