ช่วงเย็นวันนี้ ( 4 ธันวาคม ) นักแสดง-ผู้จัดสาว อ้อม พิยดา และพี่น้องอีก3คน โอ อัครพล , อ่อ ศิรดา , โอ๊ต นนทพร เปิดใจกับสื่อมวลชน ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ถึงการจากอย่างกระทันไปของหัวหน้าครอบครัว พ่อเปี๊ยก พิศาล ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อช่วงเช้ามืด โดยทั้งสี่คนได้เผยว่า
“พ่อบ่นว่าปวดหลังมากเลยเรียกรถโรงพยาบาลมารับที่บ้าน คุณหมอให้ยาแก้ปวดเบื้องต้นและรอดูอาการ จากนั้นติดต่อไปยังคุณหมอที่ทำบอลลูนหัวใจให้คุณพ่อ เลยย้ายไปที่อีกโรงพยาบาล อาการไม่ดีขึ้นและจากไปอย่างสงบ ซึ่งอาการของท่านเป็นอาการของคนหัวใจวาย มีอาการแน่นหน้าอก และเป็นอาการของโรคหัวใจล้มเหลว ตอนหลังคุณพ่อช็อคทางคุณหมอช่วยปั้มหัวใจประมาณ 2 ชั่วโมง ตามหลักการแพทย์จะประมาณครึ่งชั่วโมง แต่คุณหมอก็รอปาฏิหารย์ แต่ก็ไม่มีสัญญาณชีพ สุขภาพที่ผ่านมาก็ดี แต่ช่วงหลังมีเหนื่อย คุณพ่อเป็นโรคหัวใจตีบอยู่แล้วเส้นครึ่ง ทำบอลลูนไปแล้วหนึ่งเส้น อีกครึ่งเส้นคุณหมอบอกว่าไม่ต้องทำก็ได้ ให้ทานยาต่อเนื่อง คุมอาหาร แต่ท่านก็อาจจะไม่ได้คุม มีกินโน่นนี่บ้าง เมื่อวานที่ส่งโรงพยาบาลคุณพ่อไม่ได้พูดอะไร ทุกคนไม่ทันตั้งตัว อาการเริ่มต้นแค่เจ็บหลัง พอหายใจไม่ออกท่านก็จากไป ซึ่งไม่เกี่ยวกับการรักษาไม่ถูกวิธี อาจจะมีการสั่งงานขรุขระบ้าง เพราะไปถึงดึกแล้ว ทางการแพทย์ก็ช่วยกันอย่างเต็มที่ ทางครอบครัวไม่ติดใจ เชื่อว่าทุกคนหวังดี ตอนไปโรงพยาบาลอาการยังปกติดีและยังเดินได้ปกติ จริงๆเราอาจจะไปเข้าโรงพยาบาลอีกโรงพยาบาลนึงที่ไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็ไม่ได้ทำให้โรคเป็น พอทราบ ผู้ช่วยคุณพ่อก็โทรไปปรึกษากับคุณหมอเจ้าของไข้ พอรู้เรื่องก็รีบย้ายโรงพยาบาล ตอนนั้นดึกมากแล้ว คุณหมอเจ้าของไข้คุณพ่อที่ทำบอลลูนอยู่ต่างประเทศ การจากไปมองในทางที่ดี พ่อไปสบาย ถึงวาระของท่าน ท่านไม่ได้เจ็บไม่ได้ปวดอะไร ก่อนจากไปคุณพ่อบอกว่าหายใจไม่ออก เป็นประโยคสุดท้ายที่พูด หมอบอกว่าหลอดเลือดตีบฉับพลัน ทำให้ไม่จ่ายเลือดไปหัวใจ ที่คุณพ่อมีปัญหาอยู่แล้ว ตีบเส้นครึ่ง ทำบอบลลูนไปหนึ่งเส้น ซึ่งมันก็เอฟเฟคด้วยการที่อาจจะกินอาหารที่ไม่ถูกกับร่างกาย
ก่อนหน้าเสียคุณพ่อทำหนังสือประวัติตัวเองไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งก็จะใช้แจกในวันเผา ไม่เคยคิดว่าเป็นลางไม่ดี เพราะทำมานานแล้ว คุณท่านพ่ออยากเขียนประวัติตัวท่านเอง อยากเก็บรวบรวมเรื่องราวชีวิต พอทำเสร็จท่านเคยบอกคนสนิทว่า หรือจะเอาอันนี้ไว้แจกงานศพตัวท่านเอง ซึ่งเพิ่งทำเสร็จไม่นานนี้ การสูญเสียครั้งนี้ทุกคนในครอบครัวไม่มีใครตั้งรับทันกับ คุณพ่อไม่ได้สั่งเสียอะไร ท่านสบายใจเพราะลูกๆมีเส้นทางชีวิตที่ดี คุณพ่อสอนเสมอว่าให้อดทน ท่านเองก็อดทนทุกอย่าง ถ้าไม่เจ็บจริงๆจะไม่เคยบอก อย่างครั้งนี้ท่านไม่ไหวจริงๆถึงบอก ท่านเคยบอกว่าไม่ต้องห่วง ถ้าพ่อจะไปก็ไปเลย คิดว่าท่านไม่ห่วงอะไร พ่อสอนเสมอให้ดูแลคนที่ดีด้วย
ซึ่งจากนี้ อ้อม พิยดา จะเป็นคนสานต่องาน สุดท้ายอยากบอกคุณพ่อว่า พวกเราทุกคนจะเป็นคนดี หลับให้สบาย ไม่ต้องห่วง ลูกๆรักกันและจะดูแลกันตลอดไป”