ยันไม่นิ่งนอนใจ! นายกฯอิ๊งค์ ประชุมทางไกลสั่งแก้ฝุ่น PM 2.5 เร็วที่สุด

โดย PPTV Online

เผยแพร่

นายกฯอิ๊งค์วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ คุย “อนุทิน” สั่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าช่วยบรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้นเร็วที่สุด ย้ำเป็นวาระแห่งชาติ-รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ

วันที่ 23 ม.ค.2568 เวลา 16.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตข้อความผ่าน X กรณีเกิดฝุ่นจำนวนมากในกรุงเทพฯและหลายพื้นที่ในประเทศไทย ว่า ดิฉันไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะทราบดีว่านี่คือวิกฤตสุขภาพของคนไทยทั้งประเทศ ระหว่างเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum (WEF) ประจำปี 2568 ก็ได้มีการหารือกับทีมรัฐบาลในประเทศเป็นระยะ

คอนเทนต์แนะนำ
กทม.จมฝุ่น ค่าPM.25 เกินมาตรฐานมีผลต่อสุขภาพ ระดับสีแดง 21 พื้นที่-สีส้ม 49 พื้นที่
วิกฤตฝุ่นท่วม กทม. ค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูง แตะระดับสีแดงกว่า 30 พื้นที่
ชาวเน็ตเดือด! แห่ถาม "พรรคเพื่อไทย" แก้ PM 2.5 กี่โมง?

แก้ฝุ่น ทำเนียบรัฐบาล
นายกฯอิ๊งค์ ประชุมทางไกลจากดาวอส สั่งแก้ฝุ่น PM 2.5 เร็วที่สุด

โดยวันนี้ดิฉันได้ขอให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ไขฝุ่นควันทันที เบื้องต้นได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  พูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย  ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ใช้กลไกตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บริหารสถานการณ์ฝุ่นควัน และเร่งจัดตั้งศูนย์ที่ทำหน้าที่สื่อสารให้ข้อมูลกับประชาชน เพื่อให้คำแนะนำด้านการปฏิบัติตัวรวมถึงมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ผ่านช่องทางที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย โดยให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นที่ปรึกษาและเพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความต่อเนื่อง

นายกฯ ระบุต่อว่า นายอนุทิน ร่วมกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)  ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ กำหนดมาตรการเฉพาะหน้า ที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชน และบรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้นโดยเร็ว ควบคู่ไปกับการติดตามการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น ตามมติ ครม. และข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งประชุมกันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย นอกจากนี้ ให้ รมว.การต่างประเทศ ประสานกับรัฐมนตรีอาเซียน ขอความร่วมมือแก้ปัญหาเรื่องนี้ร่วมกัน

นายกฯ ระบุอีกว่า ขณะที่ในระยะสั้นนี้ ขอให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง พิจารณามาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาปัญหา ดังต่อไปนี้ 1.ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ

ตัดสินใจทันทีเรื่องการประกาศหยุดเรียนของนักเรียนในสังกัด กทม. ให้ กทม.ใช้ 9 มาตรการ เช่น เข้มงวดตรวจวัดตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภท ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด, ขอความร่วมมือทำงานหรือปฏิบัติงานในที่พัก (Work From Home) , เข้มงวดตรวจตราควบคุม ไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท

นายกฯ ระบุด้วยว่า 2.กระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำเนินมาตรการ งดการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และกวดขันโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปรามเข้าตรวจสอบเป็นระยะ 3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดกับผู้เผาป่า เผาตอซังข้าว ข้าวโพด อ้อยและพืช ในทุกหมู่บ้านทุกอำเภอทั้งประเทศ และตั้งศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ 14 กลุ่มป่า ตั้งจุดเฝ้าระวังไฟในพื้นที่ป่า และแผนการจัดจ้างคนในชุมชนประจำจุดเฝ้าระวังอีก 1,585 จุด ดำเนินคดีกับผู้เผาป่า ด้วยกม.ป่าไม้ที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้เผา อาทิ กฎหมายสาธารณสุข กฎหมายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และประมวลกฎหมายอาญา โดยให้รายงานสถิติการจับกุม

แก้ฝุ่น ทำเนียบรัฐบาล
นายกฯอิ๊งค์ ประชุมทางไกลสั่งแก้ฝุ่น PM 2.5 เร็วที่สุด

นายกฯ ระบุต่อว่า  4.กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการห้ามนำเข้าอ้อยไฟไหม้ รวมทั้งพืชเกษตรอื่นๆ ที่ผ่านการเผาอย่างเด็ดขาด และให้ตรวจสอบตามด่านพรมแดนที่มีการนำเข้าอย่างเข้มงวด 5.กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้กวดขันจับกุม ห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะรถปิคอัพ รถโดยสาร รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ปล่อยควันดำ รวมทั้งรถโดยสารของ ขสมก. และรถร่วมบริการเส้นทางต่างๆ ที่อยู่ในความดูแลของรัฐ โดยขอให้ตรวจสอบและกวดขันการจับคุมอย่างเข้มงวด และในกรุงเทพมหานคร ขอให้กองบังคับการตำรวจจราจรตั้งด่านตรวจควันดำใน 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานคร

6.กระทรวงมหาดไทย กำชับให้ กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ควบคุมการก่อสร้างในเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันการปล่อย PM 2.5 จากไซต์งานก่อสร้าง รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดให้กับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามกม.กับผู้เผา

7.กระทรวงเกษตรฯ  โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอให้ขึ้นบินปฏิบัติการต่อเนื่องในการเจาะชั้นบรรยากาศเร่งระบายและลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมการข้าว และ กรมฝนหลวง และการบินเกษตร ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรในการทำเกษตรกรรมแบบปลอดการเผา 8.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ กระทรวงอุดมศึกษาฯ  และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ พัฒนา Platform ฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับ hotspot และ ventilation โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม หรือ low cost sensors เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ในการแก้ปัญหาการฟุ้งกระจายของ PM2.5 อย่างบูรณาการ 9.กระทรวงการต่างประเทศ หารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมมือและให้ความช่วยเหลือในการลดปัญหาฝุ่นควันข้ามพรมแดน และ 10.กระทรวงสาธารณสุข ให้ สธ. ทั่วประเทศ คุมเข้ม 5 มาตรการ  ทั้งนี้ ฝุ่นควัน คือวาระแห่งชาติ รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและจะเดินหน้า ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ