
กว่าจะมาเป็น “เอิร์ท – มิกซ์” คู่จิ้นเคมีแรง
เผยแพร่
พูดคุยกับ “เอิร์ท - พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ” และ “มิกซ์ - สหภาพ วงศ์ราษฎร์” สองหนุ่มเนื้อหอม ที่กำลังมาแรงในใจสาววาย
“ป๊อด – ข้าวตัง” กอดคอยึดพื้นที่หัวใจสาว (วาย) ฝ่าความกดดัน รับบทนำครั้งแรก
“ไบร์ท - วิน” นำทีมโชว์จัดเต็ม สุดปัง! แฟนคลับชมสด 74 ประเทศ
มาแรงสุดๆ สำหรับสองหนุ่มหน้าใส เอิร์ท - พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ และ มิกซ์ - สหภาพ วงศ์ราษฎร์ นักแสดงเลือดใหม่ที่สร้างปรากฎการณ์คว้าหัวใจสาวๆทั้งในไทยและต่างประเทศ ฮอตแรงขนาดนี้ “พีพีทีวี ออนไลน์” (นิวมีเดีย) เลยคว้าตัวมาพูดคุยสักหน่อย
กระแสตอบรับซีรีส์ดีมากๆ ขึ้นเทรนด์อันดับ1 ทวิตเตอร์ รู้สึกยังไงบ้าง
เอิร์ท : “ชื่นใจครับ ขอบคุณกระแสตอบรับที่ดีจากทุกคนนะครับ มันทำให้ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทุ่มเทไปมันมีความหมายแล้วนะ มันได้ผลแล้ว มันทำให้ผมอยากทำงานตรงนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมจะเติบโตขึ้นในทุกๆวัน ปีนี้เป็นปีที่ผมเหนื่อยที่สุด แต่ก็สนุกที่สุด ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ซัพพอร์ตผม มิกซ์ และซีรีส์นิทานพันดาวนะครับ หวังว่าทุกคนจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานๆนะครับ”
มิกซ์ : (ยิ้มหวาน) ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ให้การสนับสนุนเราครับ (ยิ้ม) ปลาบปลื้มใจที่สิ่งที่เราทำกันมาแสดงถึงผลสำเร็จของเราแล้ว อยากให้ทุกคนติดตามไปจนจบเลยนะครับ”
ความกดดันระหว่างถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง เพราะเรื่องนี้คือความหวัง
เอิร์ท : “กดดันครับ ผมเชื่อว่าทุกคนทำงานกันอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราคุยกันตลอดคือคาแร็กเตอร์ที่เราได้รับค่อนข้างยาก ก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ต้องทำความเข้าใจมากขึ้น”
มิกซ์ : กดดันมาก (ยิ้ม) สำหรับมิกซ์มันยากตั้งแต่การแสดง เพราะเป็นเรื่องแรก บท “เธียร” จะยากตรงที่เขากำลังจะตายแล้ว แต่เขาได้ชีวิตใหม่กลับมา คือถ้าคนไม่ไปถึงตรงนั้นจริงๆจะไม่เข้าใจ แต่พี่อ๊อฟ (ผู้กำกับ) ก็พามิกซ์ไปถึงจุดนั้นได้ ทำให้มิกซ์เข้าใจตัวละคร ซึ่งต้องบอกว่าความซับซ้อนมันอยู่ที่เรื่องความรักด้วย ครูเธียร ต้องรัก ภูผา แต่ต้องโกหก มันเป็นความรู้สึก 3 ชั้น ความยากคือความชัดเจนของการแสดง ต้องเล่นให้รู้ว่าตัวละครรู้สึกยังไง ตัวละครนี้ค่อนข้างเป็นตัวละครที่สื่ออารมณ์ชัด ผมก็ต้องสื่อให้ชัด และบางฉากก็ต้องทำเหมือน "ทอฝัน" (อ้าย สรัลชนา) ก็ต้องมานั่งดูว่าฉากนี้น้องเล่นยังไง ก็ต้องพยายามทำให้เหมือนที่สุด”
เอิร์ท : “สองตัวละครต้องมีเลเยอร์การแสดงมากกว่าหนึ่ง เพราะมีเรื่องของการแสดงความรู้สึก ต่างคนต่างมีความลับที่บอกกันไม่ได้ แล้วการสื่ออารมณ์ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะมิกซ์ เพราะเป็นตัวเดินเรื่อง น้องเก่งมากๆ”
เห็นว่าเป็นนักแสดงกองนี้นอกจากต้องรับบทเป็นนักแสดงแล้ว ยังรับบทถือพร็อพด้วย
เอิร์ท : “ผมช่วยถือพร็อพครับ เห็นอะไรก็ช่วยกันขนขึ้น-ลง โลเคชั่นค่อนข้างไกล”
มิกซ์ : “ผมทีมไฟครับ (หัวเราะ) ก็ช่วยกันครับ เวลานอนลงมานอนข้างล่างก็จริง แต่ส่วนมากก็ใช้ชีวิตข้างบนดอยที่ไปถ่ายทำ ตอนกินข้าวก็นั่งกันที่พื้น ไฟไม่มีก็ใช้ไฟฉาย คล้ายๆไปออกค่าย ทีมงานทุกคนก็เต็มที่ เพื่อให้ได้ภาพสวยๆออกมา ผมว่าซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายกันแบบ 3 ฤดูนะ ไปวันแรกฝนตกตั้งแต่เช้า สักพักร้อน บางวันก็หนาว หนาวจนผมเป็นลม”
เหตุการณ์นั้นเป็นยังไง หลายคนตกใจ
มิกซ์ : “วันนั้นค่อนข้างหนาวมาก เป็นคิวสุดท้ายในการถ่ายทำ มีซีนอารมณ์และด้วยความเครียดสะสมหลายอย่าง อากาศน้อย ความกดอากาศค่อนข้างต่ำ มิกซ์ก็ล้มลงไปเลยไม่รู้ตัว คือจริงๆซีนนั้นผู้กำกับบรีพแค่ว่าให้หมดแรงนะ แต่พี่เอิร์ทเข้าใจว่าผมเล่นเป็นลม”
เอิร์ท : “ตอนแรกผมคิดว่ามิกซ์เปลี่ยนแนวการเล่น แต่ผมเรียกชื่อมิกซ์ทุกคนก็เลยตกใจ สั่งคัทรีบวิ่งเอาผ้าห่มมาคลุม หาของบังลม เอาแฟลชสาดใส่ให้ร้อน ผมตกใจมาก (เราร้องไห้?) ใช่ครับ ระหว่างที่ผมเรียกมิกซ์น้ำตามันก็ไหลมาแล้ว ทำอะไรไม่ถูก อยู่บนดอยด้วย ถ้าน้องเป็นอะไรกว่าเราจะลงจากดอยมาข้างล่าง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพาไปส่งโรงพยาบาล ก็เลยเป็นห่วงเขา”
ความยากที่กว่าจะมาเป็นซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรอีก
เอิร์ท : “คิวบู๊ครับ ยากมาก ผมไม่เคยเล่นมาก่อน ต้องซ้อมเยอะๆ เพราะถ้าเราผิดคิวสตั๊นแมนอาจจะบาดเจ็บได้ ถึงเหนื่อยแต่ก็สนุกมากครับ และในระหว่างการถ่ายทำผมกะระยะเอฟเฟ็กต์ผิด ซึ่งพี่ทีมงานก็รีมาร์กไว้แล้ว พอระเบิดในซีนตู้มขึ้นมา หูผมดับไปเลย ผมตกใจมาก ทีมงานก็เข้ามาดู ผู้กำกับก็บอกว่าถ้าไม่ไหว ก็ไม่ถ่ายแล้ว เอาชีวิตน้องไว้ก่อนเป็นอันดับแรก แต่ผมรู้สึกว่าเราต้องถ่ายทอดตัวละครให้เต็มที่ ก็กัดฟันถ่ายทำจนเสร็จ”
ก่อนมาถ่ายเรื่องนี้ เราอ่านนิยายมาก่อนไหม
เอิร์ท : “อ่านครับ ผมอ่านสองรอบ รอบแรกเอาฟิลลิ่งก่อนว่าเป็นยังไง รอบที่สองเก็บดีเทลต่างๆ ซึ่งมีกำลังใจมากขึ้น”
มิกซ์ : “มิกซ์อ่านสองรอบเหมือนกันครับ รอบแรกอ่านให้พอรู้เรื่องว่าเป็นยังไง รอบที่สองเจาะรายละเอียดคาแร็กเตอร์ที่เราจะเล่น”
พอได้ยินกระแสว่า ตัวละครต้องเป็นแบบนี้ๆนะ เรากดดันไหม
มิกซ์ : “ตอนแรกที่ตัวอย่างออกมาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับความสนใจขนาดนี้ แต่ปรากฎว่าคนสนใจเยอะ ดีใจครับ แต่อีกส่วนหนึ่งก็ค่อนข้างกดดันนะ แต่ความกดดันก็เป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้มิกซ์ผลักตัวเองขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”
เอิร์ท : “ผมบอกตัวเองว่าถ้าซีรีส์เรื่องนี้เรายังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ เราก็จะพอกับงานในวงการ จะกลับบ้าน แต่พอมีคนคาดหวัง รอดูเยอะ เลยทำให้ผมมีพลังเป็นแรงให้ผมตั้งใจทำให้ออกมาดีที่สุด มันเป็นความกดดันที่เราอยากจะพยายามต่อ อยากที่จะพยายามเรียนรู้ อยากใช้ชีวิตในวงการบันเทิงต่อไป”
มิกซ์ : “เราก็คุยกันนะ เพราะมันไม่ใช่แค่คนอื่นกดดันเรา พวกเราก็ดดันเองด้วย แรกๆกลับมาจากกองถ่าย ผมร้องไห้เลย ร้องอยู่หลายวัน คือมิกซ์มีความสับสนว่าทำไมเรายังทำไม่ได้ เรามาทำอะไรที่นี่ ผู้กำกับก็มากอด มาให้กำลังใจตลอด เขาบอกจะพาเราไปให้ได้ สุดท้ายก็ผ่านมาแล้วครับ (ยิ้ม)”
เห็นว่าเราทั้งคู่สายน้ำตาเหรอ? ใครร้องไห้เก่งกว่ากัน
มิกซ์ : “พี่เอิร์ทครับ เขาเป็นคนเซนซิทีฟ ไม่ว่าจะเรื่องงาน ฟังเพลง ก็ร้องได้หมด”
เอิร์ท : “ผมอินๆ (หัวเราะ) แต่ผมว่าเราสองคนเจ้าน้ำตาพอๆกันแหละ มิกซ์เองเวลาเหนื่อย หรือเจออะไรมาเขาก็ร้องไห้ ซึ่งเขาจะไม่เล่าให้ฟังก่อนนะ จะร้องไห้ก่อนแล้วค่อยมาเล่า”
แต่ที่ยากกว่าจะมาเป็น “นิทานพันดาว” ก็กว่าจะมาเป็น “เอิร์ท – มิกซ์” คู่จิ้นเคมีแรง
เอิร์ท : “(หัวเราะ) อันนี้เล่ายาวเลยครับ จริงๆผมไม่คิดว่าจะเข้ามาทำงานตรงนี้เลย เมื่อก่อนนะๆ การเข้ามาทำงานตรงนี้ของเอิร์ท เป็นเพราะว่าแม่ป่วย เอิร์ทรู้สึกว่าจะทำงานยังไงดี ที่จะหารายได้มาเป็นค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ ช่วยครอบครัว หาค่าเทอมให้ตัวเอง ตอนนั้นมีโอกาสเข้ามาพอดี เล่น “Water Boyy the Series” กับทาง จีเอ็มเอ็ม ทีวี ซึ่งจริงๆทางค่ายติดต่อมาหลายครั้งแล้ว แต่ผมปฏิเสธตลอด เพราะตอนนั้นผมเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ และยังไม่รู้สึกว่าอยากทำงานในวงการบันเทิง หลายคนสงสัยว่าถ้าไม่ชอบวงการบันเทิง แต่เลือกเรียนละครเวทีทำไม เพราะมันเป็นศาสตร์เดียวกัน (หัวเราะ) พอมานั่งคิดก็แบบ เออใช่ จุกเลยตอนนั้น ต้องกลับมาคิดว่าจะยังไงต่อดี จะดร็อปไหม แต่ก็รู้สึกเสียดายเวลา ตอนนั้นเรียนปี2 แล้ว เลยกัดฟันสู้ต่อ พอเรียนไปเรื่อยๆ เราเริ่มซึมซับและรู้สึกชอบละครเวที ปรับตัวได้ พอวันนึงต้องเข้ามาทำงานในวงการ ก็เริ่มเรียนรู้ตรงนี้ หาจุดกึ่งกลางให้ตัวเอง ทลายความกดดันของตัวเองให้มันค่อยๆลดลง ทำไปเรื่อยๆจนเริ่มมองเห็นเสน่ห์ของการแสดงและการทำงานในวงการบันเทิงมากขึ้น ”
มิกซ์ : “คือจริงๆผมไม่ได้อยากเป็นดารา ผมบอกผู้จัดการส่วนตัวผมตลอด เพราะผมไม่ชอบให้ใครมาจับจ้อง ผมเขิน และยอมรับว่าเป็นคนค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง บางครั้งผมเลยจะมีโหมดอยากอยู่คนเดียว เห็นผมแบบนี้ จริงๆผมพูดน้อย ยิ่งกับคนสนิทจะยิ่งพูดน้อยเลย (หัวเราะ) แต่ขี้เล่นนะ เฟรนด์ลี่กับทุกคนได้ แต่เปิดรับคนเข้ามาในโลกของผมยาก เป็นคนมีระยะหลายชั้น ผมมีเพื่อนสนิทน้อยมาก และคนที่อยู่ในวงโคจรชีวิตของผมจริงๆมีไม่กี่คนเลยนะที่ผมจะไปไหนมาไหน ใช้ชีวิตด้วย แต่พอมาอยู่ตรงนี้ เป็นทางที่เราเลือกแล้ว ผมก็ต้องค่อยๆปรับตัวและทำความเข้าใจ”
เราทั้งคู่ผ่านอะไรมาเยอะไม่ต่างกัน
มิกซ์ : "จริงๆเข้ามาตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไร อยากทำงานหาเงิน ลองทำอะไรใหม่ๆในชีวิตดู เมื่อก่อนผมอาจจะไม่ได้รับเลือกในชิ้นงานต่างๆ มีได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ผมก็ไม่ท้อนะ เพราะผมลองมานั่งคิดทวบทวน ผมเองก็อยากมีคอมฟอร์ทโซนให้กับตัวเอง ก็มาลงตัวที่การเป็นนักแสดง แรกๆมันอาจจะไม่ใช่ทางของผม แต่เมื่อได้รับโอกาสดีๆ ได้ทำงานหลากหลายมากขึ้น ผมกลับสนุกกับตรงนี้ กลายเป็นคนชอบแอ็คติ้ง อยากเรียนรู้อะไรใหม่ๆ แฮปปี้ที่ได้เจอคน นิทานพันดาว เป็นซีรีส์เรื่องแรกของผม ที่ต้องแอคติ้งจริงจัง ไม่เหมือนที่ผ่านมาแค่ถ่ายโฆษณา ไม่ได้มีการแสดงอารมณ์ ไดอะล็อกก็ไม่เยอะแบบนี้ มันเลยยากสำหรับผม ซึ่งตอนนี้โอเคแล้ว รักการทำงานตรงนี้ไปแล้ว"
เอิร์ท : "ผมยอมรับเลยว่าปีแรกที่เข้ามาทำงานตรงนี้เป็นปีที่โหดมากกับตัวผม ผมไม่ได้ชินกับการถูกจับจ้องจากคนอื่น มันยังมีความขัดแย้งกับตัวเองอีก คนชอบมาบอกว่าเล่นละครเวทีก็คนดูเยอะ เยอะกว่าในกองถ่ายอีกนะ แต่คือเวลาแสดงละครเวที ผมจะไม่เห็นคนดู ทุกอย่างมืดหมดเลยไง (หัวเราะ) แล้วผลงานเรื่องแรก มันออกมาไม่ดีตามที่ผมคิดไว้ ผมเครียด ร้องไห้ จนสุดท้ายต้องหาวิธีผ่อนคลายให้ตัวเอง ผมไปรึกษาคนๆนึง เขาบอกผมว่า “เป็นเรื่องปกติที่เราจะตัดสินตัวเองว่าเราไม่เก่ง แต่เราจะทำยังไงให้คำที่เราโดนคอมเมนต์มามันหายไป” ผมเลยพยายามมากขึ้น เพื่อพิสูจน์ตัวเองก่อน เอาชนะใจตัวเองก่อน และพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าผมทำได้
5 ปีที่ผมอยู่ตรงนี้ ประสบการณ์ต่างๆทำให้ผมเปลี่ยนไปมาก หน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ ผมใจเย็นขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ครอบครัว เพื่อน และคนที่ใกล้ชิดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผมโตขึ้นมาก อาจจะด้วยหน้าที่ที่ผมต้องรับผิดชอบมากขึ้นด้วย"
เวลาท้อๆ ฮีลตัวเองกันยังไง
เอิร์ท : "คุณแม่คือคนสำคัญที่เปลี่ยนผมเลย เมื่อก่อนผมอาจจะไม่สนิทกับครอบครัวมากเท่าไหร่ แต่ช่วงที่แม่ผมป่วย คำๆนึงของท่าที่พูดกับผมว่า “เขาจะไม่อยู่แล้ว” คำๆนั้นเปลี่ยนผมทุกๆอย่าง ผมรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา ทำไมเราต้องทะเลาะกัน ไม่คุยกัน ผมกลายเป็นคนที่เอาใจใส่ เทคแคร์ และให้ความสำคัญคนรอบข้างมากขึ้น ก่อนที่คุณแม่จะจากไปท่านบอกกับผมว่า “โลกนี้มันโหดร้าย จงใช้ชีวิตอย่างมีสติ” ผมก็ใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น ก่อนหน้านี้ผมจะเคยถอดใจไปแล้วกับงานตรงนี้ ผมเหนื่อยกับมัน ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง แต่ ณ วันนี้ผมบอกตัวเองว่าขอสู้ต่อ เพราะผมได้รับโอกาสใหม่ๆที่ท้าทาย บท “ภูผา” เปลี่ยนความคิดผม (ยิ้ม) นี่คือการพิสูจน์ตัวเองของผม ผมบอกตัวเองว่าจะทำออกมาให้ดีที่สุด เต็มที่ที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้"
มิกซ์ : “ถามว่าผมฮีลตัวเองยังไง โทร.หาคุณแม่ครับ เล่าให้ท่านฟังว่าในแต่ละวันเราเจออะไรบ้าง ท่านก็จะให้กำลังใจผมเสมอ เพราะท่านเคารพในการตัดสินใจของที่เลือกมาทำงานตรงนี้ การเป็นสัตวแพทย์ ก็ยังเป็นสิ่งที่ผมชอบ อนาคตก็คิดไว้ว่า ถ้าเรียนจบก็คงทำควบคู่ทั้ง 2 อาชีพ แม้ตอนนี้ผมอาจจะเหนื่อยหน่อย ที่ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ก็พยายามจัดตารางชีวิตให้ดี ผมอยากทำงานในวงการต่อ อยากทำทุกโอกาสที่มีเข้ามา”
วันนี้เหมือนได้ปลดล็อกตัวเอง งานประสบความสำเร็จ ได้รับความรักจากแฟนๆทั้งในไทยและต่างประเทศ
เอิร์ท : “ผมไม่รู้ว่าคนรู้จักผมมากขึ้นมากน้อยขนาดไหน แต่ผมแค่รู้สึกอยากจะขอบคุณทุกๆที่ติดตามผมและมิกซ์ ชอบซีรีส์ พูดคุยทักทายกันทางโซเชียล ทุกคนน่ารักกันมากๆ ผมเห็นอยู่ (แอบส่อง?) ก็นิดนึงครับ (หัวเราะเขินๆ) หวังว่ามีโอกาสเราจะได้เจอกันนะครับ”
มิกซ์ : ก็คล้ายๆที่พี่เอิร์ทบอกครับ อยากขอบคุณทุกๆคน (ยิ้มหวาน) คือแฟนคลับเอง ผมไม่รู้ว่าในแต่ละวันเขาต้องไปเจออะไรมาบ้าง แต่เวลาที่เขามาหาพวกเรา เขาต้องการพลังบวก บางคนมาไกลมาก แต่ได้เจอกันแป๊ปเดียว ก็อยากให้เขาได้รับรอยยิ้มกลับไป ในทางกลับกันเวลาหันกลับไป ก็จะได้พลังบวกจากแฟนๆเหมือนกัน”
แฟนๆบอก “มิกซ์” สายละมุน
มิกซ์ : "ละมุนๆ (หัวเราะ) อวยตัวเองไปก่อนแล้ว ผมว่าผมยิ้มเก่งนะ ต่อให้มีเรื่องไม่สบายใจก็จะเก็บไว้ข้างใน ต่อให้โดนด่าก็จะยิ้มไว้ก่อน เคยงงตัวเองนะ ว่ายิ้มทำไม (หัวเราะ) ผมเป็นคนละเอียดนะ จะจำดีเทลทุกคนที่ใกล้ชิดกับผม อย่างสมัยก่อนที่มีแฟน ผมชอบทำกับข้าวให้ ดูแล เทคแคร์ อยากไปเรียนทำเค้กวันเกิดให้เขา แต่รู้ไหมครับว่าผมเนี่ยเป็นคนระเบียบจัดมาก (ลากเสียงยาว) ผมจะแพลนตัวเองในแต่ละวันเลยนะ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง เวลาไหนจะทำอะไร บางครั้งถ้าไม่เป็นไปตามแผน ผมจะเครียด ปวดหัวเอง (หัวเราะ) ซึ่งผมก็เพิ่งมาคิดได้ผมต้องผ่อนบ้าง ไม่อย่างนั้นเราจะเครียดเกินไป ตอนนี้ก็ชิลขึ้นมาก พี่เอิร์ทก็เป็นคนจริงจังนะ"
เอิร์ท : (ตอบเสริม) "เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ซีเรียสมาก เป็นคนเป๊ะมาก ทำอะไรผิดแผนไม่ได้เลย (ขนาดนั้นเลยเหรอ?) ใช่ครับ จนมีคนมาบ่นกับผมว่าผมเป็นคนเครียดและจริงจังเกินไป ผมก็ค่อยๆปรับตัว ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ"
แต่รอยยิ้มของ “เอิร์ท” ทำแฟนๆใจละลายนะ
เอิร์ท : งั้นเอาไป 1 ยิ้มครับ (ยิ้มหวานสุด)
พูดถึงความประทับใจที่มีต่อกันหน่อย
เอิร์ท : “มิกซ์เป็นคนน่ารัก เป็นคนที่ตั้งใจงานมากๆ น้องเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีมากๆ การถ่ายซีรีส์เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย เขาต้องร้องไห้ทุกวัน ผมนับถือเขามากเลยนะ ร้องยังไห้ยังไงให้ได้ทุกวัน และไม่ใช่ว่าร้องไห้ยาวๆนะ แต่มีการสลับซีน ร้องไห้ หัวเราะ กลับมาร้องไห้ น้องโคตรเก่งเลย (ยกนิ้วให้น้อง) อย่างที่บอกเราผ่านอะไรด้วยกันมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งเขาก็คอยให้กำลังใจผมตลอด”
มิกซ์ : “ผมประทับใจที่พี่เอิร์ทเป็นคนใส่ใจครับ (ยิ้ม) ถ้าผมเหนื่อยหรือท้อ เขาจะดูออกตลอดและจะคอยมาให้กำลังใจตลอดว่า ‘ไม่เป็นไรนะ’ หรือไม่ก็จะหาน้ำ หาขนม มาให้มิกซ์ตลอด ทำให้มิกซ์รู้สึกว่าเขาเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีมากในการทำงาน เขาทำให้ผมเห็นว่าเขาใส่ใจมาก ซึ่งหลายๆครั้งเขาเหมือนจะไม่ได้เทคแคร์นะ แต่จริงๆเขาแอบเทคแคร์ตลอด จำได้หมดว่ามิกซ์ต้องการอะไร เป็นพี่ชายที่น่ารักมากครับ”
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline