นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.อุดรธานีว่า นายทักษิณไปในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย แต่กลับมีการตั้งข้อสงสัยจากบรรดานักร้องพวกจ้องจับผิด
ทั้งเรื่องครอบงำพรรค ครอบงำนายกฯ ครอบงำรัฐบาลแบบเล่นไม่เลิก มองหาแต่เรื่องจะร้องเรียนไม่จบไม่สิ้น ตนอยากฝากไปถึงคนเหล่านั้นว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่า เลิกทำอะไรที่มันไร้สาระเสียที
ส่วนกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียงของ นายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน ที่ออกมาอัดนายทักษิณ กรณีปราศรัยช่วยหาเสียงที่อุดรธานี แบบสวนทุกประเด็นที่เห็นช่องนั้น ในมุมของตนมองว่า นายทักษิณแค่เอานโยบายมานำเสนอ จะทำได้จริงหรือไม่คงต้องให้ชาวอุดรฯ เป็นคนตัดสิน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า "ท่านเป็นนายกฯมา 2 สมัย พูดได้ทำจริง เรื่องนี้ประชาชนคงทราบดี การปราศรัยช่วยหาเสียงจะด้วยสีสันหรืออะไรก็ตาม ก็คงต้องมีกระทบกระทั่งคู่แข่งบ้างก็เหมือนนักกีฬา แต่นายชัยธวัช กลับออกมาอัดท่าน เรื่องไม่เลี้ยงหลานแล้วเหรอ ลามไปตู้ห่าว โยงไปชั้น 14 ผมว่าคุณชัยธวัช หลังโดนตัดสิทธินี้เปลี่ยนไปมาก”
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า “นายชัยธวัช ไม่ตอบโต้เรื่องนโยบาย แต่กลับชกใต้เข็มขัด ผมว่ามันไม่แฟร์ สิ่งที่นายชัยธวัชพูด ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ คงไม่ออกมาโต้กลับ แต่ผมอยากให้นายชัยธวัช คิดถึงสโลแกนพรรคเดิมของท่าน ที่โดนยุบไป ที่บอกว่าจะทำการเมืองใหม่ อยากให้สู้กันด้วยนโยบายจะดีกว่า"
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ฟาดทุกดอก ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับที่นายชัยธวัชทำเหมือนแผ่นเสียงตกร่องทั้งคู่ พรรคของท่านยังไม่มีโอกาสได้เข้าบริหารประเทศ สิ่งที่ท่านคิดใช่ว่าจะทำได้ทุกเรื่อง การทำงานของรัฐบาลก็อย่างที่เราเห็นกันอยู่ พอจะเริ่มทำ พอจะตั้งหลักได้ ก็ต้องมาเริ่มกันใหม่ เพราะเรื่องอะไรเราก็คงจะรู้
“ก็อยากฝากให้คิดว่า ถ้าท่านยังมัวมาย้อนอดีต คาดการณ์อนาคต แล้วประชาชนจะจับต้องอะไรได้ สู้กันด้วยนโยบายเถอะครับ อย่าไปพูดเรื่องเก่า ๆ เลย บ้านเมืองกำลังจะเดินไปข้างหน้า ถ้ามัวแต่ถอยหลังก็ลงคลองกันพอดี” นายพร้อมพงศ์ ทิ้งท้าย