จากกรณี จี กามิน (Ji Gamin) เน็ตไอดอลสาวชาวเกาหลี อดีตแฟนสาว แน็ก ชาลี พระเอกหนุ่มชาวไทย ที่ก่อนหน้าเคยมีประเด็นดรามาในเรื่องผลประโยชน์ และตอบโต้กันไปมาผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่ง กามิน ได้เดินทางกลับมาถึงไทยแล้ว ตั้งแต่ วันที่ 4 พ.ย. 2567
โดยในวันนี้ (6 พ.ย.67) กามิน พร้อมล่ามคนไทยและเกาหลี รวมทั้งทนายความ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว “กามินกลับมาเพื่อพิสูจน์ความจริง” เคลียทุกดรามา โดยกามินระบุว่า ไม่ได้อยากให้มาถึงเหตุการณ์ในวันนี้แต่วันนี้ออกมาพูดความจริงและปกป้องครอบครัวและคนที่ตนเองรัก
สรุปดรามา แน็ก ชาลี และกามิน จากรักหวานกลายเป็นขม งาน เงิน ภาษี?
“แน็ก ชาลี”เผยความสัมพันธ์ “กามิน” ห่างกันแล้ว 2 สัปดาห์ ยันทำดีที่สุดแล้ว
ในประเด็นแรกกามินเล่าว่าในเรื่องการมาทำงานที่ไทย ตนเข้ามาช่วงเดือนมกราคม 2567 มีความสุขและดีใจ มีคนเข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่นและมีความสุข สนุกสนาน และมีปัญหาด้านการติดต่อสื่อสารบ้าง แต่ทุกคนใจดีช่วยสนับสนุน
ในส่วนของรายได้ในการทำงาน กามิน ระบุว่า ไม่ได้มีปัญหาและมีการจัดสรรและดีมากๆ โดยในช่วงแรกพักอาศัยอยู่ที่โรงแรม และสตูดิโอ และ อยู่ที่บ้านของท่านนั้นที่ทำงานร่วมกัน ครอบครัวของท่านนั้นให้การต้อนรับอย่างดีและอบอุ่นแม้กระทั่งตอนนี้ยังรู้สึกของคุณอยู่ตลอด
ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 “โดนัลด์ ทรัมป์” คว้าชัย นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัย 2
ผลฟุตซอลทีมชาติไทย แพ้ เวียดนาม ศึกชิงแชมป์อาเซียน
5 แหล่งวิตามินปราการผิว ช่วยบำรุงลดรอยด่างดำ เหี่ยวย่นช่วยชะลอวัย
กามิน พักที่โรงแรมไม่ได้เป็นคนจองเอง แต่เป็นทางบริษัทท่านนั้นจัดการให้ และสามารถเช็กและตรวจสอบได้ตลอดว่ามีบุคคลอื่นเข้าหรือออกจากโรงแรมหรือไม่ แน่นอนว่าหากพาคนอื่นเข้าในโรงแรมก็จะไม่นัดพบกันโรงแรมนี้ เพราะไม่ได้เป็นคนของเอง และท่านนั้นก็มีคีย์การ์ด และข่าวที่ออกมาไม่ได้เป็นความจริง ยืนยันว่า ไม่ได้ดื่มบ่อยจนถึงขั้นติดเหล้า และไม่เคยมีการดื่มเหล้าขณะทำงานด้วย
ในส่วนของประเด็นค่าจ้างต่างๆ กามิน ระบุว่า ตนเองแทบจะไม่ทราบในเรื่องค่าจ้าง เพราะบริษัทเป็นคนจัดการได้รับค่าตอบแทนทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน และพอใจพร้อมขอบคุณมากๆ ในส่วนของภาษี มีการหัก ณ. ที่จ่ายแล้ว และต้องมีการหักที่เกาหลีอีกทีหนึ่งด้วยในปีหน้า ขณะที่การจ้างไลฟ์ 1 ล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องจริง และเพิ่งเคยจะได้ยิน จริงๆรู้สึกขอบคุณทุกคนที่คิดว่าการไลฟ์ 1 ครั้งจะได้ 1 ล้านบาท
ส่วนที่มีคนระบุว่า ตนเองพูดว่า “คนไทยหลอกง่าย” กามินยืนยันว่า ตนเองไม่เคยพูดและไม่เคยคิด เพราะได้รับความรักมากมาย จริงๆ แล้วไม่รู้ว่าข่าวนี้มาจากไหนและอยากทราบว่ามาจากไหน และขอให้ย้อนกลับไปถามคนที่พูดมากกว่า ส่วนประเด็นเข้ามาการฟอกเงินในไทย กามิน ระบุว่า ครอบครัวของตนเองไม่เคยทำอะไรแบบนั้น ไม่ใช่แก๊งต้มตุ๋น หรือ อาชญากร และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมในเกาหลีด้วย
ส่วนคำพูด อาทิ สก๊อยเกาหลี , สุวรรณมาลี และอื่นๆ อีกมากมาย ยอมรับว่าตอนรู้ความหมายก็รู้สึกเสียใจและก็ไม่กล้าบอกครอบครัว และไม่ทราบว่าตนเองไปทำอะไรผิดขนาดนั้น ถึงต้องใช้คำพูดรุนแรงขนาดนั้น
ตั้งแต่กลับไปเกาหลีตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ตนเองไม่เคยให้สัมภาษณ์และกล่าวร้ายว่าใคร และแม้กระทั่งวันนี้ด้วยเช่นกัน ข่าวต่างๆ ซึ่งยอมรับว่าเสียใจ และพี่ชายของตนเองที่ทำงานเป็นราชการต้องลาพักร้อนมา 1 เดือนเพื่อดูแลสภาพจิตใจของตนเอง และยังมีข่าวต่างๆ ออกมาตลอดเวลา และเหมือนจะมีมากขึ้น สุดท้าย กามิน การที่มีที่เมืองไทย มีหลายอย่างที่ได้เรียนรู้และขอบคุณทุกคน และตนเองก็รู้สึกรักคนไทยจริงๆ ตนเองออกมาวันนี้แค่ออกมาพูดความจริง และต้องการปกป้องตนเองและครอบครัวเท่านั้น
กามิน ยังตอบความสัมพันธ์ของอดีตคนรักว่า ในช่วงที่คบกัน มีปัญหาเล็กๆ น้อย อาจจะเป็นเพราะเรื่องของภาษา แต่ตนเองคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และไม่ใช่เพราะคนอื่นที่ทำให้เราเลิกกัน ซึ่งตนเองพยายามเต็มที่ และคนนั้นก็ช่วยดูแลอย่างดีเช่นกัน และพยายามคิดแต่เรื่องดี และไม่ได้มีความรู้สึกคิดลบ ในตอนนั้นได้รับข้อความบอกเลิก จึงไม่มีทางเลือกนอกจากกลับเกาหลี และยืนยันว่า เป็นความรักที่จริงใจ ไม่ได้มีอะไรติดค้าง และเลิกกันอย่างเคลียร์ใสสะอาด ในช่วงการแถลงข่าวช่วงสุดท้าย กามินได้ร้องไห้ออกมา
ส่วนจะกลับมาทำงานที่ไทยอีกหรือไม่นั้น กามิน ระบุว่า ยังไม่ได้คิดว่าจะสามารถกลับมาได้ไหม แต่หลังจากที่มาในวันนี้ยังพบมามีคนพร้อมสนับสนุนอยู่ แต่หากสภาพจิตใจดีขึ้น อาจจะลองคิดดูว่าจะกลับมาทำงานที่ไทยได้
ด้านทนายความของกามิน ระบุว่า เหตุการณ์ไม่ควรเดินมาถึงวันนี้ เมื่อกามินออกไปจากเกาหลีแล้ว ทุกอย่างควรจะจบ เพราะไม่มีใครถูกไม่มีใครผิดเป็นเรื่องของคนของคนสองคน แต่มีบุคคลกลุ่มหนึ่งกล่าวหาใส่ร้าย ข่มขู่ สร้างความเกลียดชังในสังคม ทำให้ชื่อเสียง ตนเองในฐานะ ทนายความ จี กามิน คนทุกคนที่สร้างวาทกรรมต่างๆ จะได้รับสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมายทุกคน และมีการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว 5 คน ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ยังไม่มีคู่กรณีแต่อยู่ในส่วนของการพิจารณา ซึ่งเบี้ยงต้นจะดำเนินคดีในเรื่องการหมิ่นประมาทและ พรบ.คอมพิวเตอร์