การเมืองไทยยังคงร้อนแรงต่อเนื่องกับประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน แต่ขณะนี้ทางเพื่อไทยถอยฉากหลบไปแล้ว ส่วนพรรคประชาชนเบรกการแก้เรื่องการพิจารณาจริยธรรมไว่อน แล้วเสนอ 7 แพ็กเกจแทน
เรื่องนี้ทำให้เป็นคำถามมาตลลอดว่า การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรานี้ยึดโยงกับประชาชนจริงหรือไม่ หรือทำไปเพื่อช่วยเหลือใคร และถูกวิจารณ์หนักว่า เป็นการแก้เพื่อนักการเมือง โดยไม่มีประชาชนในสมการ
การแก้เรื่องจริยธรรม เป็นประโยชน์กับประชาชน
รศ.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ให้ความเห็นในรายการเข้มข่าวเย็น ช่วง Exclusive Talk ทางช่อง PPTV HD 36 วันที่ 29 ก.ย. 67 ว่า ข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนนั้น เป็นสิ่งที่ยึดโยงกับประชาชน
“บางคนบอกว่าไม่เกี่ยว แต่ถ้ามองการเมืองไทย 20 ปีที่ผ่านมา มีการใช้กฎหมายเป็นเรื่องการเมืองมากมาย มีนักร้องเต็มไปหมด ช่วงหลังยิ่งชัด ทำให้การเมืองสะดุด เกิดวามขัดแย้ง ดังนั้น การแก้การพิจารณาจริยธรรมไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับประชาชน บางคนปั่นว่าเป็นการยกเลิกจริยธรรม ไม่ใช่ เป็นการทำให้ชัด และป้องกันไม่ให้หยิบเอาอะไรก็ได้มาร้องได้เป็นเครื่องมือทางการเมือง” อาจารย์ยุทธพรกล่าว
เขาเสริมว่า การยื่นแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคประชาชนเองมีทั้งเรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญและเรื่องเชิงนโยบาย เป็นการทำหน้าที่ของพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการปลดล็อกเงื่อนไขทางการเมือง
รวมมือถือซัมซุง รองรับอัปเดต "One UI 6.1.1" นอกเกาหลีใต้ เดือนกันยายน
เหตุผลอะไรที่ทำให้เราสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน และจะแก้ไขอย่างไร ?
ด้าน คุณ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า บอกว่า การถอยแก้รัฐธรรมนูญเรื่องจริยธรรมของพรรคประชาชนนั้น คงพูดแทนพรรคไม่ได้ แต่ในฐานะคณะก้าวหน้าซึ่งเคยทำงานร่วมกันเข้มข้นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมานานแล้ว ต้องบอกว่า แทบไม่มีอะไรใหม่ เป็นสิ่งที่เคยเสนอแต่ถูกปักตกไปก่อนหน้า หยิบมาปรับปรุงใหม่
“เรื่องจริยธรรม ไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยวกับประชชน ดูอย่างตอนนี้ รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะบริหารอะไรกังวลไปหมด กลัวถูกร้องนั่นนี่ ทำให้นโยบายที่จะออกไม่ตรงปกกับที่หาเสียง จึงไม่เป็นธรรมกับประชาชนที่ใช้สิทธิเลือกมา” คุณพรรณิการ์กล่าว
เธอเสริมว่า “ส่วนตัวอาจจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายบางอย่างของรัฐบาล แต่การถูกนิติสงครามกดดันร้องเรียนจะให้หลุดจากตำแหน่ง ทำให้รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร คนที่ได้รับผลกระทบคือประชาชนซึ่งไม่ได้รับในสิ่งที่ควรได้”
คุณพรรณิการ์บอกว่า การพิจารณาจริยธรรมที่ทำให้ตนรวมถึงอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่ง เป็นแนวทางพิจารณาที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อบังคับใช้กับศาลรรัฐธรรมนูญ แต่ คสช. เขียนใหม่ให้อำนาจนั้นมาใช้ทุกองค์กรได้ ไม่ว่าจะ สส. หรือรัฐมนตรี โดยไม่เคยมีใครให้การินยอน เป็นการใช้ออกมาเลย สถาปนาให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินจริยธรรมได้ ทั้งที่โดยหน้าที่ต้องตัดสินตัวบทกฎหมาย
“การแก้เรื่องจริยธรรม จึงเป็นการเอาอำนาจตักสินจริยธรรมออกจากศาลรัฐธรรมนูญ ให้มาอยู่ที่แต่ละองค์กร สภาก็อยู่สภา เป็นการเพิ่มอำนาจของประชาชน” คุณช่อกล่าว
นอกจากนี้ การยื่นแก้รัฐธรรมนูฐรายมาตราของพรรคประชาชนยังมีส่วนที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะที่ผ่านมาประชาชนเห็นแล้วว่าผลงานของ ป.ป.ช. เป็นที่ประจักษ์ ทั้งเรื่องแหวนแม่นาฬิกาเพื่อน
แต่การยื่นแก้นี้จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าชื่อ 20,000 รายชื่อเพื่อยื่นร้องเรื่องนักการเมืองคอร์รัปชันได้ ซึ่งเมื่อก่อนก็ได้ แต่ ป.ป.ช. มักเตะถ่วง อันใหม่นี้จะกำหนดว่า ถ้าประชาชนเป็นคนยื่น ป.ป.ช. ต้องกำหนดให้เป็นเรื่องเร่งด่วน และดำเนินการภายใน 180 วัน ประสิทธิภาพจะสูงขึ้น
ทำไมไม่รอแก้ทั้งรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ?
คุณพรรณิการ์กล่าวถึงคำถามที่ว่าทำไมจะต้องแก้รัฐธรรมนูฐรายมาตรา ทำไมไม่รอแก้ทั้งฉบับ โดยบอกว่า “พูดตรง ๆ อย่าปาหี่ละครลิงหลอกประชาชน การแก้ทั้งฉบับนั้น เราซึ่งทำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาตลอด 6-7 ปีตั้งแต่อนาคตใหม่รู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก”
เธอบอกว่า รัฐบาลเพื่อไทยตั้งแต่อดีตนายกฯ เศรษฐาบอกจะแก้รัฐธรรมนูฐมา 1 ปีแล้ว ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษา ตอนหาเสียงบอกว่าเป็นวาระเร่งด่วน แต่ 1 ปีไม่มีอะไรเกิดขึ้น อ้างว่าติดกฎหมายประชามติ ต้องแก้กฎหมายประชามติก่อน
“และวันนี้ยังมาบอกว่ารอสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ต้องเรียนตามตรงว่า วันนี้รัฐบาลเหลือเวลา 2 ปี 8 เดือน ถ้ายื่นแก้ทั้งฉบับไม่ผ่าน ต้องตีกลับมาสภาล่าง ตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ยืดไปอีก 1 ปี แก้เสร็จต้องประชามติอีก สภาต้องพิจารณาร่างแก้เพื่อนำสู่กระบวนการ สสร. แล้วต้องทำประชามติให้มี สสร. และเลือกตั้ง สสร. อีก มาทำรัฐธรรมนูญ ลงประชามติอีกรอบ จะทันปี 2570 หรือไม่ ณ วันนี้โอกาสร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับภายในปี 2570 แทบจะเป็นศูนย์” คุณช่อกล่าว
กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าเสริมว่า “ฉะนั้น คนที่บอกว่าแก้ทำไมรายมาตรา เขารู้อยู่แก่ใจว่าไม่ทัน การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับกับรายมาตราทำขนานกันได้ มาวันนี้บอกแก้รายมาตราทำไม ทั้งที่ไม่มีอะไรขัดแย้งกัน ไม่ต้องเลือกทำ ทำพร้อมกันได้”
คุณพรรณิการ์ย้ำว่า เรื่องที่เกี่ยวกับจริยธรรมทำเพื่อรักษาหลักการ และมีเรื่องเกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง ไม่ได้เพิ่งเสนอ เป็นสิ่งที่ทำมาตลอด และนำมาเสนอใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ การที่พรรคประชาชนเดินหน้าแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญรายมาตราต่อจะเป็นการพิสูจน์พรรครัฐบาลด้วย ว่าหาเสียงไว้ที่จะแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เพื่อตัวเองแล้ว และทางพรรคประชาชนยังมีเรื่องอื่นที่ไม่ใช่จริยธรรมอีก ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปัดตกร่างแก้
“ถ้าทุกพรรคมีความซื่อสัตย์ พูดว่าต้องการแก้รัฐธรรมนูญ การแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราเรื่องการศึกษา สิทธิเสรีภาพ ปฏิรูปกองทัพ ฯลฯ ที่พรรคประชาชนเสนอก็ไม่มีเหตุผลให้ปัดตก ถ้าต้องการพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ไม่มีเหตุผลปัดตก อย่างน้อยก็ในวาระที่ 1” คุณพรรณิการ์กล่าว
อาจารย์ยุทธพรเสริมว่า กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่ล่าช้าอาจไม่ใช่การเตะถ่วง แต่กติกาเงื่อนไขที่มีทำให้แก้ไม่ง่าย