หลังจากมีเสียงค้านจำนวนมาก สำหรับร่างกฎหมายสกัดการรัฐประหาร โดยเฉพาะบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคที่ต่างออกมาแสดงท่าทีคัดค้าน
ล่าสุด นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง เสียงคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม มีเนื้อหาให้อำนาจคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหารว่า จากการรับฟังความเห็นของประชาชนในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีเสียงคัดค้านจำนวนมาก
ดังนั้นในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ ที่มีการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทยในช่วงเช้าจะเสนอต่อพรรค เพื่อขอถอนร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม กลับไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ ถ้าพรรคอนุญาตจะไปขอถอนร่างต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันเดียวกันทันที เพราะเป็นกฎหมายที่ตนและคณะเป็นผู้เสนอในนามส่วนตัว ไม่ใช่ความเห็นพรรคเพื่อไทย
โดยในการรับฟังความเห็นของประชาชนตามมาตรา 77 ถ้าเสียงส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ก็ไม่สามารถบรรจุวาระเข้าสภาฯได้ ส่วนจะปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ขอรอดูความเห็นประชาชน ที่จะสิ้นสุดการรับฟังความเห็นตามมาตรา 77 ในวันที่ 1 ม.ค.2568 ก่อน
ส่วนจะทบทวนกรณีให้ ครม. มีส่วนร่วมการแต่งตั้งนายทหารระดับนายพลหรือไม่ เพราะถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกองทัพ นายประยุทธ์ กล่าวว่า ขอรอฟังความเห็นประชาชนให้สิ้นสุดก่อน ถึงจะรู้ต้องแก้ไขประเด็นใดบ้าง ถ้าสังคมมองว่า ครม.ควรถอยก็ต้องรับฟัง ดันทุรังไปแล้ว ก็เสนอกฎหมายไม่ได้อยู่ดี ยืนยันกฎหมายดังกล่าวไม่ได้แทรกแซงกองทัพ เนื้อหาร่างพ.ร.บ.ที่ให้ ครม. มีส่วนร่วมพิจารณาแต่งตั้งนายพล ไม่ได้แทรกแซงกองทัพ
ส่วนการเสนอแต่งตั้งทหารระดับนายพล จะดำเนินการโดยคณะกรรมการของส่วนราชการนั้นๆ เป็นผู้เสนอชื่อนายพลตามหลักเกณฑ์กระทรวงกลาโหม จากนั้นจึงจะเสนอให้ ครม.พิจารณา ทุกอย่างมีระเบียบกระทรวงกลาโหมควบคุมขั้นตอนแต่งตั้ง ไม่ใช่ ครม.แต่งตั้งเอง
หรือกรณีการกำหนดให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของ ครม. มีอำนาจสั่งให้นายทหารยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวได้ หากกระทำการนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อสกัดการรัฐประหารนั้น ก็ไม่ใช่ปมด้อยกฎหมายฉบับนี้ แต่เป็นการใช้อำนาจยับยั้งการรัฐประหาร เหมือนที่ สส.เกาหลีใต้ ใช้อำนาจยับยั้งการประกาศกฎอัยการศึกของประธานาธิบดี หลายประเทศมีมาตรการเข้มข้นสกัดการยึดอำนาจ อย่างไรก็ตามเมื่อมีเสียงคัดค้านมาก ก็ต้องนำมาปรับปรุง จากที่หวังไว้ 100% ถ้าได้มาสัก 30-50% ก็คงพอใจแล้ว แต่คงไปสุดซอยไม่ได้แล้ว
เมื่อถามว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่เอาด้วยกับร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม โดยมองว่าแค่การเมืองไม่โกง ก็ไม่เกิดรัฐประหาร นายประยุทธ์ กล่าวว่า เรามีเจตนาอยากให้พรรคการเมืองได้มีบทบาทในการร่วมสกัดรัฐประหาร แต่เมื่อพรรคการเมืองไม่เห็นด้วย ก็ต้องนำมาทบทวนใหม่ การที่หลายส่วนมองว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่สามารถสกัดการยึดอำนาจได้ เป็นความเห็นแต่ละคน ส่วนตัวมองว่า ช่วยป้องกันได้ระดับหนึ่ง เหมือนที่เกาหลีใต้ ที่ให้สภาฯมีส่วนร่วมการยับยั้งการใช้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย
เมื่อถามว่า เกรงว่าการเดินหน้าเสนอกฎหมายฉบับนี้ จะสร้างความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกองทัพหรือไม่ นายประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กลัวขัดแย้งกับกองทัพ แต่ต้องเคารพเสียงของสังคม ถ้าสังคมไม่เอาด้วย ต้องนำกลับมาทบทวนใหม่