เปิดใจ “มอริส เค” สาเหตุ ย้ายไปอยู่กับพ่อที่อเมริกา

เผยแพร่ 29 มี.ค. 2567 ,14:59น.

นักแสดงดัง “มอริส เค” เตรียมบินไอยู่อเมริกา เพื่อดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิด หลังตามหากันจนเจอ โต้ทิ้งวงการบันเทิงไทย ลั่นยังกลับมารับงานแน่ถ้ามีโอกาสเข้ามา

ตามหาคุณพ่อจนเจอ ก็ขอทำหน้าที่ลูกที่ดีอย่างเต็มที่ นักแสดงและพิธีกรดัง “มอริส เค” หลังจากปรากศตามหาพ่อแท้ๆ และโอกาสได้เจอหน้ากัน รวมถึงได้ใช้นามสกุลผู้กำเนิดแล้ว

เมื่อสิ่งที่รอคอยทั้งชีวิตสมหวัง สเต็ปต่อไป “มอริส” ตัดสินใจย้ายไปอยู่อเมริเพื่อดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิด โดยเจ้าตัวได้เปิดใจกับวันบันเทิง พร้อมย้ำชัดว่ายังไม่คิดทิ้งวงการบันเทิงไทยอย่างแน่นอน

เปิดใจ “มอริส เค” สาเหตุ ย้ายไปอยู่กับพ่อที่อเมริกา — มอริส เค

“ถามว่าใช้เวลาตัดสินใจนานไหม ก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกัน เริ่มจากที่ผมตามหาครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็เจอคุณแม่ตอนอายุ 34 ปี คุณแม่จากไปตอนผมอายุ 44 ปี ผมก็ตามหาคุณพ่อแล้วก็มาเจอท่านตอนอายุ 54 ปี ด้วย ความที่เราเองไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอคุณพ่อและการยอมรับของเขา เพราะมันไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะทำให้คนๆ นึง ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วก็ยอมรับผลในปัจจุบันได้ แต่พ่อผมและครอบครัวทุกคนยอมรับ แล้วก็โอบอุ้มผมด้วยรักและทะนุถนอม

นั่นทำให้เราดีใจทีได้เจอพ่อ แล้วผมก็รู้สึกว่าเมื่อได้เจอพ่อแล้ว เรื่องในอดีตต่างๆ ไม่ว่าจะไม่ได้ดูแลเราหรืออะไรก็ตาม ผมให้มันเป็นเรื่องของอดีต ปัจจุบันผมเจอพ่อแล้วก็อยากใช้เวลากับท่าน ใช้เวลาของลูกชายกับพ่อ ใช้เวลากับพี่น้อง พ่อพูดว่าฉะนั้นลูกต้องใช้สิทธิในความเป็นลูกคนอเมริกัน ผมได้รับสิทธินั้นโดยคุณพ่อเป็นผู้ยื่นเรื่องให้ เมื่อได้รับสิ่งเหล่านั้นแล้วก็เลยอยากจะได้ใช้เวลากับพ่อให้มากที่สุด

แม้ว่าผมจะสามารถไปหาพ่อได้บ่อยๆ แต่การเดินทางด้วยเครื่องบินกว่า 20 ชั่วโมง มันไม่สนุกเลย ปีนี้คุณพ่อท่านจะอายุครบ 85 ปี ในเดือนเมษายนนี้ ผมไม่รู้ว่าพ่อจะอยู่กับผมอีกนานเท่าไหร่ ฉะนั้น ณ ตอนนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมอยากอยู่กับพ่อ อยากดูแลพ่อ ถึงพ่อจะบอกว่าไม่ต้องมาดูแลพ่อ เพราะสามารถดูแลตัวเองได้ แต่เราโดนสอนมาว่าลูกจะต้องดูแลพ่อยามแก่ชรา ไม่ว่าจะเกิดกรณีอะไรก็แล้วแต่ ผมเชื่อในคำสอนนั้นและจะทำหน้าที่ของลุกให้ดีที่สุด ถึงอาจจะไม่ได้อยู่กับท่านตลอดเวลา แต่ได้อยู่ในประเทศเดียวกับท่าน เมื่อเกิดอะไรขึ้นผมสามารถไปหาท่านได้ทุกเวลา

ในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลตัวเองด้วย เพราะคนอเมริกันจะมีวัฒนธรรมคือทุกคนต้องดูแลตัวเองให้ได้ ถามว่ามีแพลนทำอะไรที่นั่นไหม ตอนนี้แพลนเยอะไปหมดเลย แต่จะสรุปตรงไหนนั้นเดี๋ยวต้องตามต่อ แต่ที่แน่ๆ เมื่อผมไปอยู่ที่นั่น ผมต้องไม่เป็นภาระใคร

เพื่อนๆ ในวงการที่รู้เรื่องนี้ก็ตกใจมาก ตัวผมเองก็ยังช็อกในวันที่รู้เรื่อง เพราะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ผมก็เตรียมใจไว้แล้วจะมีวันนี้ แต่ไม่นึกว่าจะมีเวลาไม่กี่อาทิตย์ในการเดินทางไปอยู่ที่นั่น ดังนั้นความวุ่นวายก็เกิดขึ้น แต่ดีใจที่ทุกอย่างลงตัวจนถึง ณ เวลานี้ พร้อมแล้วที่ผมจะเดินทางไป แต่ไม่ได้ไปแล้วไปเลยนะ ผมยังกลับมาอยู่ประเทศไทย ยังกลับมาหาคนที่เปิดโอกาสให้ผมได้มีผลงานในวงการบันเทิงเสมอๆ

เพื่อนๆ ก็จัดเลียงส่งกันอย่างสนุกสนาน การไปของผมไม่ได้ใช้คำว่าลาก่อน แต่ใช้คำว่าเดี๋ยวเจอกันนะ ฉะนั้นทุกคนก็รู้ว่าเดี่ยวยังไงก็เจอกัน เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนแค่นั้นเอง”