ยังคงเป็นประเด็นที่จะต้องจับตามองอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “มรสุมนิติสงคราม” ที่รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังเผชิญอยู่
ล่าสุดทีมข่าวพีพีทีวี ได้พูดคุยกับ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า หากฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยแข็งกว่านี้ เรื่องของกฎหมายรัฐบาลแพทองธาร จะไม่มีจุดอ่อน นี่เป็นเพราะพลาดซ้ำพลาดซ้อน ข้าศึกเลยเห็นว่าจุดอ่อนอยู่ตรงไหน เลยทำให้รัฐบาลไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องสาละวน วุ่นวายแก้คดียุบพรรค ไม่ยุบพรรค หรือเรื่องอาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง
โดยนายไพศาล บอกอีกว่า สำหรับประเด็นที่ล่าสุด มีนักร้องนิรนาม ไปยื่นถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ เป็นเรื่องของมาตรา 162 ที่รัฐบาลไม่พูดเรื่องที่มาของเงินในการดำเนินนโยบาย ทำให้นักร้องนิรนาม ไปร้องเรียน กกต.ให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาถอดถอนคณะรัฐมนตรีและคณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่เสียหายร้ายแรง และเกี่ยวข้องกับความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากเนื้อหาขาดสาระไปครึ่งหนึ่ง ถือว่าไม่ซื่อสัตย์
แต่ผลจะออกมาเป็นอย่างไร นายไพศาลบอกว่า ก็ขึ้นอยู่กับทางศาลรัฐธรรมนูญว่าจะวินิจฉัยอย่างไร อย่างกรณี สมัย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก็มีคนไปร้อง แต่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ว่าอะไร ดังนั้นจึงคาดเดาไม่ได้ว่า เรื่องนี้จะมีผลออกมาอย่างไร จะถึงขั้นถอดถอนหรือไม่ คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะหรือไม่ และมีผลต่อการตัดสิทธิทางการเมืองไหม ซึ่งต้องดูต่อไป
ผู้สื่อข่าวก็ถามว่า ใครเป็นคนร้อง นักร้องนิรนามคนนี้เป็นใคร นายไพศาลบอกว่า รู้ว่าเป็นใคร แต่บอกไม่ได้ บอกได้แค่ว่า เป็นกลุ่มอำนาจเก่าเจ้าเดิม
ขณะเดียวกัน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา162 เขียนไว้ว่า คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งการแถลงดังกล่าวต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ, แนวนโยบายของรัฐ, ยุทธศาสตร์ชาติ และต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย
ผลตรวจข้อสอบ “ครูเบญ” ออกแล้ว คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์
ตรวจสอบสิทธิกลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการ รับเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต
เปิดไทม์ไลน์ โอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์ กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการ
เพราะฉะนั้นก็ต้องไปดูว่าสิ่งที่รัฐบาลได้มีการแถลงนโยบายต่อสภาไปนั้นได้มีการชี้แจงรายละเอียดต่างๆเหล่านี้ได้ครบถ้วนหรือไม่ ถ้าจะเป็นปัญหาก็อาจจะเป็นปัญหาที่คนร้องขึ้นมาว่า ในนโยบายสำคัญไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ ที่จะนำมาใช้จ่ายในการทำนโยบาย ซึ่งก็เท่ากับว่า มีความไม่สมบูรณ์ในการแถลงนโยบาย
แต่ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ กกต.ซึ่งมีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับการร้องเรื่องนี้ แต่หน่วยงานที่น่าจะเกี่ยวข้องคือผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งการจะไปร้องว่ารัฐบาลทำผิดรัฐธรรมนูญ ก็ต้องโยงให้ได้ว่ากระทบต่อสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างไร
นายสมชัย บอกอีกว่า เรื่องนี้มองว่าหากรัฐบาลเพิกเฉยไม่แก้ปัญหาก็อาจนำไปสู่การถูกถอดถอนรัฐมนตรีทั้งคณะได้ เพราะหากมีการร้องผู้ตรวจการแผ่นดินให้วินิจฉัยปลายทางก็จะอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตัดสินอย่างไร
ส่วนจะมีทางออกอย่างไรนั้น นายสมชัย มองว่า รัฐบาลอาจต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน หรืออาจจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาใหม่ เพราะหากการแถลงนโยบายยังไม่ครบถ้วน ตามหลักก็ถือว่า ครม.ยังไม่ได้บริหารราชการแผ่นดิน คำสั่งต่างๆทั้งเรื่องการแต่งตั้งบุคคล คำสั่งราชการ หรือการใช้งบประมาณต่างๆอาจเป็นโมฆะได้ ยกเว้นกรณีเป็นเรื่องเร่งด่วนที่หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหาย ครม.ที่เข้าทำหน้าที่ก็ดำเนินการไปก่อนเท่าที่จำเป็นได้ เช่น การเอางบประมาณไปช่วยน้ำท่วม แก้ปัญหาภัยพิบัติต่างๆ แม้ครม.ยังไม่แถลงนโยบายก็ตาม