สถานการณ์การเมืองไทยเข้มข้น ทั้งกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ถูกสั่งยุติหน้าที่ เฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลดีเอสไอ-รองประธานกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่า จะส่งผลอะไรต่อการสืบสวนคดีฮั้ว สว. หรือไม่ อีกเรื่องคือคดีชั้น 14 ของอดตีนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร
คุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) และคุณศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย นักวิเคราะห์การเมือง ได้ร่วมกันวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น โดยบ่งชี้ว่า ทั้งสองเรื่องมีผลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีและยุบสภาพทั้งสิ้น
การสั่งหยุด “ทวี” ไม่น่าใช่เรื่องการเมือง ไม่มีผลต่อการสืบคดี สว.
คุณสุรนันทน์บอกว่า การสั่งหยุด พ.ต.อ.ทวีแบบครึ่งตัวที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลก เหมือนคดีเวลาตำรวจถูกฟ้อง ก็มีการสั่งพักหรือย้ายไว้ก่อน เนื่องจากกลัวไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานเอกสาร ดังนั้นโดยหลักการ ส่วนตัวมองว่าศาลทำถูก
“ถ้าศาลไม่ให้คุณทวีหยุด คนอาจมองว่า คุณทวีเข้าไปสั่งการเอาหลักฐานมาได้ ... ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้บังคับบัญชาตรงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คุณทวีสั่งการได้เต็มที่ เขาจึงไม่ให้สั่งการ แต่ไม่ใช่ว่าเรื่อง สว. จะหยุด แค่คุณทวีไปยุ่งในกระบวนการไม่ได้” คุณสุรนันทน์กล่าว
คุณศักดาเสริมว่า ตำแหน่งรมว.ยุติธรรมแทรกแซงล้วงลูกได้ จึงขอตัดบทบาทสั่งการออก การสั่งหยุดนี้แค่เฉพาะยทยาทที่ควบคุมดีเอสไป แต่ยังสั่งการกรมอื่นได้ ทั้งราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ ได้หมด
“การสอบสวนคดีฮั้ว สว. ในเวลานี้ กรมดีเอสไอทำหน้าที่ควบคู่กับ กกต. ขณะนี้ ซึ่งการจะให้ได้ข้อเท็จจริง ต้องสอบสวนแบบตรงไปตรงมา ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม หากมีคนกำกับจากฝ่ายการเมือง อาจถูกมองว่าอาจเกิดความลำเอียง โดยเฉพาะข้อเท็จจริงเราก็เห็นว่าเรื่องการฮั้ว สว. คุณทวีออกสื่อบ่อย”
นักวิเคราะห์ทั้งสองท่านยังเห็นตรงกันว่า การหยุด พ.ต.อ.ทวีไม่น่ามีผลต่อการสืบสวนคดีฮั้ว สว.
คุณศักดาบอกว่า ต่อให้ตัด รมว.ยุติธรรม ออก แต่ดีเอสไอทมีอำนาจสอบ ก็ต้องเดินต่อไป หยุดไม่ได้ ถ้าหยุดอาจโดน ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยคุณสุรนันทน์เสริมว่า “แปะหมายศาลหน้าบ้านแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว”
สรุปคดีฮั้ว สว. เป็นศึกแดง-น้ำเงิน?
เมื่อถามว่า คดีฮั้ว สว. แสดงให้เห็นว่าเป็นการหักกันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยจริงหรือไม่ คุณศักดาบอกว่า ให้มองย้อนไปว่า ในการเลือก สว. คนมองว่า กกต. เข้าข้างพรรคน้ำเงิน เพราะตั้งแต่เลือก สว. กกตไม่ทำอะไรเลย เหมือนปล่อยให้ฮั้ว ที่ผ่านมาก็จับใครไม่ได้ว่าผิด แต่พอดีเอสไอมาแทรก มีหลักฐานหมดเลย แล้วหลักฐานมันลามไปถึงว่า มีพรรคการเมืองมาเกี่ยว มีอดีตรัฐมนตรีมาเกี่ยว เรื่องมันลุกลามไปถึงขั้นยุบพรรคน้ำเงิน
“ฝ่ายน้ำเงินคงมองว่า ล้ม สว. ได้ก็ล้มไป แต่อันนี้มาถึงล้มพรรค เล่นกันแรงเกินไป ดังนั้นจึงเกิดการรบเต็มที่ แต่เจรจาไปด้วย” คุณศักดาบอก
เมื่อถามว่า แล้วการแตกหักครั้งนี้จะไปถึงขั้นยุบสภาหรือไม่ คุณสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องดูการปรับ ครม. ก่อน เพราะในพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ มี 2 กระทรวงหลักที่เพื่อไทยตั้งเป้าว่าอยากได้คืน คือกระทรวงมหาดไทย ที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทำหน้าที่ได้ดี มีบารมีขึ้น อีกเป้าคือกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีผลประโยชน์สูงสุด
“สองประทรวงนี้พรรคเพื่อไทยตั้งเป้า ทำให้เกิดภาพที่ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน ไปเยี่ยมคุณอนุทิน แล้วคุณอนุทินโพสต์ภาพ จริงอยู่ว่าโพสต์ภาพนายกฯ ให้ขนมด้วย แต่ภาพคุณพีระพันธุ์เหมือนคุยกันเป็นเรื่องราว มีนัยทำให้เห็นว่า ภูมิใจไทยจะไม่โดนคนเดียว ถ้าโดนอาจไปจับมือกับรวมไทยสร้างชาติ” คุณสุรนันทน์
ตัวแปรสำคัญในเวลานี้คือ พรรคกล้าธรรมที่กำลังเติบโต ซึ่งถ้ากล้าธรรมเพิ่ม สส. ได้มากขึ้น แล้วไปบวกกับรัฐบาลเพื่อไทย ต่อให้ภูมิใจไทยหายไป 70 กว่าเสียง จะมี สส. เกินกึ่งหนึ่งอยู่ แต่แค่นิดเดียว
คุณศักดากล่าวว่า เดิมเวลาตั้งคณะรัฐบาลพรรคร่วมด้วยกัน จะตั้งตามความเหมาะสม สัดส่วนชัด ยุคนี้สมการผิดฝาผิดฝั่ง เพื่อไทยกับก้าวไกลพยายามตั้งรัฐบาล พอตอนหลังพลิก เพื่อไทยต้องรีบให้กระทรวงสำคัญเพราะเป็นการรีบจัดตั้งให้เพื่อไทยได้เป็นนายกฯ
“ทำให้เกิดสภาที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องตบจูบ เลยเกิดการต่อรอง แต่เพื่อไทยพยายามตั้งสมาธิ ของดีต้องเอามา แต่เขาได้ไปแล้ว เขาก็ไม่คืน ยื้อกันอย่างนี้” คุณศักดาบอก
แต่ไม่ว่าแผนการหรือสูตรของฝ่ายใดจะเป็นอย่างไร ทั้งคุณสุรนันน์และคุณศักดาเห็นตรงกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้ประเทศเสี่ยงอยู่ในสภาวะอัมพาตในการบริหารบ้านเมือง
คดีทักษิณ เชื้อไฟต้องยุบสภา?
คุณสุรนันทน์มองว่า คดีชั้น 14 ของอดีตนายกฯ ทักษิณเป็นเรื่องของเครดิต “คุณทักษิณเป็นผู้มีบารมีทางการเมืองสูงสุดในไทย ณ วันนี้ การขับเคลื่อนก็มีลูกสาวเป็นนายกฯ แม้คุณแพทองธารจะเก่งขึ้นเยอะ แต่ไม่มีภาวะผู้นำได้เอง คุณทักษิณเป็นเหมือนผู้จัดการรัฐบาล การล็อกเป้าคุณทักษิณ อาจไม่ถึงขั้นติดคุก แต่เครดิตจะลดลง พอลดลง นิติสงครามที่จะช่วงชิงอำนาจอาจรุนแรงขึ้น”
มิหนำซ้ำ เรื่องนี้ยังไปเกี่ยวรัฐมนตรีบางคน มีความพยายามทำให้ไปถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่ขณะนั้นเป็นผู้ออกกฎกระทรวงที่หลายคนมองว่าให้อดีตนายกฯ ทักษิณได้ประโยชน์
คุณสุรนันทน์เสริมว่า ถ้าอดีตนายกฯ ทักษิณมีผลออกมาเป็นลบ จะมีผลต่อรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน ทุกคนจึงพยายามจับเรื่องชั้น 14 ยังไม่นับว่า คะแนนนิยมตกต่ำลงตั้งแต่พลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล เสร็จแล้วยังเกิดอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เรื่องจริยธรรม ก็ยิ่งทรุดลงเรื่อย ๆ พอคนเชื่อว่าเพื่อไทยจะแก้ไขปัฐหาเศรษฐกิจได้ ก็กลับแก้ไม่ได้ ทั้งยั้งทำโครงการที่ทำให้คนตั้งคำถาม เช่น การกู้แจกเงิน เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปัญกหาที่ประดังประเดเข้ามาเหล่านี้ทำให้เพื่อไทยต้องการปรับ ครม. เพื่อหวังจะมีโอกาสสร้างผลงานอีกสักรอบ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ซื้อเวลาได้ไม่นาน ในที่สุดก็จะต้องยุบสภา คาดไม่เกินปีนี้
แต่คุณศักดาเห็นต่าง โดยมองว่า ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยยุบสภาเร็ว ๆ นี้มีแต่ตายกับตาย น่าจะพยายามอยู่กันแบบถูลู่ถูกังไปแบบนี้มากกว่า
คุณสุรนันทน์แย้งว่า กระบวนการของเพื่อไทยตอนนี้ไม่รู้จะถูลู่ถูกังได้นานแค่ไหน ถ้าถึงทางตัน ไม่อยากให้ทุบทางตันด้วยรถถัง ดีที่สุดคือนายกฯ ยุบสภา “ไม่มีใครอยากยุบตอนตัวเองสถานการณ์ไม่ดี ฉะนั้นเขาถึงปรับ ครม. เสียงอาจน้อยลง ภูมิใจไทยอาจไม่อยู่ แต่ต้องแสดงผลงานเต็มที่ ให้รัฐมนตรีทำงานเต็มที่ เจรจาเศรษฐกิจ ถ้าทะลุตรงนั้นได้ ก็อาจจะยุบ เพราะมีผลงานแล้ว แต่ถ้าเกิดวิกฤตศรัทธาหนัก ๆ การยุบสภาก็เป็นแนวทางของหลายรัฐบาล คือให้ประชาชนตัดสิน”