แม้จะมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แต่อีกตำแหน่งสำคัญที่ถูกจับตามองคือ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ซึ่งก็มีกระแสว่ารายชื่อคนที่จะได้เข้ามานั่งตำแหน่งนี้คือคนเดียวกับสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ที่จะเข้ามานั่งตำแหน่งนี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวพีพีทีวี ได้พูดคุยกับนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตโฆษกรัฐบาล ถึงกระแสดังกล่าวนั้นว่า ส่วนตัวรับว่าตกใจพอสมควร เพราะตามความตั้งใจคือต้องการจะอยู่ข้างนอกซักระยะหนึ่งก่อน เพราะก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่ถึงปี
ซึ่งก็คิดว่าถ้าถึงหนึ่งปีก็อยากจะหาทางไปช่วยเหลืองานรัฐบาลต่างๆ แต่เหมือนว่าผู้ใหญ่บางท่านจะอยากให้ตนเข้าไปช่วยงานรัฐบาล แล้วสามารถเข้าไปเสริมได้ จึงเกิดเป็นข่าวนี้ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ ไว้มีข้อสรุปแล้วก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง
เมื่อถามว่าหากไม่มีการเข้ามารับตำแหน่งเป็นโฆษกรัฐบาลชุดนี้ เพราะมีความกังวลหรือไม่ในเรื่องของจริยธรรมในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ นายจักรภพ ยืนยันว่า ตนไม่มีคดี 112 เพราะฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาคดีทั้งหมด ที่มีอยู่ตอนนี้ก็หมดไปจากตัวแล้ว ตอนนี้เป็นไทกับตนเองแล้ว แล้วคดีที่เหลืออยู่ 2 คดีก่อนกลับไทย ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องของ 112 เป็นเรื่องของอาวุธ อั้งยี้ ซึ่งอัยการก็ไม่สั่งฟ้องทั้งคู่แล้ว ทั้งนี้เรื่องคุณสมบัติก็คิดว่าไม่มีอะไรที่น่ากังวลหากได้เข้ารับตำแหน่งโฆษกรัฐบาล ส่วนตัวกังวลเรื่องงานข้างหน้ามากกว่าหากได้รับมอบหมายตำแหน่งโฆษกรัฐบาลจริง
นายจักรภพ บอกอีกว่า ส่วนเรื่องบุคคลที่เข้ามาทาบทามนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีแค่นายกฯเพียงคนเดียว แต่มีผู้ใหญ่คนอื่น ในคณะรัฐมนตรี รัฐบาลและของพรรคด้วยเช่นกัน ที่ได้มีการพูดคุยกัน
อุตุฯ เตือนช่วง 13-19 ก.ย. นี้ เฝ้าระวัง “ฝนตกหนัก”
เช็กสถิติ 10 นัดหลัง บอลไทย พบ เวียดนาม ก่อนศึก LP BANK CUP 2024
รวบ “อิงฟ้า-อารยา” นางแบบสาวชื่อดัง แปะลิงก์ชวนเล่นพนัน!
เมื่อถามว่า ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลในรัฐบาล ชุดนี้ควรจะเป็นอย่างไรเพราะในสมัยรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หลายคนก็มองว่าโฆษกรัฐบาลชุดนั้นไม่ค่อยมีบทบาทเท่าที่ควร นายจักรภพ บอกว่า ตนขอไม่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของใคร เนื่องจากแต่ละรัฐบาลก็มีบุคลิกที่แตกต่างกัน ส่วนตัวคิดว่าตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือได้ว่าเป็นกระบอกเสียงอย่างเป็นทางการ ของรัฐบาลและมีหน้าที่ในการตรวจสอบ กรองข่าวถูกผิด อันดับแรกคือโฆษกรัฐบาลจะต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องครบถี่ถ้วน หากมีเรื่องที่เร็วเฉพาะหน้า โฆษกก็ต้องมีกลไกในการตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องถูกต้อง
อันดับที่สองคือเรื่องความสัมพันธ์ของข่าวสารกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ต้องมีความรู้พอสมควรในเรื่องของระบบการบริหาร ราชการและรัฐบาล และอันดับที่สามต้องตระหนักว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก เรื่อง ภาพลักษณ์ระดับประเทศก็เป็นเรื่องที่สำคัญ และต้องมีความรู้มีทีมงานที่จะรับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็ว จึงมองว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ
ส่วนโฆษกรัฐบาลชุดนี้จะต้องมีการปรับหรือพัฒนาในเรื่องของการสื่อสารอย่างไรให้ถึงประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่นั้น มองว่าปัญหาที่ผ่านมา เป็นที่เข้าใจกันพอสมควร ในเรื่องของการที่มีปัญหาต่างๆมากมาย โดยเฉพาะปัญหาการเมืองที่รุมเร้า ซึ่งก็ส่งผลกระทบในเรื่องของการนำเสนอประชาสัมพันธ์ชี้แจงข่าวออกไป ส่วนตัวก็คงไม่มีข้อชี้แนะอะไรแต่ก็ทำให้เห็นว่าเราได้รับบทเรียน ว่าการสื่อสารนั้นเป็นเรื่องที่ จำเป็นและสำคัญ ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับ การสนับสนุนจากประชาชน