เริ่มต้นเข้าสู่ช่วงเฟ้นหาเงาเสียงกับผู้เข้าแข่งขันคู่แรก A ขุน-องอาจ ปัดทุม เจ้าของฟาร์มม้า วัว และควาย และ B โต้ง-ศราวุธ กวดขุนทด พนักงานสรรหาโกดังเพื่อกระจายสินค้า โดยทั้งคู่มาในโจทย์เพลงช้าๆ อ้อนๆ “รักคนโทรมาจังเลย” รอบนี้พี สะเดิดให้คะแนนเสมอ เพราะมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน แต่เมื่อรวมกับคะแนนของกรรมการ ขุน-องอาจ เสียงเหมือนเป็นธรรมชาติมากกว่าผ่านเข้ารอบไป
หนุ่มสินเชื่อเสียงธรรมชาติ คว้าแชมป์เงาเสียง “ปุ้ย L.ก.ฮ”
ต่อกันด้วยคู่ที่สอง A เอส-ชาญวิทย์ เพียเอีย พนักงานควบคุมเครื่องจักรแฟนคลับตัวจริงพี สะเดิด มากว่า 20 ปี และ B ดำ-ก้องภพ แก้วเรือง หนุ่มพิการขา-แขน มากความสามารถที่ไม่เคยท้อถอยกับชีวิต เป็นทั้งเซลล์ขายมอเตอร์ไซค์ และเล่นกีตาร์เป็นนักดนตรีกลางคืน โดยทั้งคู่มาดวลกันในเพลง “ฉันเป็นตัวแทนของใครหรือเปล่า” ซึ่งหนุ่มดำ-ก้องภพ เป็นฝ่ายเอาชนะไปแบบขาดลอย
มาถึงรอบชิงแชมป์เงาเสียงกับการแข่งกันเพื่อเป็นแชมป์ของ ขุน-องอาจ และ ดำ-ก้องภพ ในเพลง “สาวกระโปรงเหี่ยน” งานนี้แม้พี สะเดิด จะยกคะแนนให้ ขุน-องอาจ แต่เมื่อรวมกับกรรมการก็ไม่สามารถเอาชนะ ดำ-ก้องภพ ไปได้ ทำให้ หนุ่มพิการใจเกินร้อย คว้าแชมป์เงาเสียงไปด้วยคะแนนเฉียดฉิว
ปิดท้ายด้วยโชว์พิเศษศิลปินต้นฉบับ พบ เงาเสียง พี สะเดิด และ ดำ-ก้องภพ ในเพลงยอดฮิตเซิ้งสนุก “จี่หอย” ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนแฟนเพลงก็ยังคงขอให้ร้องทุกครั้งไป เรียกว่าเปิดสนุก ปิดท้ายก็แฮปปี้กันไป
“พี สะเดิด” ทึ่ง “บิ๊ก ทองภูมิ” คว้าไมค์คัพเวอร์ ประชัน กิ๊ฟซ่า-เบลล์ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่