ในช่วงก่อนการแถลงนโยบายของรัฐบาล ปัจจัยต่าง ๆ รอบด้านดูมีความสุ่มเสี่ยงด้านความมั่นคงสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านนิติสงคราม หรือการร้องเรียนต่าง ๆ นานา หนึ่งในนั้นคือ "คลิปเสียงปริศนา" ที่เผยแพร่จากรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่วงเช้าวันที่ 11 กันยายน ที่ดำเนินรายการโดย นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และน.ส.อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ทั้งหมด 3 คลิป ที่มีการระบุว่าเสียงคล้าย "ลุง" คนหนึ่ง ขอลองนั่งเป็นเบอร์ 1 และไม่ลาออกจากหัวหน้าพรรค
ก่อนที่ต่อมา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่า 1 คลิปนั้น เป็นเสียงของตน สมัย พลเอกประวิตร กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคงและดูแลกระทรวงมหาดไทย เป็นการรายงานเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยเสนอชื่อแต่งตั้ง นายขจร ชวโนทัย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กับนายอรรถษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงเสนอแต่งตั้งเพื่อเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ทำให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นว่า ความจริงแล้ว "ลุง" มีความต้องการโค่นล้มรัฐบาลหรือไม่
PPTV ได้ร่วมพูดคุยกับ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ และ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในรายการเข้มข่าวเย็น ช่วงคุยข้ามช็อต Exclusive Talk พร้อมวิเคราะห์เกี่ยวกับกรณีนี้
เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: ศึกดีเบตแรก “แฮร์ริส” คุมเกมดีกว่า “ทรัมป์”
อัปเดต "iOS 18" ไอโฟนเก่ารุ่นไหนรองรับบ้าง เช็กที่นี่!
เช็กพื้นที่! ตัดกระแสไฟฟ้า เหตุน้ำท่วมแม่สาย
"สามารถ" มั่นใจ! คลิปเสียงปริศนามาจาก "AI"
นายสามารถ กล่าวว่า คลิปเสียงดังกล่าวไม่เนียน เสียงของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกนำไปทำเป็นเสียง AI เยอะมาก มีการจับแกนเสียง นำมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว เต้นเป็นวิดีโอได้ ถ้าคลิปเสียงนี้เป็นคลิปจริง ขอให้ออกมายืนยันว่าใครเป็นคนอัด อัดที่ไหน เมื่อไหร่ วันไหน อย่างไร และใครเป็นคนปล่อย
เหตุนี้มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตร รวมถึงนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ว่าไม่ใช่คลิปจริง ตนได้ฟังแต่แรกก็บอกแล้วว่าเป็นปัญญาประดิษฐ์ ต้องเข้าใจว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีไปไกลแล้ว หรือต่อไปอาจไม่ต้องใช้คนอ่านข่าวก็ได้ อยากได้เสียงใครก็สามารถใช้ได้
นายสามารถ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือ คนที่เป็นหัวหน้าพรรคมีความฝันอยากเป็นนายกรัฐมนตรีทุกคน ยิ่งคนที่เป็นแคนดิเดตยิ่งมีความอยากเป็นนายกฯ สูง แต่จากเนื้อหาสาระที่ฟังแล้ว ตนมองว่าเป็นการปะติดปะต่อเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ในเวลานี้หรือเปล่า
การที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าพรรค "ลุงป้อม" ต้องมีการคิดมานานอยู่แล้ว และเป็นหัวหน้าพรรคมานานแล้ว และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ลุงป้อม ก็เป็นมาตั้งแต่ปี 2566 แล้ว ใครที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้วไม่มีความอยากเป็นนายกรัฐมนตรีนี่สิแปลก
นายสามารถ กล่าวต่อว่า บทละครใครก็เขียนได้ เขียนบทมาแบบนี้แล้วให้ AI ทำเสียงแบบนี้ก็ได้ แล้วเพิ่มตัวละครอีก 2-3 คน ทำเสียงคล้าย ๆ ตัวละครอื่น ๆ ก็ทำได้หมด
"ศิโรตน์" มอง คลิปเสียงไม่มีอะไร อยากเห็นหมัดต่อไปของคนชก
นายศิโรตม์ กล่าวว่า สถานการณ์ถ้าถึงขั้นเล่นกันเรื่องคลิปแล้ว มองว่าสถานการณ์การเมืองไทยเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการเล่นในเชิงปล่อยคลิปไม่มีในประเทศไทยมานานแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่มีจะเข้าสู่การเมืองใต้ดิน ชกกันอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนตัวมองว่าฝั่งที่ปล่อยต้องการสื่อว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลในขณะนี้ มีพลเอกประวิตรอยู่เบื้องหลัง
รวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง ก็มาจากพลเอกประวิตร เช่นกัน ซึ่งถึงแม้จะมีการใช้คำแทนว่า "บ้านป่า" แต่ก็รู้กันดีว่าคือพลเอกประวิตร ซึ่งฝั่งของพรรคเพื่อไทยก็พยายามแสดงให้เห็นว่า พลเอกประวิตร คือต้นตอของปัญหา เป็นต้นตอของความวุ่นวายในประเทศอยู่แล้ว
ส่วนตัวมองว่า การปล่อยคลิปนี้ก็อยู่ในบริบทเดียวกัน คือ ต้องการชี้ให้เห็นว่าพลเอกประวิตรอยู่เบื้องหลัง
นายศิโรตม์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเนื้อหาในคลิปดังกล่าวไม่มีอะไร ถ้าเป็นพลเอกประวิตรจริงก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะเป็นการบอกแค่ว่าพร้อมเป็นนายกฯ อยากเป็นนายกฯ แคนดิเดตนายกฯ ทุกคนก็ต้องอยากเป็นนายกฯ ไม่แปลกตรงไหน
ต่อให้เป็นคลิปจริง ตนก็มองว่าอาจเป็นคลิปช่วงเตรียมเลือกตั้ง หาเสียง หรือการแสดงความอยากเป็นหัวหน้าพรรคต่อ และหากผู้ที่ปล่อยคลิปนี้ต้องการชกพลเอกประวิตรให้ตาย ซึ่งก็ดูเหมือนจะตายแต่ก็ตาย เพราะเนื้อหาในคลิปไม่มีอะไร ถ้ามีคลิปเสียงพลเอกประวิตรสั่งการว่าคนนี้ไปทำอย่างนั้น คนนี้ไปทำอย่างนี้ และเราจะมีเครือข่ายนั้นกับเครือข่ายนี้ นั่นพอสร้างกระแสให้ไปต่อได้ แต่คลิปนี้เป็นคลิปเสียงพูดปกติ
นายศิโรตม์ กล่าวว่า อยากเห็นหมัดต่อไปของฝั่งที่โดนชกว่า จะมีคลิปเสียงใหม่ไหม เช่น คลิปเสียงชั้น 14 หรือภาพของแพทย์สภา ภาพของการรักษาดูแลนายทักษิณ ภาพบ้านจันทร์ส่องหล้า จะมีการเปิดเผยออกมาหรือไม่
ย้ำ! "พลังประชารัฐ" ไม่มีเอี่ยวนิติสงคราม "ลุงป้อม" เป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด
นายสามารถ กล่าวว่า มีการพูดอย่างชัดเจนแล้วว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้อยู่เบื้องหลัง และไม่เกี่ยวข้องกับนิติสงคราม เชื่อว่าทุกคนอยากรู้ว่าคลิปนี้มีจริงหรือไม่ และเชื่อว่าหากคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้าในวันที่นายเศรษฐาหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมีจริง และถูกปล่อยออกมา ฝั่งนั้นก็จะบอกว่าเป็น AI ประดิษฐ์ขึ้น
ซึ่งถ้าหากคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้ามีจริงและหลุดออกมา นั่นอาจส่งผลถึงขั้นยุบพรรค ถ้ายุบพรรคแล้วความต้องการเป็นนายกฯ ของเขาจะสิ้นสุดทันที การเมืองจะเปลี่ยนขั้ว
วันนี้ คลิปเสียง 3 คลิปที่ปล่อยมา ออกมาจากสื่อช่องหนึ่ง ซึ่งเป็นช่องที่รัฐบาลกำกับดูแลอยู่หรือไม่ สิ่งนี้ต้องฝากพี่น้องประชาชนไปดู และการออกมาของคลิปนี้ก็ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนปล่อย แต่มุ่งเป้าไปที่พลเอกประวิตร ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับพลเอกประวิตร เพราะพลเอกประวิตรไม่เคยออกมาชี้แจงอะไรอยู่แล้ว รับอยู่คนเดียว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ พลเอกประวิตรถูกกระทำมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่ถูกหลอกให้โหวต 39 เสียง พรรคพลังประชารัฐกลับไม่มีใครได้ตำแหน่งอะไรเลย หลอกครั้งต่อมาคือ การกล่าวหาว่าพลเอกประวิตรอยู่เบื้องหลังในการล้มนายเศรษฐา ย้อนไปในชุด 40 สว. ในช่วงที่นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี มี 21 คนเป็นคนที่โหวตเลือกให้นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี และปรากฏว่าตามรัฐธรรมนูญ สส.สามารถลงชื่อถอนถอนหรือตรวจสอบนายกรัฐมนตรีได้ 1 ใน 10
แต่ปรากฏว่า สส.ไม่ทำหน้าที่ สว.ก็เห็นว่า สส.ไม่ทำหน้าที่ สว.จึงลงชื่อถอดถอนนายเศรษฐา แต่กลับมีการโยนว่า 40 สว.เป็นคนของพลเอกประวิตรเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ 21 คนเป็นคนที่เคยเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี
รธน.ปี 60 เป็นต้นตอร้องตรง - ตั้งคำถาม "ก้าวไกล" จับมือ "เพื่อไทย" หรือไม่?
นายศิโรตม์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้เกิดเรื่องใหม่ขึ้นมาคือ ใครก็สามารถไปร้องตรงได้ ทำให้ใครเหม็นหน้าใครสามารถแกล้งกันได้หมด รวมถึงมีการไปขยายอำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป คือ สามารถตีความเชิงรุก ใช้หลักฐานแวดล้อมมาวินิจฉัยต่าง ๆ ได้ มีช่องโหว่ให้คนคลางแคลงใจ และการตรวจสอบศาลก็ถูกทำลายลงไป
ในกรณีที่เกิดการฮั้วกันทางการเมืองขึ้น กลไกในสภาไม่เดิน ตนมองว่ามี 2 กรณี คือ ฮั้วกันจนการตรวจสอบไม่เดิน หรือฮั้วกันแกล้งคน เช่น กรณีนาฬิกาหรู จบแบบไหนคนก็เห็นกันอยู่ ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าไม่ต้องเปิดบัญชีทรัพย์สินก็ได้ หรือกรณี GT-200 ที่คนเห็นว่ามีการทุจริตจริง ๆ แต่องค์กรตรวจสอบไม่ทำอะไรเลย
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เป็นปัญหาซ้อนมาก็คือ องค์กรอิสระไปฮั้วไม่ตรวจสอบคนบางกลุ่มด้วยหรือเปล่า เช่นในช่วงปี 2557 - 2562 ที่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เราจะเห็นได้ว่าองค์กรอิสระแทบจะเป็นอัมพาต แทบจะไม่เคยตรวจสอบพลเอกประยุทธ์เลย หรือถ้ามีก็เป็นไปแบบล่าช้า แต่เหตุใดองค์กรอิสระเอาผิดใครไม่ได้เลย
ด้าน นายสามารถ กล่าวว่า สมัยพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต่างร่วมลงชื่อถอดถอนหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบ้านหลวง อยู่ครบ 8 ปี จะเห็นได้ว่ามีการตรวจสอบเข้มข้น ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกปี แต่ไม่เห็นว่ารัฐบาลของนายเศรษฐาเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้เลย กลไกของสภายังไม่เห็นฝ่ายค้านยื่นถอดถอนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหรือยัง
นอกจากนี้ หากพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่อยากทำนิติสงคราม แต่ทำไมทำในสมัยพลเอกประยุทธ์ และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่ร่วงจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ใช่เพราะพรรคก้าวไกลไปยื่นหรือ ทำให้เกิดคำถามว่า พรรคก้าวไกลจับมือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ คือฝั่งหนึ่งเป็นฝ่ายค้านแบบหลอก ๆ อีกฝ่ายเป็นรัฐบาล แล้วประชาชนจะได้อะไร?
นายสามารถ ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเมืองต้องสร้างความเชื่อถือให้กับประชาชน คนที่มีอำนาจก็ต้องมีอำนาจในการถูกตรวจสอบ หรือ Check and Balance
แนะหากร้องเรียนเท็จให้ฟ้องกลับ รธน.ปี 60 เขียนไว้เพื่อสร้างนายกฯ ให้เป็นนายกฯ
นายสามารถ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการบอกว่านี่เป็นนิติสงคราม กฎหมายนั้นคุ้มครองอยู่แล้ว หากมีการร้องเรียนที่ไม่ใช่เรื่องจริง หรือแจ้งความเท็จ ฟ้องเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา แน่นอนว่าโดนรับโทษอยู่แล้ว วันนี้คนที่มีอำนาจก็ควรตรวจสอบ หลายครั้งที่มีประชาชนไปยื่นฟ้องก็ถูกปัดทิ้งเยอะแยะ
หรือกรณีที่ยื่นฟ้องเรื่องนางสาวแพทองธาร ชินวิตร ทำท่ามินิฮาร์ต หากไม่ใช่เรื่องจริง นางสาวแพทองธารเสียหาย ก็ให้ดำเนินการกับคนร้อง กฎหมายให้อำนาจอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ถูกกลั่นแกล้ง ก็สามารถฟ้องกลับไปได้ มีกฎหมายให้อำนาจอยู่แล้ว
หรือหากไม่มีใครฟ้องกลับก็แสดงว่าข้อมูลที่ถูกฟ้องร้องเป็นเรื่องจริง แปลว่านางสาวแพทองธารถูกเพ่งเล็งเยอะ หรืออาจพลาดเยอะก็ได้ วันนี้รัฐธรรมนูญปี 2560 พยายามออกแบบมาให้คนที่ไม่มีประวัติด่างพร้อยมาเป็นนายกรัฐมนตรี อยากให้คนดีขึ้นมาปกครองบ้านเมืองจริง ๆ จึงมีการเขียนเรื่องจริยธรรมไว้สูงมาก
นายสามารถ กล่าวว่า ฉะนั้นวันนี้ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องถูกสร้างมาให้เตรียมตัวเป็นนายกรัฐมนตรีจริง ๆ รวมถึงคณะรัฐมนตรีก็ต้องถูกสร้างมาไม่ให้มีประวัติด่างพร้อยในการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ที่จะเปิดให้คนรุ่นใหม่ คนที่สนใจทางการเมืองและโปร่งใสจริง ๆ ก้าวขึ้นมามีอำนาจ