14 มี.ค. 68 รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง แสดงความเห็นเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ในรายการเปิดโต๊ะข่าว PPTV HD36 ระบุว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจนี้เป็นโจทย์ของรัฐบาลว่าจะลีลาไปถึงไหน สิ่งที่ไม่อยากให้แตะต้อง ฝ่ายค้านก็หาทางออกให้เรียบร้อยแล้ว แล้วจะเอาเปรียบเขาเรื่องเวลาอีก มันไม่ควร ซึ่งนายกฯ นายน้อยบอกเองว่าพร้อม จะอภิปราย 30 วัน 30 คืนก็ได้ แล้วจะมีปัญหาอะไร
ฉะนั้น พรรคเพื่อไทยต้องคิดในเชิงบวกบ้าง ยิ่งอภิปรายหลายวัน ยิ่งเป็นโอกาสของนายกฯ นายน้อยในการตอบข้อมูลฝ่ายค้าน รัฐบาลมีข้อมูลทุกอย่างจะกลัวอะไร
รศ.ดร.ธนพร กล่าวต่อว่า เรื่องการเอ่ยชื่อ ตนยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่เคยเอ่ยชื่อทักษิณ เรียกแต่นายใหญ่ คนก็เข้าใจ เทคนิคเรื่องอภิปราย ฝ่ายค้านรู้อยู่แล้วจะใช้คำอะไรไม่มีความหมาย แต่ฝ่ายรัฐบาลจะไปใจแคบปิดกั้น กระแสจะเหวี่ยงกลับมาด่ารัฐบาลแทน
ดังนั้น นายกนายน้อยช่วยเรียกลูกพรรคเหล่านี้ไปเขกกะโหลก เพราะพูดไปแล้วว่า 30 วันก็ได้ คุณก็มีหน้าที่เอานโยบายไปแจ้ง เพราะจะอภิปรายได้สักกี่วัน ฝ่ายค้านก็เปิดตัวเลขมาแล้วมากสุด คือ 5 วัน และถอยมาที่ 30 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องปฏิบัติตามนายกฯ นายน้อย มิฉะนั้นตนก็จะวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ นายน้อยว่า ตกลงพูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยหรืออย่างไร จะสื่อบอก 30 วัน แต่ให้ลูกน้องบอกวันเดียว อย่างนี้จะเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
ขณะเดียวกัน การตั้งญัตติเพื่ออภิปรายนายกฯคนเดียว ใช้เวลา 4-5 วัน มันฟังไม่ขึ้น ไม่ต้องเทียบไกล ดูตัวอย่างของนายกฯ บรรหาร ปี 2539 ยังถล่ม 3 วัน พรรคเพื่อไทยจะบอกว่าวันเดียวก็พอ คุณเป็นคนอภิปรายหรือ ถึงรู้ว่าพอ ฉะนั้น ดูนายกฯ เอาไว้เพราะพวกคุณคือลูกน้อง เขาบอกว่าพร้อม 30 วัน คุณจะมาเดือดร้อนทำไม
ส่วนประเด็นที่พรรคประชาชนยังไม่ถอดชื่อนายทักษิณ รศ.ดร.ธนพร ตอบว่า หน้าที่ของ สส.ฝ่ายค้านต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ใครจะสงสารฝ่ายค้านก็สงสารไป แต่มันแปรเป็นคะแนนเลือกตั้งไม่ได้ จึงต้องเอาชนะในเวทีสภาผู้แทนราษฎรด้วย แล้วจะมีอะไรดีไปกว่าการอภิปรายฯ ฝ่ายค้านควรไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทย ไปนั่งอ่านกันบ้าง ตนยังอ่านเลย จึงต้องมาท้วงฝ่ายค้าน แต่เมื่อคุณได้กลับมาอยู่ในเส้นทางแล้วก็ต้องถามรัฐบาลว่า จะปอดแหกอะไร
เมื่อ 13 มีนาคมที่ผ่านมา นายกฯ นายน้อยยังร้องเพลงอารมณ์ดี บอกว่ามีข้อมูลต่าง ๆ ก็มาให้ไปเลย 30 วัน 30 คืน ส่วนการที่พรรคประชาชนยืนกรานว่าการเอ่ยชื่อคนนอก เอ่ยได้ ถ้ามีความจำเป็น แต่ถ้าเทียบกับรัฐธรรมนูญที่ อ.วันนอร์ อ้างมันเทียบกันไม่ได้เลย
ที่สำคัญ ข้ออ้างนั้นควรรอให้ฝ่ายค้านได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อน อ.วันนอร์มาเป็นประธานเพราะเหตุการณ์ไหนทุกคนรู้ ฝ่ายค้านไปประเคนให้เขาเองแล้ววันนี้จะมาบ่นอะไร ตนเข้าใจว่าฝ่ายค้านมีหลักการ แต่คุณไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจ ถ้าอยากอภิปรายก็ไปแก้ แล้ววันหน้าก็อย่าทำอย่างเขา วันนี้คุณยังไม่ได้เป็นประธาน ก็ต้องสู้ จะไปวิ่งชนกำแพงไม่มีประโยชน์
รศ.ดร.ธนพร กล่าวต่อว่า ตอนนี้สถานการณ์กลับมาที่ฝ่ายค้าน ว่าฝ่ายรัฐบาลให้เวลาวันเดียวโจทย์จึงไปอยู่ฝ่ายรัฐบาล ตนก็บอกนายกนายน้อยว่า ถ้าประกาศตัวเป็นนายกฯเจนวาย ก็อย่าไปฟังพวกเบบี้บูมเมอร์สเยอะ เพราะพวกนี้แค่อยากจะเป็นรัฐมนตรี ตอนปฏิวัติปี 49 กับ ปี 57 นายกนายน้อยเห็นหน้าพวกนี้กี่คนในพรรค ไม่มีเลย มาวันนี้ก็มาเกาะใบบุญอยากเป็นรัฐมนตรีแค่นั้น นายกฯ ต้องแสดงสปิริตของผู้นำเจนวาย แล้วพูดเองว่าให้อภิปราย 30 วัน 30 คืน ก็เอาตามนั้น จะกี่วันก็ไม่เห็นมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า ใครจะด่าใคร ตนไม่สนใจ ตนสนใจแค่วันเลือกตั้งใครจะชนะ โดยตั้งแต่เลือกตั้งปี 66 มา ก็ไม่เห็นฝ่ายค้านชนะในสนามเลือกตั้งเลยแม้แต่ที่เดียว
ฉะนั้น อย่าเพิ่งคิดว่าคะแนนสงสารจะแปรเป็นคะแนนเลือกตั้ง ปีหน้าเอาไว้เลือกตั้งผู้ว่า กทม. ค่อยดูว่าคนจะสงสารฝ่ายค้านจริงไหม ถ้าเขาสงสารจริงจะไม่เกี่ยวกับบริบทเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับเลือกท้องถิ่น เลือก สส. ในเมื่อฝ่ายค้านสมัครในนามพรรค ถ้าเขาสงสารว่าโดนกระทำ ก็ต้องไปสนับสนุนพรรค แต่นี่แสดงว่าความสงสารยังไม่มากพอที่จะทำให้เปลี่ยนเป็นคะแนนเลือกตั้งได้ไม่ว่าจะบริบทไหนก็ตาม
ส่วนเรื่องกรอบเวลาที่ฝ่ายค้านยืนกรานที่ 30 ชั่วโมง แต่ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าเยอะเกินไป รศ.ดร.ธนพร มองว่า ฟังไม่ขึ้น ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้เป็นฝ่ายอภิปราย และมองเห็นแต่ความดีตัวเอง มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ นี่เป็นภาระของฝ่ายค้าน เขาขอ 30 ชั่วโมง หากทำไม่ได้ เขาเป็นคนเสีย รัฐบาลต้องมองแบบนี้ ควรเปิดโอกาสให้อภิปรายไปเลย
แต่พอรัฐบาลบอกว่าเพิ่งเป็นนายกฯไม่กี่เดือน ตนคิดว่าไม่เกี่ยว เป็นนายกฯ วันเดียวก็สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้ ซึ่งการอภิปรายจะเกิดขึ้นแน่ ๆ ตนขอเตือนนายกนายน้อยว่า เคยพูดไว้ว่าพร้อม 30 วัน ก็ต้องทำตามคำพูด ถ้ายังอยากมีอนาคตทางการเมือง
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP การเมือง
- วิดีโอยอดนิยม
