จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาในคดีระหว่าง บริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. เป็นจำเลย เรื่อง เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จำคุก 2 ปีนั้น
ล่าสุดแหล่งข่าว จาก กสทช. เปิดเผยกับเดลินิวส์ว่า สังคมกำลังจับตามองว่า น.ส.พิรงรอง จะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ในการประชุมบอร์ด กสทช.วันที่ 14 ก.พ. นี้ ซึ่งเป็นนัดแรกหลังการตัดสินคดี
ทั้งนี้หากไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทางสำนักงาน กสทช.อาจส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เนื่องจากเข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ หรืออาจมีบุคคลภายนอกร้องก็เป็นได้ ซึ่งอยู่ที่ดุลยพินิจของ ดร.พิรงรอง ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร เพราะอีกมุมหนึ่งหากคดียังไม่สิ้นสุด ก็ถือว่ายังไม่มีความผิดยังสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ แต่อาจจะมีเรื่องจริยธรรมขึ้นมาอ้างให้รับผิดชอบ
สำหรับงานที่ ดร.พิรงรอง อยู่ระหว่างการนำเข้าที่ประชุม ที่อาจทำให้มีผลกระทบ อาทิ แก้ไขปรับปรุงเรื่อง หลักเกณฑ์การส่งเสริมชุมชนที่มีความพร้อม และสนับสนุนผู้ประกอบกิจการบริการชุมชนที่มีคุณภาพ เพื่อให้ทีวีชุมชน จากเดิมที่มีแต่วิทยุ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง การให้บริการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (กำกับดูแล โอทีที) นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษา ประกอบด้วยโครงการศึกษาการจัดตั้งแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับดูโทรทัศน์ในระดับชาติ และระบบการประเมินรายการโทรทัศน์ในเชิงคุณภาพ (social credit) เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ดร.พิรงรอง ได้มีผลงานล่าสุดในการขับเคลื่อนกิจการโทรทัศน์ ได้แก่ ประกาศที่ผ่านมติที่ประชุม กสทช. แล้ว ต้องออกหลักเกณฑ์รายละเอียดและนำไปปฏิบัติ คือ ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การสนับสนุนรายการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ โดยให้ทุนสนับสนุนรายการเด็ก รายการส่งเสริมความหลากหลาย อัตลักษณ์ท้องถิ่น และรายการที่มีศักยภาพร่วมผลิตกับต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการส่งเสริมการรวมกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต ผู้ผลิตรายการ และผู้ประกอบวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์