“อนุทิน” แจงปม MOU แร่แรร์เอิร์ธ ย้ำไม่เสียโอกาส ลั่นวางตัวเป็นคู่ค้า ไม่ใช่ขี้ข้า

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“อนุทิน” แจงปม MOU แร่แรร์เอิร์ธ ย้ำรักษาสมดุล 2 ชาติมหาอำนาจ ไม่เสียโอกาสแน่นอน ลั่นวางตัวเป็นคู่ค้าไม่ใช่ขี้ข้าใคร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีลงนามปฏิญญาสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรี นำประเทศไปสู่สงครามไม่ได้ หน้าที่ของนายกรัฐมนตรีต้องทำให้ประเทศมีความสงบสุข หลายประเทศสงครามคือของหอมหวาน หากเป็นผู้นำแล้วนำประเทศสู่สงครามก็ได้รับความนิยมเพิ่ม แต่ตนคิดว่าสำหรับประเทศไทยเราอย่ามีสงครามเลยดีกว่า เราเป็นตัวของเราเอง มีเอกราชมาโดยตลอดและสิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าเกรงขามต่อศัตรูทั้งหลายอยู่แล้ว 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่างภาพพีพีทีวี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ตนไปลงนามเพื่อไม่ให้เกิดสงคราม ไปเพื่อ ให้มั่นใจว่าไทยจะไม่เสียดินแดนและอธิปไตย และในข้อตกลงก็เขียนชัดเจนว่าอะไรที่เป็นของไทยก็คือของไทย ไม่มีจุดไหนที่บอกว่าเรายอมที่จะแลกจุดไหน เพื่อจุดประสงค์ใดจุดประสงค์หนึ่ง  ตนไปเพื่อทำให้เกิดความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทย

และตนไปเพื่อให้เขาเห็นว่า อย่าคิดรุกรานประเทศไทย คุณจะคิดผิดมากถ้าคุณคิดว่าประเทศไทยเป็นที่ที่คุณมารุกรานได้ ซึ่งตนก็มีอยู่เพียง 4 วัตถุประสงค์นี้เท่านั้น มั่นใจว่าข้อความของตนทั้งหมดส่งถึงคู่กรณีด้วยความชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง และมีประธานของกลุ่มภาคีสมาชิกอาเซียนเป็นพยาน มี ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ถือเป็นตัวแทนประชาคมโลกมาร่วมเป็นพยาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้มั่นใจได้ว่าไทยจะไม่มีสงคราม ถ้าทุกอย่างปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า การลงนามแร่แรร์เอิร์ธ​จุดยืนของประเทศไทยคืออะไร? นายอนุทินกล่าวว่า หากมีอีก 4-5 ประเทศมาแสดงเจตจำนงว่าจะลงนามเช่นนี้ ประเทศไทยไม่มีอะไรจะเสีย ตอนนี้แร่แรร์เอิร์ธยังอยู่ในดิน วันนี้ยังเป็นหิน เราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ตนต้องการขายหินในราคาทองคำ ไม่ต้องการขายหินในราคาก้อนกรวด ก้อนทรายชั่งกิโลขาย  ตนถูกสอนมาตั้งแต่อยู่ภาคเอกชน พ่อสอนมาตลอดว่าจะขายของให้ได้กำไร ต้องซื้อมาเป็นเมตรมาตัดเป็นนิ้ว นี่ก็เป็นหลักการเดียวกัน คำว่าแร่แรร์เอิร์ธ​

คำศัพท์นี้เมื่อ 10 ปีก่อน ยังไม่ค่อยมีใครได้ยิน ยกเว้นพวกนักวิชาการ ตนไม่เคยได้ยิน ถ้าไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็แทบไม่เคยสนใจ เพราะชีวิตอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขและมหาดไทย แต่พอเป็นนายกรัฐมนตรีมีเรื่องนี้ขึ้นมา ตนไม่ได้บอกว่าจะไปให้สัมปทานใครแต่บอกว่า มีโอกาสที่ประเทศไทย จะมีแร่ธาตุหายาก ถ้าสามารถนำไปถลุงแปรสภาพก็อาจจะกลายไปเป็นวัสดุ ที่สร้างขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่าได้

ส่วนที่มีการมองว่าแร่นี้จะเป็นแร่ยุทธศาสตร์ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจ นายอนุทิน ระบุว่า จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ ยังอยู่ในประเทศไทย เรายังมีองค์ความรู้เรื่องนี้น้อยมาก ถ้ามีคนมาให้ความร่วมมือในการศึกษาให้ความรู้กับประเทศไทยเรา ประเทศไทยหมดเวลาไปนานแล้วว่าทำอะไรเองไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการให้สัมปทานกับใคร หากแร่มีมูลค่าขึ้นมาจริงก็ต้องสร้างกฎระเบียบ มีกฎหมาย มี TOR เพื่อพัฒนาแร่เหล่านี้ และตนคือ Thailand First อยู่แล้วนโยบายพรรคภูมิใจไทยอะไรก็ได้ที่คนไทยมีส่วนร่วม คนไทยทำ ตนจะต้องหาแต้มต่อให้กับคนไทยมากที่สุด เรื่อง “แร่แรร์เอิร์ธ” ก็ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ลงนาม มีอยู่ประมาณ 8 ประเทศ โดยรอบอาเซียน บางประเทศถึงขั้นขายแล้ว แต่เราอยู่ในขั้นการเสนอตัวเข้ามาศึกษา ใครจะเอาช่องทางการตลาดมาให้ใคร ก็พร้อมพิจารณา ไม่มีอะไรแตกต่างจากการลงนามเรื่องอื่นๆ

ส่วนจะรักษาจุดยืนระหว่างประเทศมหาอำนาจอย่างไร? นายอนุทิน กล่าวว่า การจะรักษาสมดุล (Balance) ตัวเองกับใครจะต้องมีความจริงใจ และมั่นใจในตัวเองว่าเราก็มีดีเหมือนกัน แต่เราต้องจริงใจ อย่าเล่นนกมีหูหนูมีปีกไม่ได้ อย่างนั้นเราก็กระโดดโลดเต้นตาย วันที่หมดแรงแรกก็คือเรา คนอื่นเขาอยู่เฉยๆ เราต้องเหยียบเรือสองแคมประคองตัว ต้องใช้ความจริงใจของเรา ประเทศไทยมีดี มีคนเก่งจำนวนมาก มีเทคโนโลยี มีเงินฝาก มีแหล่งทุน เราต้องวางตัวให้เป็นคู่ค้า เป็นคู่คิด ไม่ใช่เป็นขี้ข้า

ส่วนต้องเลือกข้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราเลือกข้างตัวเอง ต้องคิดถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ และสุดท้ายเราต้องอยู่ด้วยตัวเองถ้าไม่มีใครคบเรา​ เรา​ก็ต้องมั่นใจว่าเราสามารถที่จะผลิตอาหาร ปัจจัย 4 ได้​ สิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยแข็งแรงขึ้นคือต้องสร้างระบบยุติธรรมให้ยุติธรรมขึ้น สร้างความเท่าเทียมกัน ให้เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยน่าเชื่อถือ

 

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ