ช่วงวันสองวันนี้มีกระแสข่าวลือว่า ผลสอบของแพทยสภากรณีชั้น 14 ของนายทักษิณออกมาแล้ว ล่าสุดเราไปสอบถาม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เจ้าตัวยอมรับว่า ข้อมูลที่ได้รับสอดคล้องกันว่าแพทยสภาเอาจริง มีคนต้องรับผิดหลายราย พร้อมมองว่า ปลายทางของนายทักษิณอาจหลบหนีอีกรอบ เพราะเจ้าตัวคงไม่ยอมกลับไปเข้าคุกแน่
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า แหล่งข่าววงใน ให้ข้อมูลว่า ผลสอบของคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของแพทยสภาออกมาแล้ว
ทราบเพียงว่า แพทยสภาต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือขององค์กร จึงจะเอาจริงกับเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะมีผู้ต้องรับผิดหลายคน ส่วนจะนำเข้าสู่วาระประชุมบอร์ดใหญ่ของแพทยสภา (ปกติประชุมทุกวันพฤหัสบดีที่สองของเดือน ซึ่งเดือนนี้ตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม) หรือไม่ นพ.วรงค์ระบุว่ายังไม่ทราบ แต่หากล่าช้าเกินไปสังคมจะยิ่งตั้งข้อครหา
หมอวรงค์ ย้ำว่า การตรวจสอบว่าผู้ต้องขังป่วยวิกฤตจริงหรือไม่นั้น ตรวจสอบได้ไม่ยาก เพราะในตำราแพทย์ก็เรียนเหมือนกัน อ่านเวชระเบียนไม่กี่หน้าก็รู้แล้วว่าอาการเข้าข่ายหรือไม่ อีกทั้งยังมีหลายเหตุการณ์ประกอบ เช่น การอ้างว่าเป็นผู้ป่วยวิกฤตแต่ไม่ได้ใช้รถพยาบาลในการส่งตัวจากเรือนจำ และไม่ได้ส่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่กลับเลือกมาโรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงการอ้างว่าเป็นผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดภาวะวิกฤต แต่กลับไม่ได้อยู่ห้อง CCU ทั้งหมดนี้ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่า ป่วยวิกฤตจริงหรือไม่
ส่วนการที่ นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่าพ่อป่วยจริง ถึงขั้นต้องผ่าตัดนั้น นพ.วรงค์ ระบุว่า ที่ผ่านมาไม่เคยปฏิเสธว่านายทักษิณไม่ป่วย เพราะอายุ 75 ปีย่อมมีอาการบ้างเป็นธรรมดา แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ป่วยวิกฤตถึงขั้นต้องออกจากราชทัณฑ์ และสิ่งที่นายกฯ พูด สุดท้ายอาจกลายเป็นสิ่งที่ ย้อนมัดตัวเอง
หากผลสอบแพทยสภาออกมาเร็วๆ นี้ หมอวรงค์ประเมินว่าสถานการณ์ของรัฐบาลจะระส่ำระสายแน่นอน เพราะหาก "พ่อ" มีปัญหา ก็สะท้อนว่านายกฯ ไม่มีอำนาจที่แท้จริง ทุกวันนี้ก็เพียงอาศัยบารมีพ่อ ไม่มีวุฒิภาวะผู้นำ และไม่มีความสามารถในการแก้ไขวิกฤตต่างๆ รัฐบาลจึงอาจไปไม่รอด
สำหรับผลสอบของแพทยสภา หมอวรงค์เชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งหากประเมินสถานการณ์ของนายทักษิณแล้ว สุดท้ายอาจหลบหนีอีกครั้ง เพราะดูจากพฤติกรรมที่มีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกจากราชทัณฑ์ไปอยู่โรงพยาบาลตำรวจก็ชี้ให้เห็นเจตนาว่า ไม่ต้องการติดคุก และหากหลบหนีอีก คงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเจ้าตัวก็อายุมากแล้ว
เมื่อถูกถามว่า หากผลสอบของแพทยสภาออกมาเป็นคุณต่อนายทักษิณจะเกิดอะไรขึ้น หมอวรงค์เชื่อว่า ข้อเท็จจริงด้านการแพทย์ไม่สามารถบิดเบือนได้ เพราะทุกอย่างยึดตามวิทยาศาสตร์ แต่หากผลสอบออกมาเป็นคุณจริง ๆ ก็เชื่อว่าจะกระทบทั้งระบบ เพราะไม่มีใครยอมรับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบที่แล้ว ที่มีการส่งเอกสารเพิ่มเติมจากผู้ถูกกล่าวหาหลังจากหมดเส้นตายการยื่นหลักฐาน ยังมีอาจารย์แพทย์จำนวนมากออกมาให้ความเห็นและตั้งข้อสังเกต
ดังนั้น กระแสกดดันจากรอบที่แล้วน่าจะทำให้ แพทยสภาเอาจริงในครั้งนี้
สำหรับข้อกังวลว่า หากบอร์ดใหญ่แพทยสภาสรุปผลสอบแล้ว จะต้องเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบในขั้นถัดไป ซึ่งหลายคนกลัวว่าจะมีการเมืองแทรกแซง หมอวรงค์เชื่อว่า ณ จุดนั้น รัฐมนตรีคงไม่สามารถแทรกแซงได้โดยง่ายอีกต่อไป