"ธนพร" ชำแหละการเมือง ซัดรัฐบาล - พรรคเพื่อไทยอ่านเกมไม่ขาด!

โดย PPTV Online

เผยแพร่

"ธนพร" ชำแหละการเมือง ซัดรัฐบาล - พรรคเพื่อไทยอ่านเกมไม่ขาด แนะใช้ยาแรงกำหนดมาตรการการค้า เรื่อง PM 2.5 ได้เรื่องแค่กรมฝนหลวง - กระทรวงอุตสาหกรรม

24 ม.ค. 68 รศ.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ในรายการเปิดโต๊ะข่าว PPTV HD36 ระบุว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยยังล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาที่กระทบต่อประชาชนทั้งเรื่อง PM 2.5 และปัญหาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในจังหวัดอุดรธานี พร้อมชี้ว่าเกมการเมืองที่เกิดขึ้นระหว่างพรรคการเมืองต่าง ๆ ทำให้ประชาชนต้องเผชิญกับความลำบากเพิ่มขึ้น

คอนเทนต์แนะนำ
“ทักษิณ” อวดซื้อแมนซิตี้แก้เหงาหลังปฏิวัติ หวังไทยมีอะคาเดมีปั้นนักเตะ
“ภูมิธรรม” ยัน ทรัมป์ ขึ้นผู้นำสหรัฐคนใหม่ ยังไม่กระทบมั่นคงไทย
ยันไม่นิ่งนอนใจ! นายกฯอิ๊งค์ ประชุมทางไกลสั่งแก้ฝุ่น PM 2.5 เร็วที่สุด

รศ.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ในรายการเปิดโต๊ะข่าว PPTV HD36 รายการเปิดโต๊ะข่าว
รศ.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ในรายการเปิดโต๊ะข่าว PPTV HD36

เมื่อถามถึงกรณีนายเอกนัฏ ที่บอกว่ารับนโยบายมาจากนายก รศ.ธนพร กล่าวว่า ยิ่งนายเอกนัฏพูดแบบนี้ พรรคเพื่อไทยที่มาโวยวายยิ่งอายตัวเอง การตอบคำถามของนายเอกนัฏเมื่อ 23 ม.ค. ที่ผ่านมาตอบดีมาก กลายเป็นว่า สส.พรรคเพื่อไทยจูงมือนายกฯ มาให้เขาตบอีกสองฉาด ควรจะอยู่เฉย ๆ ยิ่ง ออกมาขยับมากจากโดนตบจะกลายเป็นโดนกระทืบแทน ตนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

และโรงงานน้ำตาลที่อยู่ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นฐานคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทย หากนายเอกนัฏทำแบบนี้ จะกระทบพรรคเพื่อไทยไหม รศ.ธนพร กล่าวว่า กระทบแน่นอน ผู้แทนราษฎรในจังหวัดอุดรธานีมาจากพรรคไหนไม่ต้องบอก เลือกตั้งนายก อบจ. นายใหญ่ก็ไปช่วย

รศ.ธนพร กล่าวต่อว่า ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากโรงงานปิด บรรดาพรรคเพื่อไทยก็ไปปลุกม็อบกันอย่างที่เห็นในข่าว ตนถึงบอกตั้งแต่ต้นว่า จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ นายกนายน้อยควรยอมรับ แทนที่จะโวยวายพรรคอื่น ไปด่าหน้าห้องตัวเอง ทำไมไปดองเรื่องค่าอ้อยสด ถ้ารีบเซ็นให้ เรื่องก็จบแล้ว ชาวอ้อยก็ไม่จำเป็นต้องเผาเพราะเขาได้เงินค่าอ้อย เรื่องมันง่ายนิดเดียว อย่าไปโทษคนอื่นเลย

ส่วนประเด็นการแจกจ่ายข้อสั่งการของนายกเรื่อง PM 2.5 ให้สื่อ หรือนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง รศ.ธนพร เห็นว่าสิ่งที่นายกนายน้อยแชร์ ๆ กันมา เป็นเรื่องเป็นราวแค่ 2 หน่วยงานเท่านั้น คือ กรมฝนหลวง ที่จะเอาเครื่องบินไปโปรยน้ำแข็งแห้ง แต่ทำน้อยไป ควรจะบินกลางคืนด้วย กับ กระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนกระทรวงพรรคเพื่อไทย เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หลับไปนานแล้ว

แล้วที่บอกว่าห้ามนำเข้าสินค้าที่มาจากการเผา ปลายปีที่แล้วเพิ่งให้ความเห็นชอบการนำเข้าข้าวโพด ไม่เห็นมีหลักเกณฑ์ห้ามนำข้าวโพดที่มาจากการเผาเลย เพราะฉะนั้น กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นของพรรคเพื่อไทย จะออกประกาศกี่โมง ถ้าทำไม่ได้ นายใหญ่ปลดเลย จะเอาชีวิตคนไทยไปเสี่ยงกับรัฐมนตรีคนเดียวไม่ได้

รศ.ธนพร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีสถานประกอบการบางแห่ง ทำตัวเหนือกฎเกณฑ์บ้านเมือง เราอย่าลืมว่าเกณฑ์ในการปิดโรงงานของนายเอกนัฏนั้นชัดเจน รับอ้อยกี่เปอร์เซ็น กี่วันสะสม ชัดเจน และโรงงานนี้เป็นโรงงานเดียวที่จำนวนที่เขาติดตามเกินมาโดยตลอด แสดงให้เห็นว่าสถานประกอบการนี้ต้องมีของ ถ้าไม่มีของจะกล้าทำหรือ ถ้าเรื่องนี้นายเอกนัฏปล่อยผ่าน ทางการเมืองเขาก็เสียเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้หยุดเผา ที่สามารถทำได้ยาก เพราะเป็นปัญหาที่ต้องประสานงานกับต่างประเทศ เลยทำให้มีมาตรการไม่ชัดเจนหรือไม่ รศ.ธนพร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ของพวกนี้กลุ่มคนไทยรับซื้อทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจะมีปัญหาอะไร สั่งห้ามไปเถอะ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่

คำถามคือ เขาทราบเรื่องนี้มาเป็นปีแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงต่างประเทศ ได้เริ่มเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านหรือยัง ไม่มีเลย มีแต่ส่งเจ้าหน้าที่ไปเล็ก ๆ น้อย ๆ เปลืองค่าเครื่องบิน

สิ่งที่คนไทยอยากเห็นคือ เมื่อไหร่นายกนายน้อยจะประชุมกับเมียนมา ลาว กัมพูชา ทำให้เห็นว่าชาวบ้านเขารับไม่ได้ เพราะควรสั่งเป็นปีแล้ว ที่แย่กว่านั้นคือ บรรดาเครือข่ายพรรคเพื่อไทยอ่านเกมไม่ขาด อ่านอารมณ์ความรู้สึกของสังคมไม่ขาด เรื่องจึงเป็นแบบนี้

และหากรัฐบาลพยายามพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จะทำอย่างไร รศ.ธนพร ตอบว่า ไม่มีปัญหา ในฐานะที่เขาเป็นคนซื้อของ ถ้าอยากนำของไปขายเขา ควรปฏิบัติตามกติกาเขาให้ได้ ดังนั้น ตามหลักการ เราเป็นคนรับซื้อ เรามีสิทธิ์กำหนดกติกา หากทำไม่ได้ เราก็ไม่ซื้อ ซึ่งตนคิดว่าควรใช้ยาแรง ออกมาตรการไปเลยว่า หากไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นอย่างไร

รศ.ธนพร มองว่า ที่เรายังทำไม่ได้ เพราะกลุ่มทุนเรื่องนี้ไปทานข้าวกับนายใหญ่ จึงถ่วงเวลา จนชาวบ้านจะตายกันหมดประเทศอยู่แล้ว ตนทำงานปลดใบเหลืองมา เรื่องมาตรการกีดกันทางการค้าทั้งหลาย เป็นอำนาจของผู้ซื้อ เพราะฉะนั้น หากผู้ซื้อกำหนดกติกาว่า เราจะไม่ซื้อข้าวโพดเผา แต่ถ้าคุณเผา คุณก็นำไปขายที่อื่น

โดยความเป็นจริงแล้ว ประเทศเหล่านี้ไปขายที่อื่นไม่ได้ จึงขายที่ประเทศไทย ซึ่งทำไมประเทศไทยจะไม่มีอำนาจต่อรอง เว้นแต่ว่า นายกนายน้อยกับนายใหญ่ เห็นแก่นายทุนที่ไปทานข้าวด้วย เรื่องมีแค่นี้ หากฝ่ายรัฐบาลคนไหนกล้าเถียงตน ให้ออกมาเลย

ส่วนการกดดันเมียนมาร์ว่าเราจะไม่รับซื้อ แล้วเขาไปขายข้าวโพดให้จีนได้ไหม รศ.ธนพร มองว่า ขายได้ แต่ประเทศไทยไม่รับ หากทำอย่างนี้ประชาชนจะเข้าใจได้ว่า รัฐบาลได้พยายามทำทุกวิธี เพื่อปกป้องชีวิต แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นกระทรวงของพรรคเพื่อไทยแท้ ๆ  จะขยับเรื่องนี้กี่โมง ขอคำตอบชัด ๆ

หากตนไม่มีประสบการณ์การทำงานเจรจากับต่างประเทศ ตนจะไม่พูด แต่เพราะทำเรื่องนี้มาถึงเข้าใจ ว่าตลาดมีอำนาจในการกำหนดกติกา เพราะเราเป็นประเทศผู้ซื้อ เว้นแต่เราเกรงใจคนกันเอง

นอกจากนี้ รศ.ธนพร ยังเสนอแนะต่อรัฐบาลในการทำงานช่วงวิกฤตเช่นนี้ ว่า วันที่ 28 มกราคม 2568 ค่าอ้อย 120 บาท ให้รีบเห็นชอบ เพียงแค่ไม่กี่วันก็ได้ 7 พันกว่าล้าน รัฐบาลนำเงินไปทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ และกระทรวงพาณิชย์ให้ตื่นได้แล้ว ควรออกประกาศห้ามนำเข้าข้าวโพด ห้ามบอกว่าตรวจสอบไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีสมัยนี้ทำไมจะตรวจไม่ได้ สินค้าประมงตรวจสอบยากกว่าแปลงข้าวโพด ยังสามารถทำได้ ถ้ายังตรวจสอบข้าวโพดไม่ได้ อีก 2 ปี เหล่า EU EDA เรื่องสวนยางที่ปลูกในป่า จะยุ่งยากขึ้นแน่นอน

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ